นายกฯ แถลงขอภัยปมคลิปหลุดคุย “ฮุน เซน” เชิญ “ทูตกัมพูชา” แสดงความผิดหวังในตัวผู้นำ ชี้สิ่งที่ดำเนินการต้องคำนึงถึง ประชาชนชายแดน แย้มเคลียร์ “แม่ทัพภาคที่ 2” ทำความเข้าใจกองทัพแล้ว ยินดีสนับสนุนทุกรูปแบบ ย้ำเป็นหนึ่งเดียวกันร่วมกันปกป้องอธิปไตย บอกต่อไปจะระวังคำพูด
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ห้องสีงาช้างทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.), พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ, พล.อ.อ.วชิระพล เมืองน้อย เสนาธิการทหารอากาศ และ พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ภายหลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เชน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งใช้เวลาการประชุมเกือบ 3 ชั่วโมง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ก็ได้มีการเชิญหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้น
“ก่อนอื่นต้องขออภัยต่อประชาชนคนไทยทุกคนที่มีเรื่องของกรณีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ดิฉันพูดคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ตัวดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพ อธิบายถึงเจตนาว่าเป็นเพียงเทคนิคของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่า เราจะต้องแสดงความเข้าใจเขาก่อน เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดต่อๆ ไป เป็นการต่อรองให้การปะทะหยุดลง นี่คือความตั้งใจที่แท้จริง ที่ต้องการให้สถานการณ์สงบสุข”

นายกฯ กล่าวต่อว่า และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิป และเผยแพร่เช่นนี้ ตนได้ทำความเข้าใจกับกองทัพเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกองทัพก็รับฟัง และบอกว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันเพื่อผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนๆ ก็ต้องผนึกกำลังกันไว้เช่นกัน เพราะวันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ามันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ต่อประชาชน หรือของอะไรที่จะมาพูดว่ารัฐบาลกับกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกัน เราต้องปกป้องอธิปไตยของเราไว้ และนี่คือสิ่งที่เห็นตรงกัน และยินดีที่จะสนับสนุนกองทัพทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กองทัพต้องการการสนับสนุนใดๆ ก็ตาม คือสิ่งที่เราตั้งใจว่าจะทำร่วมกัน
วันนี้การที่เราจะออกมาทำอะไรหรือตัดสินใจในมิติต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย และแน่นอนว่าประชาชนตรงชายแดนด้วย คือสิ่งที่เราต้องนึกถึงและให้ความมั่นใจ ให้ความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนตรงนี้ด้วย ซึ่งวันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เน้นย้ำการดำเนินการโดยสันติวิธีผ่านกระบวนการทวิภาคี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มายื่นหนังสือประท้วง และแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการกระทำของผู้นำกัมพูชา และความจริงทั่วโลกไม่มีใครทำแบบนี้ ที่ผู้นำประเทศใหญ่ที่มีการพูดคุย ตกลงกันหรือมีการเจรจาใดๆ ถ้าไม่ได้บอกก่อนว่าจะมีการอัดคลิป เช่น กรณีที่โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับผู้นำต่างๆ เมื่อติดต่อไปจะติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ซึ่งจะแจ้งให้ทราบว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้นแต่กรณีเป็นการโทรศัพท์โดยมือถือส่วนตัวของตนเอง และการกระทำแบบนี้ไม่ควรเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกอยู่แล้ว
รัฐบาลไทยและกองทัพขอแสดงรับผิดชอบในเรื่องของการปกป้องอธิปไตยที่เรากำลังดูแลร่วมกัน ขอยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลและกองทัพเป็นหนึ่งเดียวกัน และอยากให้ประชาชนเป็นอย่างเดียวกับเราด้วย เพื่อที่จะสามัคคีปกป้องอธิปไตย
“เวลานี้ที่เคยบอกไป ไม่ใช่เวลาที่เราจะต้องมาสู้กันเอง สิ่งที่เกิดขึ้นดิฉันต้องขออภัยในความที่ไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ดิฉันรับทราบดีต่อจากนี้จะระวังในเรื่องของการพูดคุยให้มากขึ้น และแน่นอนว่าทางกองทัพที่เราพูดคุย เรามั่นใจอย่างหนึ่งว่าถ้าเรารวมกันเป็นหนึ่ง สามัคคีกัน เราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันอย่างแข็งแรงได้” นายกฯ กล่าว