“จเรตำรวจ” เผยทางการจีน ส่งรายชื่อ 3,700 คนร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียวดี ให้ไทยแยกออกจากเหยื่อค้ามนุษย์ พร้อมถก “สหประชาชาติ” เตรียมจัดตั้งหน่วยปราบโจรไซเบอร์ อึ้ง! หลังคัดกรอง เกือบ 100% เต็มใจไปต่อประเทศเพื่อนบ้าน มีแค่ 2-3 รายที่แจ้งว่าถูกหลอกลวง ย้ำไทยโดนใช้เป็นทางผ่าน ปัดฟอกขาว ตร.ในพื้นที่ปมเอี่ยวค้ามนุษย์ ด้าน “นายพล ต.” หลังถูกโยง “เมียวดี คอมเพล็กซ์” ยังไร้ความผิด! ชี้อยู่ในชั้นสอบสวน
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมกับ “สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ” หรือ UNODC เพื่อจัดตั้ง Specialized Cyber Scam and Trafficking in Persons for Forced Criminality Taskforce
พล.ต.อ. ธัชชัย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือรายละเอียดที่ทางการไทยได้รวบรวมข้อมูลมาจากมาตรการปราบปรามกระบวนการคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ ทั้งการตัดการจ่ายไฟ ระงับสัญญาณโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต และงดจ่ายน้ำมันตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกัน
ส่วนที่แก๊งอาชญากรมีการย้ายฐานการกระทำผิดจากจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ไปปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น ตนมองว่ามาตรการ 7 ข้อของสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้ผลในการปราบปราบการทำผิดรูปแบบดังกล่าว สิ่งที่ตำรวจทำคือ ใช้แผนนี้กับประเทศอื่นๆ ต่อไป ในการแก้ไขปัญหาการแก๊งคอลเซ็นเตอร์สิ่งหนึ่งที่ตำรวจไทยพบ คือประเทศเพื่อนบ้านล้วนใช้ทรัพยากรทั้งหมดจากประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์ และบัญชีธนาคารก็ใช้ของประเทศไทย อีกทั้งคนไทยจำนวนมากมีการไปทำงานฝั่งประเทศกัมพูชาและลาว ส่วนนี้ทำให้เรามองว่าเป็นมิติที่ทางการไทยต้องมุ่งระเบิดสะพานโจร ล้มปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งที่ประเทศเพื่อนบ้านใช้ทรัพยากรของไทย
เมื่อถามย้ำว่าเจ้าหน้าที่ใช้มาตรฐานอะไรในการคัดกรองคัดแยกระหว่างเหยื่อกับกลุ่มมิจฉาชีพ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ปัจจุบันใช้แบบสอบถามและขั้นตอนของกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) รวมทั้งใช้มาตรการสืบสวนสอบสวนเข้ามาร่วมด้วย โดยใช้ฐานข้อมูลจากระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและข้อมูลจากแต่ละสถานทูตมาเชื่อมโยงกัน
“ขณะนี้ทางการจีนได้ให้ข้อมูลมาที่ไทยแล้วว่ากลุ่มคนที่ไปทำงานที่ฝั่งประเทศเมียนมา มีรายชื่อ 3,700 คนที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนในขบวนการค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์”
ที่ผ่านมาจากการที่ตำรวจได้คัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เกือบ 100% เต็มใจที่จะเดินทางเข้าไปประเทศเพื่อนบ้านต่อ มีอยู่เพียง 2-3 รายเท่านั้นที่แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่าถูกหลอกลวงมา ยืนยันได้ว่าบุคคลทั้งหมดทางการไทยไม่พบการบังคับขู่เข็ญ ส่วนนี้จึงเป็นข้อมูลที่เราสื่อสารกับทั่วโลกได้ว่า คนที่มาประเทศไทยไม่ได้ถูกประเทศไทยหลอก และตัวเลขเหล่านี้ตนยืนยันว่าเป็นการรวบรวมข้อมูลจากหลายหน่วย ไม่มีทางที่หน่วยระดับปฏิบัติการจะสร้างข้อมูลหลอก
เมื่อถามต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่ตำรวจยืนยันว่าไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย จะเป็นการฟอกขาวให้ข้าราชการในพื้นที่หรือไม่ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกัน เพราะคนที่ถูกเข้ามาช่วยราชการยังไม่มีความผิด ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ และขอยืนยันว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการว่าหากพบมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นก็พร้อมดำเนินคดีกับทุกคน
ส่วนการที่มีคำสั่งย้ายข้าราชการตำรวจนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์และเมียวดี คอมเพล็กซ์ หรือไม่ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส ส่วนที่นายตำรวจดังกล่าวต้องถูกตรวจสอบในช่วงนี้เป็นเพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ถึงแม้ว่าก่อนหน้าไม่ได้ทำ แต่หากพบว่าสถานการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นก็จะมีการดำเนินการ เมื่อถามถึงกรณีที่ “นายพล ต.” มีกระแสข่าวว่ามีความเกี่ยวข้องกับเมียวดีคอมเพล็กซ์ จะถือว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า เรื่องนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