Home FeatureSpotlight คมข่าว 4/9/67

คมข่าว 4/9/67

by admin

คอลัมน์ “คมข่าว” สุดสัปดาห์… ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฎกรรมคร่าชีวิตเด็กน้อย 20 ราย และขอสดุดีแด่คุณครูผู้กล้าหาญทั้ง 3 ท่าน ซึ่งทำหน้าที่ของแม่พิมพ์ปกป้องลูกศิษย์จนวินาทีสุดท้าย จากอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ ระหว่างนำนักเรียนทัศนศึกษา โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นสร้างความเศร้าสลดใจอย่างยิ่งต่อสังคม จะมีก็แต่ สส.พรรคประชาชนบางคนที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับความสูญเสียเหล่านี้ ยังคงหยิบฉวยเวลาแห่งความเศร้าโศก แสดงอารมรณ์ขำขัน เสียดสีการเมืองฝ่ายตรงข้าม เพียงเพื่อดิสเครดิตทางการเมือง บ้านเมืองเรามีผู้แทนประชาชนที่ใจอำมหิตเช่นนี้หรือ มีความเป็นมนุษย์กี่มากน้อย ประชาชนย่อมตัดสินได้ …★★★… “เดินดงคมข่าว” สดับฟังสิ่งเหล่านี้ด้วยความสลดหดหู่ใจยิ่ง มีกระแสเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกการทัศนศึกษากันเลยทีเดียว จนอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย ต้องใช้เวลาอภิปรายในสภาฯ ว่า “การทัศนศึกษาคือสิ่งสำคัญ และมีความจำเป็นต่อการพัฒนาเด็กเยาวชนของชาติ” ซึ่งเราก็เห็นพ้องเช่นนั้น หากแต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น รากเหง้าปัญหาคือ ความย่อหย่อนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการที่มักง่ายเห็นแก่ตัวหวังแต่ผลกำไร ดัดแปลงสภาพรถที่มีอายุใช้งานเก่ากว่า 50 ปี กระทรวงคมนาคมปล่อยปละละเลยสิ่งเหล่านี้มาหลายสมัยรัฐบาล และคนที่ยึดครอบเก้าอี้ รมว.คมนาคม มากที่สุดในประเทศไทย ก็คือรัฐมนตรีคนปัจจุบันที่ชื่อ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่เพิ่งออกมาเสนอหน้าแสดงท่าทีแข็งขันจะกวดขันผู้ประกอบการ คำถามคือ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” มีผลงานในการสร้างกระทรวงคมนาคมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนกี่มากน้อย ตรงข้ามที่ผ่านมาชื่อของเขามักตกอยู่ในเป้าสายตาของสื่อมวลชนเกี่ยวกับความไม่โปร่งใส โดยเฉพาะโครงการใหญ่ในท่าอากาศยาน กฎระเบียบ กฎหมาย กฎกระทรวงในทางปฏิบัติมีกี่มากน้อย รถบัสที่จดทะเบียนมากว่า 50 ปี ยังสามารถใช้งานดัดแปลงพิสดาร ติดก๊าซเอ็นจีวีให้บริการประชาชนได้อย่างไร มาตรฐานความปลอดภัย การอบรมพนักงานขับรถ และข้อกำหนดเด็กท้ายรถ มีหรือไม่อย่างไร ไฉนเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้รถ ประตูฉุกเฉินจึงเปิดไม่ได้ คนขับรถก็ขาดทักษะในการช่วยเหลือผู้โดยสาร ซ้ำยังหนีจากพื้นที่เกิดเหตุไปอย่างเลือดเย็น!!!! สิ่งเหล่านี้คนเป็นเสนาบดีต้องดำเนินการ เก้าอี้ รมว.คมนาคม มันไม่ใช่สมบัติของ “สุริยะ” ที่จะถือครองแบบไร้ยางอายเช่นนี้ เพราะตลอดระยะเวลาหลายสมัยรัฐบาล เสนาบดีผู้นี้ไม่ได้มีผลงานใดเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชนเลย เมื่อพ้นจากกระทรวงคมนาคม ก็เข้าไปนั่งว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม วนเวียนอยู่อย่างนี้ ไม่ละอายใจบ้างหรือ??? …★★★…

