“สส.เพื่อไทย” มอง “ดีเอสไอ” เดินหน้าไขปม “ฮั้ว สว.” เป็นสัญญาณดี หวังทุกฝ่ายทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ส่วนกรณีรับอั้งยี่เป็น “คดีพิเศษ” สะท้อนผิดปกติเลือก สว. ย้ำต้องเร่งสอบสวนไม่ละเว้น แนะใช้ข้อมูลที่ได้ เป็นสารตั้งต้นให้หน่วยงานอื่นตรวจสอบคู่ขนาน ชี้เป็นโอกาส กกต.พิสูจน์ความโปร่งใส-สร้างเชื่อมั่นให้ ปชช.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์วันเลือก สว. หาหลักฐานปมฮั้ว ว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่ทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เพื่อคลี่คลายข้อกังขาของสังคม จากการจำลองพบข้อพิรุธหลายประการ เช่น ผู้สมัครที่ได้คะแนนมากๆ ไม่มีความตื่นเต้นเหมือนรู้ผลคะแนนล่วงหน้าอยู่แล้ว หรือการมีบุคคลคอยจดคะแนนใส่แฟ้ม เพื่อรายงานไปยังศูนย์ควบคุมกลาง เหมือนมีการเตรียมการอย่างเป็นกระบวนการ การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเดินหน้าทำงานในเชิงรุก อาจทำให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องฮั้ว สว.ใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นสารตั้งต้นในการเดินหน้าตรวจสอบคู่ขนานกันไป
โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องใช้โอกาสนี้พิสูจน์ความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้เห็นว่า ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ กรณีที่ DSI รับคดีอั้งยี่เป็นคดีพิเศษ ยิ่งสะท้อนถึงความผิดปกติในกระบวนการเลือกตั้ง สว. ซึ่งอาจมีเครือข่ายหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง จึงจำเป็นต้องเร่งสอบสวนโดยไม่ยกเว้น เพื่อให้ความจริงปรากฏอย่างโปร่งใส
อย่างไรก็ดี องค์กรตรวจสอบต่างๆ ที่อาจได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนรอบด้านมาก่อนหน้านี้ ควรใช้โอกาสนี้แสวงหาข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ส่วนการที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยุติการสอบสวนเรื่องฮั้วเลือก สว. โดยอ้างว่าไม่เข้าเงื่อนไขที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น ต้องชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจนว่าไม่เข้าเงื่อนไขอย่างไร เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือขององค์กร ทำให้ประชาชนค้างคาใจ และรอคำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น
“การทำหน้าที่ของทุกฝ่ายต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และให้กระบวนการเลือกตั้ง สว.เป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรมและโปร่งใสมากที่สุด” นายอนุสรณ์ กล่าว