Home Thailand ‘ราเชน’ ร้อง กกต.บี้สอบ ‘พรรคส้ม’ ใช้บัญชีคนกลาง รับบริจาคเงิน !!

‘ราเชน’ ร้อง กกต.บี้สอบ ‘พรรคส้ม’ ใช้บัญชีคนกลาง รับบริจาคเงิน !!

by admin

“ราเชน” หน.พรรคทางเลือกใหม่ จี้ กกต.ตอบชัด ปมไฟเขียว “พรรคประชาชน” ใช้บัญชีคนกลางรับบริจาคเงิน ทำได้หรือไม่ หวั่นบุคคลต้องห้ามร่วมลงขัน แนะ กกต.ใช้อำนาจเรียกเอกสารสอบเร่งด่วน

วันที่ 19 ส.ค. นายราเชน ตระกูลเวียง หัวหน้าพรรคทางเลือกใหม่ เข้ายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบข้อสงสัยเนื่องจากพรรคประชาชนออกมาแถลงว่า มีการบริจาคเงินผ่านบัญชีคนกลาง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วพรรคการเมืองจะมีบัญชี 3 บัญชี คือ บัญชีพรรคการเมือง บัญชีที่รับบริจาค บัญชีขอเงินอุดหนุน

โดยนายราเชนทร์ กล่าวว่า ตามปกติหากประชาชนประสงค์ที่จะบริจาคเงินให้กับพรรคการเมือง สามารถบริจาคเข้าโดยตรงกับบัญชีของพรรคการเมืองที่เปิดกับธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไป เมื่อเปิดบัญชีกับธนาคารพาณิชย์แล้วภายใน 7 วันพรรคการเมืองจะต้องส่งบัญชีให้กับ กกต.เป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติโดยทั่วไปของพรรคการเมืองอย่างถูกต้อง

แต่ล่าสุดกรรมการบริหารพรรคประชาชนออกมาแถลงว่า การบริจาคเงินของพรรคประชาชนต้องผ่านบริษัทกลางก่อน หรือบัญชีกลางก่อน แล้วถึงจะบริจาคเงินให้กับบัญชีของพรรค ตนจึงตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยว่า ทำไมจึงต้องบริจาคผ่านบัญชีกลางก่อน  มีบริษัทกลาง แล้วค่อยนำส่งเงินให้กับบัญชีของพรรคประชาชน ดังนั้นบัญชีที่เป็นบัญชีกลางจะตรวจสอบการโอนเงินได้อย่างไร   และตรวจสอบได้หรือไม่ จึงขอให้ กกต.ดำเนินการ

อีกทั้งในการตรวจสอบบัญชีสามารถตรวจสอบลงลึกว่ามีบุคคลต้องห้ามในการบริจาคให้กับพรรคการเมืองหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 24  ที่ระบุว่า บุคคลต่างด้าวที่ไม่ใช่สัญชาติไทยถือว่าเป็นข้อห้ามในการที่จะบริจาคให้กับพรรคการเมือง เพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการของพรรคการเมือง

นายราเชน กล่าวว่า พรรคประชาชนได้ทำหนังสือสอบถามถึง กกต. และ กกต.อนุญาต ตนจึงตั้งประเด็นนี้เพื่อสอบถาม กกต.ว่า ถ้าบัญชีแบบนี้สามารถทำได้หรือไม่ และ กกต.อนุญาตได้อย่างไร แล้ววิธีการตรวจสอบ กกต.จะตรวจสอบกับธนาคารพาณิชย์ที่เปิดบัญชีได้อย่างไร หากมีบุคคลต้องห้ามในการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมือง แต่เป็นบัญชีที่ถูกกลั่นกรองมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงอยากให้ กกต.ทำความกระจ่างให้กับสาธารณชน โดยการตรวจสอบว่ามีบุคคลต้องห้ามได้บริจาคให้กับพรรคการเมืองหรือไม่ ถ้ามีการบริจาคก็ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น กกต.ต้องเร่งดำเนินการให้กระจ่าง