ส่วนนนายกฯ พ่อให้มา “แพทองธาร ชินวัตร” อุ้งอิ้งก็ไม่ต้องไปเสียเวลาถามหาวิชั่นใด เพราะนักข่าวจะได้คำตอบแบบเดิมๆ ว่า … “เรื่องนี้ คงต้องหารือกันทุกภาคส่วน..คงต้องมีการพูดคุยกัน” ก็ไอ้ที่สุมหัวนั่งประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กันทุกวันอังคาร มันไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยหรือ จึงตอบคำถามแบบดักดานเช่นนี้ไปเสียทุกเรื่อง ถามเรื่องน้ำท่วม ก็ต้องกางโพยอ่านผิดๆ ถูกๆ ขายขี้หน้าร่ำเรียนจบสถาบันอะไรมากันจ๊ะนายกฯ คุณหนู วันๆ บ่นเหนื่อย กลับบ้านไปเลี้ยงลูกดีกว่าไหม?? บ้านเมืองไหนมีผู้ฉลาดน้อย…ก็รังแต่จะนำพาชาติบ้านเมืองสู่ความหายนะ บาทแข็งนางก็จะฉวยโอกาสส่งออก…สามัญสำนึกพื้นฐานบกพร่องโดยสุจริตเข้าใจได้ เพราะมีพ่อคอยสปอยให้ตลอดชีวิต!!! …★★★… ความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน มันต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และหัวใจของความเป็นผู้นำที่จะต้องมีทักษะบริหารจัดการแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาดรอบด้านทุกมิติ อุทกภัยภาคเหนือจากหนักหน่วง เชียงใหม่-เชียงราย ฝนยังถล่มต่อเนื่อง ระดับน้ำในแม่น้ำต่างๆ เอ่อท่วมทำลายพื้นที่เกษตร ชุมชน ย่านเศรษฐกิจเสียหายอย่างใหญ่หลวง ลำน้ำป่าแม่แตงทะลักท่วมศูนย์บริบาลช้าง ซ้ำเป็นรอบที่ 2 ต้องเร่งช่วยเหลืออพยพช้างชราและพิการกว่า 100 เชือก รวมทั้งสารพัดสัตว์ในความดูแลหลายพันชีวิตไปอยู่ในที่ปลอดภัย นักข่าวลองไปถามนายกฯ คุณหนู ซิว่าจะแก้ไขจัดการอย่างไร นางก็คงบอกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน คงต้องหารือพูดคุยกันคะ …★★★…

“เดินดงคมข่าว” ละเหี่ยใจกับผู้นำพ่อให้มา อดย้อนไปทบทวนถึงถ้อยแถลงครั้งที่อิ๊งรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ นายกฯ มิได้ โดยเฉพาะวลีที่สวยงาม (ไม่รู้ใครเขียนให้อ่าน) …. “รัฐบาลจะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและทักษะของคนไทยทุกคน และทำให้ทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินไทย เป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์ และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง” เอาเป็นว่า นายกฯ ควรเร่งรีบปรับปรุงสติความเป็นผู้นำ ฝึกปรือทักษะให้ดูเป็นผู้นำที่ฉลาดกว่านี้จะดีไหม??? ก่อนที่จะมาสร้างพื้นที่ให้คนไทยกล้าฝัน เพราะวันนี้เชื่อว่าจากฝีไม้ลายมือนายกฯ อิ๊ง บอกได้คำเดียวว่า “ห่วยแตก” และชวนให้ขนหัวลุกกันทั้งแผ่นดิน เสียแล้ว …★★★… อิ๊งจะเฉิดฉายนั่งเก้าอี้นายกฯ ตลอดรอดฝั่งถึงสิ้นปี 2567 นี้หรือไม่??? เพราะมีกรรม มีคดีติดจรวดรออยู่เบื้องหน้า ทั้งการลงนามให้ความเห็นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ขอความเห็นนายกฯ อิ๊ง ดำเนินคดีชำระความกรณี “ทักษิณ ชินวัตร” ป่วยทิพย์ชั้น 14 หากนายกฯ ไม่ลงนามก็ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และคดีแห่งกรรมธรณีสงฆ์ สนามกอล์ฟบาปอัลไพน์ เผลอๆ คลื่นสหบาทาที่จองกฐินบดขยี้ผู้นำพ่อให้มา อย่าง “สนธิ ลิ้มทองกุล” อดีตแม่ทัพพันธมิตรฯ หรือแม้แต่ “จตุพร พรหมพันธุ์” แดงกลับใจ อาจยังไม่ต้องออกแรงเดินถนนก็เป็นได้ ผลแห่งกรรมจะเป็นเครื่องตัดสินที่ยุติธรรมที่สุดของสัตว์โลก นับจากนี้ หากเห็นแก่บ้านเมือง และไม่อยากจบอย่างพ่อแม้ว และอาปู ก็ควรตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เถอะ สวัสดีครับ.

“เดินดงคมข่าว”

Related Articles

Leave a Comment