“เวียดนาม” เปิดทาง “สตาร์ลิงก์” ของอีลอน มัสก์ เร่งออกกฎหมาย “อนุญาตให้สตาร์ลิงก์ ให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม” พร้อมควบคุมการดำเนินงานทั้งหมดในประเทศได้ ขณะที่บริษัทแม่ “สเปซเอ็กซ์” เตรียมลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 5 หมื่นล้านบาท) นับเป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกมองเป็น “กิ่งมะกอก” ท่ามกลางการขู่ขึ้นภาษีของ “ทรัมป์”
“รอยเตอร์” รายงานว่า เวียดนามเปิดทางให้สตาร์ลิงก์ (Starlink) ของ “อีลอน มัสก์” ซีอีโอบริษัทแม่ “สเปซเอ็กซ์” (SpaceX) โดยเตรียมอนุมัติโครงการนำร่องสำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่งผู้ให้บริการต่างชาติจะสามารถควบคุมการดำเนินงานทั้งหมดได้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีกะทันหันของเวียดนาม และถูกมองเป็น “กิ่งมะกอก” สัญลักษณ์ของสันติภาพ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาษีที่อาจเกิดขึ้นจากสหรัฐฯ
ตามร่างกฎหมายนี้ แสดงว่า เวียดนามมีแผนที่จะออกกฎอนุญาตให้ “สตาร์ลิงก์” ซึ่งเป็นโครงข่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมในประเทศได้ ในขณะที่ “สตาร์ลิงก์” ยังคงเป็นเจ้าของบริษัทในเครือ ในประเทศเวียดนามทั้งหมด
เจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนาม (ซึ่งไม่ต้องการให้เอ่ยชื่อ) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เปิดทางให้ “สตาร์ลิงก์” ได้เปิดตัวในเวียดนาม และเป็นไปตามการเจรจาที่ยืดเยื้อกับ “สเปซเอ็กซ์” ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสตาร์ลิงก์
เป็นการพิสูจน์จากฝั่งเวียดนามว่า พวกเขาสามารถเล่นเกมการทูตเชิงธุรกรรมได้ หากรัฐบาลทรัมป์ต้องการ
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ความพยายามของ “สเปซเอ็กซ์” ที่จะเข้าตลาดเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีประชากรเกือบ 100 ล้านคน ถูกระงับในช่วงปลายปี 2023 เป็นการชั่วคราว หลังจากที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ ปฏิเสธที่จะยกเลิกคำสั่ง “ห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม” ซึ่งเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับ “อีลอน มัสก์” ที่ต้องการให้ยกเลิกคำสั่งห้ามดังกล่าว โดยปัจจุบัน “อีลอน มัสก์” เป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งกำหนดให้รัฐสภาพิจารณาในการประชุมพิเศษในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ อนุญาตให้ต่างชาติควบคุมการดำเนินงานของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีเครือข่ายดาวเทียมในวงโคจรต่ำได้อย่างสมบูรณ์ ภายใต้โครงการนำร่องที่จะดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปี 2030
ปัจจุบัน “สเปซเอ็กซ์” ได้ขยายเครือข่ายซัพพลายเออร์ในเวียดนาม รัฐบาลเวียดนามระบุว่า “บริษัท สเปซเอ็กซ์” ต้องการลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50,000 ล้านบาท)
หากบริษัทและบุคคลจำนวนมากในเวียดนาม สมัครใช้บริการสตาร์ลิงก์ อาจช่วยให้เวียดนาม “ลดดุลการค้า” ที่เกินมาจำนวนมากต่อสหรัฐได้ ซึ่งตามข้อมูลของสหรัฐฯ “ตัวเลขเกินดุลการค้า” เมื่อปี 2024 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 123,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4.1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าเกินดุลการค้าที่มากเป็นอันดับ 4 ในบรรดาพันธมิตรของสหรัฐ
ภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ “อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเวียดนามที่พึ่งพาการส่งออก” ซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก อย่างรุนแรง
เวียดนามเป็นแหล่งผลิตสินค้าจากจีนจำนวนมากซึ่งได้ลงทุนอย่างหนักในเวียดนาม หลังจากรัฐบาลชุดแรกของทรัมป์ เรียกเก็บภาษีศุลกากรกับจีนในปี 2017 และเพื่อลดตัวเลขเกินดุลกับสหรัฐ “เวียดนามยังเสนอที่จะนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากสหรัฐมากขึ้น” และกำลังหารือเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าอื่นๆ ที่เป็นไปได้ด้วย