“รมต.เศรษฐกิจญี่ปุ่น” ถก “รองนายกฯ พิชัย” ย้ำความร่วมมือทุกมิติ แถลงการณ์ร่วมจี้ลดปล่อยคาร์บอน-ส่งเสริมไฮบริด เผย “ญี่ปุ่น” คุยมาเลเซียแล้วก่อนเยือนไทย เน้นย้ำปกป้องการค้าเสรี พร้อมผนึกพลังอาเซียน รับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. เดอะแจแปนไทม์ (The Japan Times) ของญี่ปุ่น รายงานว่า “มุโต โยจิ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น กล่าวในระหว่างการเยือนกรุงเทพฯ วานนี้ (29 เม.ย.) ว่าญี่ปุ่นต้องการปกป้องระบบการค้าเสรีโดยร่วมมือกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อรับมือมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรที่บังคับใช้โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
“เราต้องการปกป้องระบบการค้าพหุภาคีตามกฎเกณฑ์ ในขณะที่เรามีส่วนร่วมในการเจรจาอย่างสร้างสรรค์กับสหรัฐฯ พร้อมไปกับการทำงานร่วมกับอาเซียน”
ในวันดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมประชุมด้านพลังงานและอุตสาหกรรมระหว่างญี่ปุ่นและไทย โดยฝ่ายไทยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมประชุมด้วย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเรียกร้องให้เร่งดำเนินการลดการปล่อยคาร์บอนในรถยนต์ภายใต้แนวทาง “หลายเส้นทาง” ซึ่งหมายถึงการส่งเสริมยานยนต์ที่หลากหลาย เช่น รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง ในความพยายามที่จะเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ในช่วงเริ่มต้นของการประชุมทวิภาคี รองนายกรัฐมนตรีไทย กล่าวว่า ตนเชื่อว่าประเทศไทยสามารถเสริมสร้างสถานะให้แข็งแกร่ง ในฐานะศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่มีห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและหลากหลายได้ด้วยการเรียนรู้เทคโนโลยีล้ำสมัยด้านพลังงานสะอาดและรถยนต์รุ่นต่อไปจากญี่ปุ่น ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ทีมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก และเป็นฐานการผลิตหลักของบรรดาค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น
แถลงการณ์ร่วมยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดจนการรักษาและพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและทรัพยากรบุคคลที่มีการแข่งขันต่อไป โดยญี่ปุ่นและไทยวางแผนที่จะจัดการประชุมหารือด้านพลังงานและอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ภายใน 1 ปี หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานจากทั้ง 2 ฝ่ายได้สรุปข้อตกลงที่บรรลุในการประชุมครั้งแรก
ก่อนหน้าที่จะเดินทางเยือนไทย ในวันที่ 28 เม.ย. “มุโต” ได้เดินทางเยือนมาเลเซีย ซึ่งรับหน้าที่ประธานอาเซียนประจำปี 2568 และได้เข้าพบกับเทงกู ซาฟรูล อาซิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย ซึ่ง รมว.กระทรวงเศรษฐกิจฯ ของญี่ปุ่น กล่าวว่า ตนและเทงกู ซาฟรูล ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับการเจรจาภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯ ขณะที่ รมว.กระทรวงการลงทุนฯ ของมาเลเซีย กล่าวว่า อาเซียนจะยังคงเจรจาอย่างสร้างสรรค์กับวอชิงตันต่อไป โดยยังคงรักษาระบบการค้าพหุภาคีตามกฎเกณฑ์เอาไว้ และมาเลเซียมองว่าสถานการณ์นี้เป็นโอกาสในการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานของอาเซียน