Home Feature ล็อกเป้า ‘2สมเด็จ-3พรหม’ สังคายนา กม.สงฆ์! ‘บิ๊กเต่า’ ลุยสอบเงินวัด ลามถึง ‘มหาเถรฯ’

ล็อกเป้า ‘2สมเด็จ-3พรหม’ สังคายนา กม.สงฆ์! ‘บิ๊กเต่า’ ลุยสอบเงินวัด ลามถึง ‘มหาเถรฯ’

by admin

มหาวิกฤตผ้าเหลือง! “ภูมิธรรม” เข้าเฝ้าฯ “สมเด็จพระสังฆราช” ทรงมีรับสั่ง “สังคายนากฎหมายสงฆ์” ให้เข้มข้น-เอาจริงเอาจัง ตรัสให้จัดการ “พระปาราชิก” อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครเกี่ยวข้อง ย้ำอย่าให้พระพุทธศาสนาเสื่อม! “บิ๊กเต่า” รับสนองพระบัญชา เดินหน้าลุยสอบเส้นเงิน “ทุจริตเงินวัด” พลิกหน้าประวัติศาสตร์สงฆ์ไทย มีกระแสข่าวหึ่ง ล็อกเป้าเจ้าคณะปกครอง สมณศักดิ์สูง “2 สมเด็จ-1 ธรรมยุต-3 พรหม” ไฟลามถึง “บอร์ด มส.” หรือมหาเถรสมาคม ขณะที่ บช.ก.-ปปท.-พศ. รุดตรวจบัญชีวัดประยุรฯ เผย “เจ้าคุณประสิทธิ์” ผช.เจ้าอาวาส ชิงสึกแล้ว! เซ่นนารีพิฆาต

วันนี้ (17 ก.ค.) ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ เปิดเผยภายหลัง​เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ว่า ท่านแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อข่าวที่สร้างความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา และทรงมีพระดำรัสย้ำว่า “อย่าให้พระพุทธศาสนาเสื่อม”

“สมเด็จพระสังฆราชรับสั่งว่า ในทางศาสนาก็มีโทษอยู่แล้วถึงขั้นปาราชิก ต้องให้ออกไป” นายภูมิธรรมกล่าว และเสริมว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงเห็นด้วยที่จะต้องมีการสังคายนากฎหมายคณะสงฆ์ ท่านก็บอกว่ากฎหมายสงฆ์เดิมก็ดีอยู่แล้ว แต่ขอให้หาแนวทางเพิ่มอำนาจและอะไรต่างๆ รวมถึงบทลงโทษให้มากยิ่งขึ้น และเอาจริงเอาจังมากขึ้น

พร้อมกันนี้ นายภูมิธรรมยังได้หารือกับ “สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” ซึ่งท่านก็เห็นพ้องว่าขอให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครเกี่ยวข้อง โดยรัฐบาลจะรับเรื่องนี้ไปดำเนินการต่อทันที

โดยรัฐบาลพร้อมสนองพระดำริ และให้การสนับสนุนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อย่างเต็มที่ ในการดำเนินคดีกับ “พระเถระชั้นผู้ใหญ่” ตามที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ระบุว่ากำลังจะมี “ปฏิบัติการ” สอบสวนคดีใหม่ ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับเรื่องสีกา แต่เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณี “ทุจริตทางการเงิน” ของเจ้าคณะปกครองในระดับสูงสุด ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับการ “ยักยอกเงินวัด” หรือทรัพย์สินของศาสนา อันเป็นความผิดถึงขั้น “ปาราชิก”

หากเปิดชื่อ เชื่อว่าทุกคนจะต้องตะลึง เพราะเป็นพระมีชื่อเสียงที่ทุกคนรู้จัก” พล.ต.ต. จรูญเกียรติกล่าว พร้อมระบุว่าคดีนี้มีที่มาจากการร้องเรียนของ “ผู้หวังดี” พร้อมพยานหลักฐานเบื้องต้น และผู้ถูกกล่าวหามีสมณศักดิ์สูงกว่าพระที่เคยปรากฏในคดีก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า “พระผู้ใหญ่” ที่ปรากฏชื่อในรายงานสืบสวนสอบสวนของ “บช.ก.” (ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ) มีสมณศักดิ์สูง เป็นเจ้าคณะปกครองสูงสุด “2 สมเด็จ” (มหานิกาย, ธรรมยุต) และ “3 พรหม” หรือพระราชาคณะชั้น “พรหม” รวมถึงชั้น “ธรรม” อีกหลายรูป ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน

สำหรีบเจ้าคณะปกครองสูงสุด ซึ่งในปัจจุบัน “สมเด็จพระราชาคณะ” ทุกรูป จะเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) โดยตำแหน่ง แบ่งเป็นฝ่ายมหานิกาย 5 รูป และธรรมยุต 3 รูป ขณะที่ “กรรมการ มส.” ที่มาจากการแต่งตั้ง มีทั้งหมด 20 รูป แบ่งเป็นพระราชาคณะ “ฝ่ายมหานิกาย” จำนวน 11 รูป และธรรมยุต จำนวน 9 รูป โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีสมณศักดิ์ ระดับชั้น “พรหม” และชั้น “ธรรม” เป็นต้น

การสอบสวนอย่างเข้มข้นนี้ เกิดขึ้นจากความไม่ไว้วางใจกันระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้วิพากษ์การทำงานของ พศ. อย่างตรงไปตรงมาว่า “ที่ผ่านมาการประสานงานมักประสบความล้มเหลว และขาดความเข้มงวด จนอาจมีการปกปิดปัญหาหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด”

พร้อมกันนี้ยังได้จัดตั้ง “ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย” ขึ้นมาเพื่อเป็นหน่วยงานของตำรวจในการรับเรื่องร้องเรียนโดยตรง และประกาศจะรื้อฟื้นคดีเก่าๆ ของพระสงฆ์ที่เคยถูกปัดตกไปมาพิจารณาใหม่

ในวันเดียวกันนี้ (17 ก.ค.) จากกรณีพระเทพปวรเมธี หรือเจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ที่ถูกพาดพิงว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ “สีกากอล์ฟ” หลังมีรูปถ่ายและข้อความสนทนาลักษณะส่วนตัวหลุดว่อนในโซเชียล ทั้งแชตบอกรัก ส่งสติกเกอร์หวานๆ และภาพแคปหน้าจอวิดีโอคอล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า “เจ้าคุณประสิทธิ์” ได้ลาสิขาเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม

และในช่วงบ่ายของวันนี้ พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผกก.6 บก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ พศ. เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อเข้าขอข้อมูลตรวจสอบบัญชีและเอกสารทางการเงินของวัดว่ามีความผิดปกติ หรือมีความเชื่อมโยงกับพฤติกรรมของอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์หรือไม่.

Related Articles