ศาลยกฟ้องคดี “ทักษิณ ชินวัตร” ฟ้อง “ชวน หลีกภัย” ฐานหมิ่นประมาทฯ กรณีบรรยายนโยบายแก้ปัญหาไฟใต้สมัยรัฐบาลทักษิณ ศาลชี้เป็นการเเสดงความเห็นโดยสุจริตฯ โดยคดีนี้ยืดเยื้อมานาน 12 ปี
โดยเมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทนายความนายชวน ได้เดินทางมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีอาญาที่ หมายเลขดำ อ.1590/2565 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชวน เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328 ต่อกรณีที่นายชวนได้บรรยายที่โรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2555 โดยกล่าวถึงนโยบายการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ และมีคำพูดเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด
หลังเข้าฟังคำพิพากษาประมาณ 1 ชั่วโมง นายชวน ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้สืบพยานกันมา 7 วัน ศาลนัดอ่านคำพิพากษาวันนี้ แต่ตนได้ขอแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรก่อนที่จะมีคำพิพากษา เพื่อสรุปข้อเท็จจริงที่ได้สืบพยานกันมา และในที่สุดศาลยกฟ้องด้วยเหตุผลว่า “คำวิพากษ์วิจารณ์โดยตน ในฐานะจำเลยที่เป็นนักการเมือง และอดีตนายกรัฐมนตรี มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ประสบมา”
เนื่องจากในสำนวนได้มีการสืบพยานที่มาของคำพูด เช่น ฆ่าตัดตอน การฆ่าทิ้ง โดยมีอดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 มาเบิกความให้ เพราะเป็นคนเดียวที่ร่วมประชุมรับมอบนโยบาย เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2544 สมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี อันเกิดจากเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ วันที่ 7 เม.ย. และวันที่ 8 เม.ย. มีการพูดว่าคนร้าย มีไม่เกิน 7-8 คน ที่เป็นหัวโจกจัดการเดือนละ 10 คน 2 เดือนก็หมด เชื่อว่าตำรวจทำได้
ทั้งนี้ ถือว่ารองแม่ทัพภาคที่ 4 ถือเป็นอีกบุคคลที่กล้ามาเบิกความ และเป็นคนเดียวในวันดังกล่าวที่กล้าติงในทำนองที่ไม่เห็นด้วย ได้บันทึกถ้อยคำเอาไว้ ซึ่งหากเชื่อภาคใต้เราคงไม่นองเลือดแบบทุกวันนี้ แต่ผลจากวันนั้นเป็นที่มาของ 4 ม.ค.2547 ที่มีการปล้นปืนกว่า 400 กระบอก ซึ่งเป็นเหตุร้ายจนนำมาสู่การมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงผู้พิพากษา รวมแล้วกว่า 7,500 คน ซึ่งเป็นผลจากความผิดพลาดของนโยบาย ซึ่งนายทักษิณเคยยอมรับว่าผิดพลาด
ศาลเห็นว่าตนในฐานะนักการเมืองและมีประสบการณ์ ในสำนวนปรากฏว่าตนได้ไปเห็นด้วยตัวเอง และเรื่องนี้ได้สืบพยานทั้งหมด ศาลเห็นว่าจากประสบการณ์จำเลย จึงมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้างเนื่องจากคดีนี้ยาวนาน นายชวน ระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความจริง คงไม่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ฟังความจริงจากผู้ที่มีส่วนร่วมประชุมในวันนั้นและเป็นคนเดียวที่กล้าติง คือ พล.ท.เรวัตร รัตนผ่องใส รองแม่ทัพภาค 4
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการรื้อคดีความก่อนที่จะหมดอายุนั้น นายชวน กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ขาดอายุความ เพราะคดีมีเรื่องแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะโดนตำหนิได้ จึงต้องการให้สืบพยานให้จบ เพื่อคดีจะได้จบ และยุติโดยศาลเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นนี้จะนำไปสู่ปัญหาไฟใต้อีกครั้งหนึ่งหรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า ต้องรอดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความผิดพลาดของนโยบาย เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2544 นำมาซึ่งความสูญเสียมากแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน จะไปไกลขนาดไหน ต้องรอดูว่าเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วประมาณกว่า 40 ครั้ง ก็มองว่าคงไม่ธรรมดา