‘บอร์ด กสทช.’ มีมติเอกฉันท์ 7-0 ตัดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ออกจาก ‘กฎ Must Have’ ระบุที่ผ่านมาต้องเอาเงินกองทุนไปอุดหนุน แต่ไม่มีคนไทยแข่ง เปิดทางเอกชนซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ปูดต้นตอ! เงินอุดหนุน 600 ล้าน ซื้อสิทธิ์ถ่ายบอลโลกครั้งก่อนเป็นเหตุ หลังก่อดราม่ายืดเยื้อในบอร์ด กสทช.
ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กล่าวภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช. ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ 7-0 เห็นควร ‘ยกเลิก’ ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ.2555 หรือ ‘กฎ Must Have’
โดยให้ถอนการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ออกจากประกาศที่กำหนดให้รายการกีฬา 7 ประเภท เหลือเพียง 6 ประเภท ได้แก่ 1.กีฬาซีเกมส์ 2.กีฬาเอเชียนเกมส์ 3.อาเซียนพาราเกมส์ 4.เอเชียนพาราเกมส์ 5.กีฬาโอลิมปิก 6.กีฬาพาราลิมปิก ซึ่งเป็นรายการที่คนไทยมีโอกาสเข้าร่วมแข่งขัน หากใครซื้อลิขสิทธิ์มาต้องเผยแพร่ทางฟรีทีวี
ทั้งนี้ จะส่งผลให้ ‘ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2026’ ที่จะมีประเทศแคนาดา ,เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพร่วมนั้น จะไม่มีการนำเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส.ไปสนับสนุนอีก
สาเหตุที่ตัดฟุตบอลโลกออก เพราะมีมูลค่าเชิงพาณิชย์ และเป็นไปตามกลไกการแข่งขันทางการตลาดได้ชัดเจน และเป็นประเภทที่มีอุปสรรค ปัญหามาโดยตลอด
ทั้งนี้ การหารือประเด็นดังกล่าว ที่ประชุม กสทช.มีการเสนอว่า ในเมื่อฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไม่มีคนไทยเข้าแข่งขัน ก็ไม่รู้จะใช้เงินกองทุน กทปส.ไปสนับสนุนทำไม เพราะเงินกองทุนก็ทำเพื่อให้มีการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียมสำหรับผู้ที่ขาดโอกาส แต่ต้องถามว่า ‘ฟุตบอลโลก’ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนหรือไม่
ดังนั้น เวลามีกีฬาบางประเภท เช่น โอลิมปิก ก็มีการเสนอความคิดเห็นว่าจะถ่ายทอดสดเฉพาะแต่กีฬาที่คนไทยได้เข้าร่วมการแข่งขัน หรือเฉพาะรอบชิงชนะเลิศในกีฬาทุกชนิด สามารถทำให้ได้ดูฟรีทั้งหมด ขณะเดียวกันกีฬาที่คนไทยไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันอาจมีคุณค่าทางธุรกิจ เอกชนอื่นๆ ต้องการถ่ายทอด ทำธุรกิจอื่นๆ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเอกชน
ด้าน น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ‘กฎ Must Have’ ผ่านมาถึงวันนี้ ก็ 10 ปีแล้ว ดังนั้นบริบทการถ่ายทอดก็เปลี่ยนแปลงไป และจนถึงวันนี้ก็ถือว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ก็เข้าสู่กลไกการแข่งขันอย่างสมบูรณ์แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการอุดหนุนเงินฟุตบอลโลกเป็นดราม่ายืดยื้อในบอร์ด กสทช.ลามมาถึงทุกวันนี้ จากกรณีที่เมื่อการประชุม กสทช. วันที่ 23 ม.ค.2566 กรรมการ กสทช.ทั้ง 4 คน ลงมติเสียงข้างมากปลด ‘นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล’ พ้นจากรักษาการเลขาธิการ กสทช. จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีอนุมัติเงินกองทุน กทปส. เพื่อสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก จำนวน 600 ล้านบาท โดยนายไตรรัตน์ ถูกตั้งกรรมการสอบ จนทำให้เป็นคดีฟ้องร้องเกิดขึ้นในบอร์ด กสทช.