ทูตสหรัฐฯ ดอดพบ “สุทิน” หลังส่งหนังสือจี้นายกฯ เร่งเครื่องโค้งสุดท้ายดันซื้อ “เอฟ-16” พร้อมเสนอเงินกู้ยืม 9 ปี-ดอกเบี้ยต่ำ หวังปาดหน้า ‘กริพเพ่น/E’ เครื่องบินรบสัญชาติสวีเดน ด้าน ‘กองทัพอากาศ’ เตรียมเคาะแบบเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าพบนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือทางทหารในการเสนอขายเครื่องบิน F-16 block70 ของบริษัท ล็อคฮีด มาร์ติน หลังจากได้ยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ยังไม่มีรายงานว่าเนื้อหาในหนังสือที่ส่งให้นายกรัฐมนตรีมีรายละเอียดอย่างไร คาดว่าเป็นการแจ้งข้อเสนอในเรื่องของความช่วยเหลือเพิ่มเติม นอกจากโปรแกรมการซื้ออาวุธ ในโครงความช่วยเหลือกับมิตรประเทศ และข้อมูลการค้าต่างตอบแทนที่มีกับไทย โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยังได้เชิญ รมว.กลาโหมของไทย ไปเยือนสหรัฐฯ ด้วย
ด้าน พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนกองทัพอากาศจีนอย่างเป็นทางการ ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องที่ทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี แต่ในส่วนของกองทัพอากาศกำลังดำเนินการตามขั้นตอนในการคัดเลือกแบบให้มีความคุ้มค่าในทุกด้าน และเป็นไปตามนโยบายการตอบแทนทางเศรษฐกิจ โดยยังรับฟังข้อเสนอที่เพิ่มเติมจากทั้ง 2 ชาติ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการประชุมเชียงการีน่าไดอาล็อค ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา “พล.อ.ลอยด์ ออสติน” รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้ร่วมหารือทวิภาคี กับนายสุทิน พร้อมหยิบยกข้อเสนอในโปรแกรม Foreign Military Financing (FMF) ซึ่งเป็นการมอบเงินช่วยเหลือและเงินกู้แก่ในรัฐบาลประเทศพันธมิตร เพื่อใช้ในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร และการฝึกอบรมของสหรัฐฯ ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณแต่มีความจำเป็นในการพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร จากเดิมที่มีการลดราคา F-16 block แล้ว จะให้ผ่อนชำระในระยะยาว 9 ปี มีดอกเบี้ยต่ำกว่า 5% ซึ่งต่ำกว่ากรอบที่กำหนดไว้ และเป็นระยะเวลาที่ผ่อนยาวกว่าการจัดซื้อปกติ ซึ่งสหรัฐฯ จะอนุมัติให้กับมิตรประเทศที่ใกล้ชิด
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในร่างพระราชบัญญติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ได้บรรจุรายละเอียดโครงการผูกพันงบประมาณในปีแรก วงเงินประมาณ 3,500 ล้านบาท จำนวน 4 โครงการ ซึ่งหนึ่งในนั้น เป็นงบจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน 4 เครื่อง (ระยะที่ 1) แต่ในเอกสารงบประมาณไม่ได้แบ่งเป็นรายการให้เห็นว่าเป็นโครงการใดบ้าง โดยจะเข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการวิสามัญฯ ในช่วงเดือน ก.ค.นี้ ก่อนลงมติในวาระ 2 และวาระ 3 ต่อไป
ทำให้ระหว่างนี้ บริษัทและประเทศผู้ผลิตเครื่องบินรบจาก 2 ชาติ คือ SABB จากสวีเดน ผู้ผลิตเครื่องบิน Gripen /E และ Lockheed Martin สหรัฐฯ ผู้ผลิตเครื่องบิน F-16 block 70 ซี่งกองทัพอากาศให้ความสนใจ ต่างเร่งยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมเพื่อให้ชนะการคัดเลือกในโค้งสุดท้าย ซึ่งคณะกรรมการพิจารณารวบรวมข้อมูลฯ ที่มี พล.อ.อ.เสกสรร คันธา เสนาธิการทหารอากาศเป็นประธาน เดิมจะแถลงข่าวผลการสรุปว่า เครื่องบินแบบใดได้รับคะแนนลำดับที่ 1 และ 2 แต่ได้เลื่อนออกไปก่อนเพื่อรอเอกสารจากบริษัท กองทัพอากาศก็จะให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ เป็นผู้เลือกแบบในขั้นตอนสุดท้าย