ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เผยคดี “ยุบก้าวไกล-คุณสมบัตินายกฯ” รู้ผล ก.ย.นี้ เหลือแค่รอเอกสารหลักฐานจากคู่กรณี รับสังคมกดดันหนักแต่เข้าใจได้ เพราะเป็นคดีสำคัญ ย้ำประชุมวินิจฉัยคดี องค์คณะมีความเที่ยงธรรม-ตัดสินอย่างไรเปิดเผยหมด
นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์กรณีการประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ว่า มีหลายเรื่อง อาทิ เรื่องกฎหมายเช็คขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรื่อง MOU ไทย-กัมพูชา รวมถึงกรณีคำร้องที่ขอให้ยุบพรรคก้าวไกล และกรณี 40 สว. ยื่นคำร้องขอให้ถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หลังแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่านายพิชิต ขาดคุณสมบัติ ว่าเอกสารพยานหลักฐานที่ส่งมาครบถ้วนหรือไม่
ส่วนจะมีการไต่สวนหรือไม่ ขอให้มีการคุยกันในองค์คณะก่อน ถึงตนจะเป็นประธานก็ยังตอบไม่ได้ ไม่สามารถไปแทรกแซงความเป็นอิสระของท่านอื่นได้ ดังนั้นขอให้รอฟังผลการประชุม อย่างไรก็ตามทั้ง 2 คดีน่าจะเสร็จก่อนเดือน ก.ย.นี้แน่นอน แต่เรื่องไหนจะเสร็จก่อนตนไม่ทราบ ทั้งนี้ในคดีของพรรคก้าวไกล เป็นเพียงแค่การขอเอกสารหลักฐานจากคู่กรณีเท่านั้น
เมื่อถามว่ามีความกดกัน หรือกังวลอะไรหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า การทำงานเรา มีการกดดันตัวเอง สังคมก็กดดันเรา เป็นที่เข้าใจได้เพราะเป็นคดีสำคัญ อย่างไรก็ตาม เราต้องมีความเที่ยงธรรม ดูให้พอเหมาะพอควร ให้เขาชี้แจงข้อสงสัย แล้วไปประชุมวินิจฉัยกันอีกครั้ง ย้ำว่า การตัดสินใจของศาลเป็นการตัดสินใจโดยองค์คณะ ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งองค์คณะก็มีความเห็นเป็นอิสระ ส่วนผลก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนในใบแถลงข่าว ใครเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย ใครตัดสินใจอย่างไร มีการเปิดเผยหมด
เมื่อถามถึงคดีของพรรคก้าวไกล คู่กรณีออกมาเคลื่อนไหว 2 ครั้งแล้ว จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า จะต้องให้องค์คณะเป็นผู้พิจารณา คิดว่าไม่น่ามี
เมื่อถามย้ำกรณีที่พรรคก้าวไกลมีการแถลงข่าว จะถือว่าผิดคำสั่งศาลที่ให้หยุดเคลื่อนไหวหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า เป็นคำแนะนำ และคำเตือนของศาล ต้องดูความพอเหมาะพอดีพอควร ขอย้ำว่า ศาลไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ตนเป็นหนึ่งในฐานะองค์คณะตุลาการจึงไม่ขอตอบโต้อะไร ส่วนเขาจะออกมาอธิบายอะไรได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับองค์คณะที่จะพิจารณา
“สื่อมวลชนเห็นว่าทำได้หรือไม่ สังคมเสรีก็เป็นเช่นนี้ สังคมไทยมีสิทธิเสรีภาพพอสมควร เขาก็ดำเนินการไปในสิ่งที่เขาเห็นว่าพอเหมาะพอควร ยืนยันว่าศาลไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เพราะฉะนั้นศาลจะไม่ตอบโต้กับเรื่องเหล่านี้” นายนครินทร์ กล่าว