“เสรี” เชื่อมีกระบวนการจ้องล้มกระดานเลือก สว. หลังคนปูด “โพยก๊วนฮั้วเลือก สว.” แนะ กกต.ทำตามกฎหมาย พบคนใช้เงินจ้าง-จัดตั้ง ไล่เช็กบิลเป็นรายบุคคล อย่าคว่ำทั้งหมด
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการติดตามกระบวนการเลือก สว. ที่มีประเด็น “โพยก๊วนฮั้วเลือก สว.” ว่า กรณีดังกล่าวเชื่อว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการเลือก สว. จะติดตามผ่านกระบวนการติดตามตรวจสอบ ซึ่งตนมองว่าการกล่าวหาไม่ควรกล่าวอ้างแบบลอยๆ แต่ควรมีหลักฐานมาแสดง หรือบุคคลที่อยู่ในการเลือก สว.ออกมายอมรับเอง
อย่างไรก็ดี ตนมองว่าประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นการพูดโดยไม่มีหลักฐาน อาจมีเจตนาที่ทำให้เกิดกระบวนการล้มกระดานการเลือก สว. ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศได้ เพราะถึงเวลาต้องเปลี่ยน สว.แล้ว แต่เปลี่ยนไม่ได้ อีกทั้งรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติจำกัดวาระของวุฒิสมาชิกไว้ แต่หากประกาศ สว.ใหม่ไม่ได้ คนเก่าอยู่ต่อ บ้านเมืองอาจจะวุ่นวายได้
สำหรับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้มี สว. ผ่านการเลือกกันเองและมีการจ่ายเงินค่าสมัคร ดังนั้นใครที่สมัครเข้าไปสู่กระบวนการเพื่อไปเลือก หรือสมัครไปโหวตนั้น ตนมองว่าสามารถทำได้โดยไม่ผิดกับรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ยกเว้นพบการกระทำที่มีการใช้เงินว่าจ้าง หรือใช้เงินซื้อคะแนนโหวต ซึ่ง กกต.ต้องจัดการกับผู้ที่ทำผิด
“มองว่าที่เปิดประเด็นการฮั้วเลือก สว. หากมีหลักฐานต้องเอาผิด และ กกต.ต้องทำให้เรียบร้อย ส่วนไทม์ไลน์ที่ กกต. วางไว้ว่าจะประกาศ สว.ใหม่ ในวันที่ 2 ก.ค.นั้น ตนสนับสนุนให้ประกาศไปก่อน หากมีประเด็นต้องตรวจสอบหรือเอาผิด สามารถย้อนหลังได้ เพราะเข้าใจว่ากระบวนการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต้องใช้เวลา และมีขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรมกว่าจะได้ข้อเท็จจริงปรากฎเป็นข้อยุติ” นายเสรี กล่าว
เมื่อถามว่ามีการผู้ระบุว่า หากการเลือก สว.ส่อทุจริต ให้ กกต.ระงับการรับรองผลเลือก สว.ไปก่อน และมองว่าหาก กกต.เร่งประกาศไปก่อนอาจจะเป็นการกระทำที่ส่อผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นายเสรี กล่าวว่า เป็นเจตนาที่ต้องการข่มขู่ กกต.แบบรายวัน เพราะตามกฎหมายแล้ว กกต.มีดุลยพินิจ และรัฐธรรมนูญให้สิทธิ กกต.ตัดสินใจ ซึ่งตนมองว่าไม่ว่าใครต้องยอมรับในหลักการและกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ถามต่อว่า กมธ.การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า กมธ.การเมืองฯ ประชุมเท่าที่จำเป็น แต่ไม่ได้ติดตามการเลือก สว. เพราะเขาห้ามให้ สว.เข้าไปยุ่งเรื่องดังกล่าว หากไปยุ่งอาจจะมีประเด็นประโยชน์ทับซ้อนได้
นายเสรี กล่าวด้วยว่า กระบวนการเลือก สว.ที่เกิดขึ้นก่อนการลงคะแนนเลือกระดับอำเภอ ส่วนตัวมองว่ามีความโกลาหลพอสมควร โดยเฉพาะกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ เช่น การเสียสิทธิของผู้สมัครเพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วน บางอำเภอมีผู้สมัครเพียงรายเดียวทำให้เลือกไขว้ไม่ได้ ส่วนประเด็นที่ว่ามีการ ‘ฮั้ว’ หรือจัดตั้งนั้น หากมีหลักฐานการใช้เงินว่าจ้างสมัครต้องดำเนินคดีเป็นรายบุคคล แต่ไม่ควรล้มกระดานการเลือก สว.ทั้งหมด ซึ่งในกระบวนการล้มกระดานนั้น อาจทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนได้ เพราะอาจมีคนที่ชอบและไม่ชอบให้อยู่ยาว