Home Feature ‘ชัยวัฒน์’ แฉ! กรมอุทยานฯ ทุจริตคำโต ปูดชักเปอร์เซ็นต์ ไม่จ่ายเด้งเข้ากรุ

‘ชัยวัฒน์’ แฉ! กรมอุทยานฯ ทุจริตคำโต ปูดชักเปอร์เซ็นต์ ไม่จ่ายเด้งเข้ากรุ

by admin

“ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” เปิดหน้าชน! นัดสื่อแฉ “แก๊งทุจริตอุทยานฯ” ปูด “อธิบดี” ถือกะลาออกคำสั่ง “หักเปอร์เซ็นต์งบฯ ปี 68” รีดทุกหน่วยงาน อ้างขอความร่วมมือช่วยส่วนกลาง จัดงานบุญ-บริจาคการกุศล-ค่าบัตรคอนเสิร์ต-สลากกาชาด “เจ๊กอี่” ชำแหละโยกย้ายอัปยศ ชี้ปมเด้งฟ้าผ่า “มงคล” พ้นเก้าอี้ หน.แก่งกระจาน เหตุไม่ยอมจ่ายเงิน 9 แสนบาท ทั้งที่มีผลงานปราบปราม “นายทุน” รุกป่านับพันไร่ สวนทางคำชี้แจงกรมอุทยานฯ ยันสั่งย้ายเพราะถูกร้องเรียนหนัก

 เปิดโปงขบวนการ “ชักเปอร์เซ็นต์งบประมาณ” กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) หลังออกคำสั่งเคาะกะลา! ขอความร่วมมือค่าใช้จ่ายส่วนกลาง กิจกรรมร่วมทำบุญ และบริจาคการกุศลต่างๆ (บัตรคอนเสิร์ต, สลากกาชาด ฯลฯ) ทั้งจากกระทรวง, กรม, จังหวัด และจากทุกภาคส่วน โดยคิดจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 สะพัดหากหน่วยงานไหนไม่สนองตอบผู้บริหารจะถูกโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม

โดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กรณีมีคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งโยกย้าย ที่ 2976/2568 ลงวันที่ 15 ก.ค.68 ให้นายมงคลเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก)

นายชัยวัฒน์ได้เรียกร้องต่อสื่อมวลชน ร่วมฟังการแถลงข่าวเปิดโปงขบวนการหักเปอร์เซ็นต์ จากเงินงบประมาณประจำปี 2568 ของกรมอุทยานฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคำสั่งโยกย้ายนายมงคล ซึ่งไม่ใช่คำสั่งปกติ ส่อว่าจะมีเบื้องลคึกของขบวนการคอร์รัปชั่น หากผู้ใต้บังคับบัญชาไม่จ่ายเปอร์เซ็นต์จะถูกโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม

การที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ให้เหตุผลว่านายมงคลถูกร้องเรียนเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะนายมงคลได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเปอร์เซ็นต์ตามที่ขอความร่วมมือ ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎระเบียบราชการ

ทั้งนี้ นายมงคลเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต อีกทั้งยังมีผลงานปราบปรามการบุกรุกที่ดินอุทยานฯ และออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวนหลายพันไร่ของกลุ่มนายทุน แต่กลับถูกโยกย้าย เพราะมีขบวนการผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งอัปยศเหล่านี้ ซึ่งรายละเอียดจะแถลงให้สื่อมวลชนได้รับรู้กันในวันอังคารที่ 22 ก.ค.2568 เวลา 10.00 น. ใต้อาคารสืบนาคะเสถียร กรมอุทยานฯ

“แล้วพบกันครับ จะได้รู้ว่าการชักเปอร์เซ็นต์เขาทำกันอย่างไร กรณีนายมงคลต้องจ่าค่าเปอร์เซ็นต์เกือบ 9 แสนบาท นี่คือจุดเปลี่ยนชีวิตราชการของเขาหรือไม่” นายชัยวัฒน์กล่าว

อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.68 นายมงคล ไชยภักดี ได้ทำหนังสือร้องทุกข์กรณีโยกย้ายไม่เป็นธรรม ถึงคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม กรณีมีคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งโยกย้าย ที่ 2976/2568 ลงวันที่ 15 ก.ค.68

โดยหนังสือระบุว่า “เมื่อวันที่ 24 ต.ค.66 กรมอุทยานฯ มีคำสั่งที่ 4607/2566 เรื่องให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ โดยให้ผู้ร้องไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นหัวหน้าอุทยานฯ คนที่ 12 โดยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีผลงานโดดเด่น ในการตรวจยึดและจับกุมในคดีสำคัญและคดีรายใหญ่ ที่มีการกระทำผิดเป็นขบวนการและมีผู้มีอิทธิพล

โดยเฉพาะคดีล่าสุด เมื่อวันที่ 8-9 ก.ค.68 ได้ตรวจยึดที่ดินของแปลงบริษัทเอกชน ที่อ้างเอกสารสิทธิทับซ้อนเขตอุทยานแห่งชาติและเขตที่ราชพัสดุ มากกว่า 4,000 ไร่ มีการขยายผลส่งคดีให้ ป.ป.ช. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ”

ภายหลังจากจับกุมที่ดินของแปลงบริษัทเอกชน ที่อ้างเอกสารสิทธิทับซ้อนเขตอุทยานแห่งชาติและเขตที่ราชพัสดุ มากกว่า 4,000 ไร่ มูลค่า 200 ล้านบาท ต่อมา ภายในระยะเวลาเพียง 6 วัน กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่ง ที่ 2976/2568 ลงวันที่ 15 ก.ค.68 เรื่องให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ โดยย้ายผู้ถูกร้องไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) แม้ว่าชื่อตำแหน่งจะเป็นการย้ายในตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่เมื่อพิจารณาองค์ประกอบแล้วกลับไม่ใช่ อันเป็นการใช้ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราชการ

ขณะที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกมาชี้แจงด่วน กรณีการออกคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่ 976/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการปฏิบัติงานของกรมฯ

การออกคำสั่งโยกย้ายข้าราชการ จำนวน 38 ราย เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์สูงสุดในการปฏิบัติราชการ

โดยทั่วไปแล้ว การโยกย้ายในลักษณะนี้ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในหน่วยงานราชการ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างการทำงาน หรือเพื่อการบริหารจัดการกำลังคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับกรณีของ “หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” ที่ปรากฏชื่อในคำสั่งโยกย้ายนั้น มีเหตุผลเพิ่มเติมที่สอดคล้องกับแนวทางการบริหารงานอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ​ โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด ได้มีหนังสือแจ้งมายังกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่าได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นจำนวนมาก

โดยขณะนี้ทุกเรื่องร้องเรียนอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง​ และเพื่อให้การตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ เป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และปราศจากข้อครหา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 สาขาเพชรบุรี จึงได้ขอให้กรมอุทยานฯ พิจารณาสับเปลี่ยนหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

Related Articles