“ตามที่เขาแถลงบอกว่า ได้ทำเรื่องขออนุญาต กกต.แล้ว แต่วิธีปฏิบัติทั่วๆ ไป ผมเชื่อได้ว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนเขาถาม เพราะปกติแล้วจะโอนให้กับพรรคการเมืองโดยตรงเลย เพราะบัญชีที่เปิดมาทุกบัญชี ไม่ว่าจะเป็นบัญชีอุดหนุน บัญชีเงินบริจาค บัญชีสมาชิก เขาจะต้องระบุชัดเจนเลยว่าเปิดบัญชีเพื่ออะไร แล้วทุกเดือนจะต้องไปอัพเดท และทุกปีต้องทำงบดุล แล้วต้องส่งให้ กกต. ตรวจสอบทุกเดือน และการที่มีบัญชีกลางแบบนี้ ผมก็เพิ่งทราบว่ามีบัญชีกลางในการรับบริจาคก่อนกรรมการบริหารพรรคประชาชนได้แถลง”

จึงตั้งข้อสังเกตเพื่อให้ กกต.ดำเนินการอย่างถูกต้องและตรงไปตรงมา เพราะเกรงว่าจะมีบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติในการบริจาคให้กับพรรคการเมืองปะปนอยู่ด้วย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีบุคคลที่มีอายุแค่ 16 ปี เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ทั้งที่ตามกฎหมายกำหนดจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ดังนั้นก็อาจมีประเด็นเหล่านี้หลุดเข้าไปได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ จึงจำเป็นต้องยื่น กกต.ตรวจสอบโดยด่วน

นายราเชน กล่าวอีกว่า ตนอยากให้ กกต.ชี้แจงว่าพรรคการเมืองมีอำนาจทำได้หรือไม่ ตามที่ได้กล่าวอ้าง ถ้าทำได้จริงประเด็นต่อมาคือ การจะตรวจสอบบัญชีเหล่านั้นสามารถทำได้หรือไม่ เพราะตอนนี้มีข้อกำหนดว่าจะต้องส่งบัญชีให้ กกต.ตรวจสอบ  และ กกต.มีอำนาจทางกฎหมายที่จะเรียกตรวจสอบบัญชีบุคคลภายนอกหรือไม่ และบัญชีกลางสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ว่า มีบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะสนับสนุนบริจาคให้กับพรรคการเมือง ซึ่งมองว่าทั้ง 2 ประเด็นเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นที่มีบุคคลต้องห้ามบริจาคเข้ามาหรือไม่

เมื่อถามว่าบุคคลที่มีอายุ 16 ปีสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายราเชน กล่าวว่า จะต้องไปตรวจสอบและจะต้องไปดูข้อกฎหมายว่าอายุ 16 ปีสามารถบริจาคเงินได้หรือไม่ โดยบริจาคในลักษณะไหนอย่างไร ซึ่งกฎหมายวางกรอบไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าทุกอย่างต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบลงลึกในรายละเอียด กกต.มีกฎหมายว่าจะลงโทษสั่งปรับ โดยมีมาตรการจากเบาไปหาหนักอยู่แล้ว ปรับตั้งแต่ 50,000 บาท หรือวันละ 1,000 บาท จนกว่าจะปรับปรุงให้แล้วเสร็จ   แล้วแต่ประเด็น

ส่วนจะยุบพรรคหรือไม่อยู่ที่กฎหมายของ กกต. เรื่องนี้ กกต.จะต้องดำเนินการทันที แล้วต้องตอบคำถามให้กับสังคมภายใน 3 วันถึง 7 วันด้วยซ้ำ เพราะเป็นเรื่องไม่ยาก จึงขอให้ กกต.ใช้อำนาจเรียกเอกสารแล้วตรวจสอบว่ามีบุคคลต้องห้ามหรือไม่ ถ้ามีบุคคลต้องห้ามต้องดำเนินการทันที

Related Articles

Leave a Comment