ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติฯ บุก บช.ก. ยื่นหลักฐาน-เอกสารลับ! มัดแก๊ง จนท.รัฐเอื้อนายทุนฮุบป่าทับลาน ลักลอบออกโฉนดที่ดิน ส.ป.ก. กว่า 600 ไร่ งามหน้า! ออกเอกสารสิทธิ์ให้ 13 นอมินี โยงรองเลขาฯ ส.ป.ก. แถมมีคนใน สตง.เอี่ยวด้วย ด้าน “บิ๊กเต่า” ชงตั้งชุดติดตาม ร่วมด้วย ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-กรมป่าไม้
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) บช.ก. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำเอกสารราชการเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. ,ภาพถ่ายทางอากาศ ,รายละเอียดการออกโฉนดที่ดิน มามอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อดำเนินการตรวจสอบและขยายผลเอาผิดกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปลักลอบออกโฉนดที่ดิน เพื่อใช้ทำประโยชน์ในการประกอบธุรกิจซึ่งผิดวัตถุประสงค์ ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนและคณะได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพื้นที่ ซึ่งพบข้อมูลว่า มีการออกเอกสารสิทธิ์มิชอบ 2 แห่ง ในอำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตป่าสงวนอุทยานแห่งชาติทับลาน แต่กลับพบว่ามีความพยายามจากเจ้าหน้าที่รัฐ จ.นครราชสีมา ในการออกเอกสารสิทธิ์เป็นที่ดิน ส.ป.ก. ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในแนวเขตที่สามารถกระทำได้ จึงได้มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำมาปรึกษากับรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำหรับนำข้อมูลมาพิจารณาเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.นครราชสีมา) ประมาณ 14-15 คน
โดยหนึ่งในนั้น พบมีหน้าที่เป็นรองเลขาธิการ ส.ป.ก. และมีความเชื่อมโยงกับกรณีออกเอกสารสิทธิ์ให้ 13 นอมินี ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โคราชกว่า 600 ไร่ เพื่อรองรับน้ำเสียของนายทุน รวมถึงกลุ่มผู้ชงเรื่อง ในสังกัดสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อีกด้วย
เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถแจ้งดำเนินคดีเอาผิดกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำ จัดการ รักษาทรัพย์ใดๆ ร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังได้รับข้อมูลดังกล่าวแล้ว ได้เสนอ ผบช.ก. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามการทำงาน โดยจะมีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ,สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกรมป่าไม้ เข้ามาร่วมด้วย อีกทั้งจะมีการนำข้อมูลชุดที่ได้ไปเปรียบเทียบกับข้อมูลของนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป