ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (17 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน หลังจากประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาวอิหร่านรีบอพยพออกจากกรุงเตหะหราน นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าปธน.ทรัมป์ได้เดินทางออกจากการประชุม G7 ก่อนกำหนดหนึ่งวัน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกกลาง
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,501.08 จุด เพิ่มขึ้น 189.75 จุด หรือ +0.50%
ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 24,028.83 จุด ลดลง 32.16 จุด หรือ -0.13%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,382.14 จุด ลดลง 6.59 จุด หรือ -0.19%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้บวก 0.24% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.13%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมสองวันที่เสร็จสิ้นในวันนี้ (17 มิ.ย.) ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด นอกจากนี้ BOJ ประกาศว่าจะชะลอความเร็วในการลดซื้อพันธบัตรรัฐบาลตั้งแต่เดือน เม.ย.2569 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ จะดำเนินการปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติอย่างรอบคอบระมัดระวัง
นักลงทุนประเมินสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องให้ชาวอิหร่านอพยพออกจากกรุงเตหะราน โดยระบุว่าอิหร่านปฏิเสธที่จะทำข้อตกลงเพื่อควบคุมการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่การสู้รบระหว่างอิหร่านและอิสราเอลได้ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าแล้วในวันนี้
ด้านทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะเดินทางออกจากที่ประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 ในแคนาดาก่อนกำหนดหนึ่งวัน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์จะเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (NSC) ของสหรัฐฯ
