“ประธานวิปรัฐบาล” แจงโควตา “รองประธานสภาฯ คนที่ 1” เป็นของ “ภูมิใจไทย” รอเคาะ! 13 ส.ค.นี้ ยัน “เพื่อไทย” ไม่ดัน “พิเชษฐ์” สลับเก้าอี้ ยันไม่กระทบลดเก้าอี้ ปธ.กมธ. “พรรคประชาชน” เมินเสียงตอบรับพรรคส้มคึกคัก ชี้เอฟซีใครก็ต้องหนุน
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ว่า โควตาดังกล่าวเป็นของพรรคภูมิใจไทย แต่ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้แจ้งมาว่าจะให้ใครดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งใครไปชิงตำแหน่งนี้ และไม่จำเป็นต้องสลับตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 กับรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย เพราะนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ไม่ขอสลับ และไม่ขอลาออกจากตำแหน่ง ณ ตอนนี้โควตารองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นของพรรคภูมิใจไทย แต่ต้องรอการหารือวิปรัฐบาล ในวันที่ 13 ส.ค.นี้อีกครั้ง
“มั่นใจว่าไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน การเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 หรือคนที่ 2 ไม่ต่างกัน เท่าเทียมกัน การทำงานใกล้เคียงกัน ต่างกันแค่สำนักงานที่อยู่ในความดูแล ที่ขึ้นอยู่กับประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมอบให้ใครดูแลงานด้านไหน ไม่มีการก้าวก่ายกันอยู่แล้ว เชื่อมั่นการทำงานจะเป็นไปด้วยความราบรื่น”
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า การพิจารณาปรับโควตาตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ภายหลังจากเสียง สส.ของพรรคประชาชน ลดลง 5 เสียงนั้น ส่วนตัวเห็นว่า จำนวน สส.ของพรรคประชาชนที่หายไป 5 คน ลดลงแค่เล็กน้อย ดูแล้วคงยากที่จะให้มาสลับตำแหน่งกันใหม่ อัตราส่วนยังคงใกล้เคียงของเดิมอยู่ คงไม่ถึงขั้นมีผลกระทบให้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญของพรรคประชาชนต้องมาทบทวนกันใหม่ อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของตนเท่านั้น จะต้องมาคุยกันในที่ประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 13ส.ค.ก่อน พรรคร่วมรัฐบาลอื่น อาจเห็นไม่เหมือนตนก็ได้ เราทำงานในนามพรรคร่วมรัฐบาล ต้องรับฟังความเห็นร่วมกัน
เมื่อถามถึงกรณีพรรคประชาชนมีผู้สมัครสมาชิกพรรคจำนวนมาก และสามารถระดมเงินบริจาคได้มากกว่า 20 ล้านบาท ในระยะเวลาดำเนินการเพียงไม่กี่วัน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้รู้สึกหนักใจ เอฟซีของใครก็ย่อมสนับสนุนพรรคของตัวเอง เป็นเรื่องปกติ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายพรรคจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมากน้อยแค่ไหน การที่พรรคประชาชนประกาศความเชื่อมั่นจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวในการเลือกตั้งปี 2570 นั้น ก็ต้องดูถึงเวลาจะทำได้จริงหรือไม่
“เหลือเวลาอีก 3 ปี สถานการณ์ในอนาคตคาดการณ์ไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่พรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบายและการแก้ปัญหาความเดือนร้อนให้ประชาชน จะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและเสียงตอบรับจากประชาชนในการเลือกตั้งสมัยหน้า โดยเฉพาะขณะนี้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ใกล้จะแจกเงินถึงมือประชาชนในปลายปี ทำให้เสียงตอบรับของรัฐบาลและพรรึเพื่อไทยดีขึ้นมาก รวมถึงราคาพืชผลการเกษตรหลายอย่างก็ดีขึ้น ทำให้คะแนนพรรคเพื่อไทยกลับมาดีขึ้นอย่างมาก” นายวิสุทธิ์ กล่าว