Home FeatureSpotlight คมข่าว 27/8/67

คมข่าว 27/8/67

by admin

“ที่สุดของการบริหาร คือ การทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามแผนงานที่วางไว้ โดยอาศัยมือของผู้อื่น” นายสัปดาป…กลับเข้าประจำการเขียน “คมข่าว” ณ สถานี ข่าว ACN Hot News ในห้วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม 2567…★★…ซ้ำซากกับปัญหา “ภัยแล้ง – น้ำท่วม” ที่คอยกัดกินงบประมาณแผ่นดินไทย สูงนับปีละหลายหมื่นล้านบาท แถมคอยทำลายความหวังและความรู้สึกดีๆ ของคนไทยมายาวนานต่อเนื่องตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ก็ไม่รู้เมื่อไหร่? ประเทศไทยถึงจะมี “รัฐบาลคิดเพื่ออนาคต” กันเสียที! หันดูสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ที่หนักสุดยามนี้…ใครจะโยงกับความเป็น “นายกฯ หญิง” เหมือนยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เมื่อปี 2554 หรือไปผูกไว้กับชื่อของ “นายกฯ อิ๊ง – แพทองธาร ชินวัตร” กับคำว่า “ธาร” แล้วทำให้เกิดน้ำท่วม! ยืนยันตรงนี้…มันไม่เกี่ยวกันเลย ที่เกี่ยวคือ…เกือบ 9 ปีของ “รัฐบาลลุงตู่” และ องคาพายพของระบบราชการไทย ต่างหาก ที่ไม่คิดอ่านการใหญ่ “ปกป้องไทยจากภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง” อย่างจริงจัง! ตรงนี้…มากว่าคือ “ตัวปัญหาแท้จริง” ของบ้านเมืองนี้ ก็ยังดีที่ “นายกฯ อิ๊ง” ไหวตัวทัน? เพราะแม้จะยังไม่ได้ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ และยังไม่ได้ แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ทว่าบทบาทความเป็น “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” แกนนำหลักของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็สมควรแล้วที่จะลงพื้นที่ไปดูสภาพปัญหาความเดือดร้อนและให้กำลังใจพี่น้องที่ประสบปัญหาอุทกภัยร้ายแรง “นายสันดาป” ขอปรบมือให้…★★…จาก ภาคเหนือ อีกไม่ช้าคงไหลลงล่างสู่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล! หลาย “พ่อเมือง” ของพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ต่างเตรียมการรับมือ “น้ำเหนือ” ที่น่าจะโดน “น้ำฝน” ซึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนมาก่อนหน้านี้แล้วว่า…กันยายนนี้ “หนักแน่!” เข้าผสมโรง…จึงวางแผนรับมือและป้องกันน้ำท่วมกันเสียแต่เนิ่นๆ ข่าวว่า…มีการจัดเตรียม กระสอบทราย รวมๆ กันนับแสนกระสอบ แต่จะเพียงพอกับมวลน้ำที่จะมีมาถึงหรือไม่? ต้องลุ้น! สำหรับ กรุงเทพฯ ล่าสุด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” นำทีมผู้บริหารเมืองหลวงแถลงข่าวผ่านสื่อฯ ถึงพี่น้องชาวกรุงเทพฯและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขอให้สบายใจ ปีนี้ “น้ำเหนือ” ไม่มากและไม่น่ากลัวเท่ากับ ปริมาณน้ำฝนที่จะคอยเติมมวลน้ำในพื้นที่ของเมืองหลวง กระนั้น กรุงเทพมหานคร ก็พร้อมรับมือทั้ง “น้ำเหนือ” และ “น้ำฝน” อย่างเต็มที่ แต่สิ่งหนึ่งที่ นายสันดาป ขอเตือน! คือ กรุงเทพฯ ไม่ได้ผจญปัญหาอุทกภัยแค่จาก “2 น้ำข้างต้น” แต่ยังมี “น้ำทะเลหนุน” มาสร้างเป็น “3 ประสาน” ขย่มขวัญทั้ง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” และคนกรุงเทพฯ กันอีก…★★…

อย่างที่รู้ๆ กัน ผลพวงจากภาวะโลกร้อน ละลายน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือ จน็งวันนี้…ปริมาณน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา และได้ กัดเซาะแผ่นดินของกรุงเทพฯ ย่าน “บางขุนเทียน” เข้าไปเยอะและลึกมาก? กินแผ่นดินไปแล้วหลายกิโลเมตร นักวิชาการและองค์กรยักษ์ใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศ เตือน รัฐบาลไทย มาโดยตลอด ระวัง! กรุงเทพฯ จะจมน้ำ แต่ดูเหมือน ทั้ง นักการเมืองและข้าราชการไทย จะนิ่งนอนใจมากเกินไปหน่อย! แต่กับ อดีตนายกฯ คนที่ 23 “ทักษิณ ชินวัตร” แล้ว การขึ้นไปเปิดวิสัยทัศน์เวทีแรกในรอบ 18 ปี Dinner Talk : Vision for Thailand 2024 ของเครือเนชั่น เมื่อสัปดาห์ก่อน มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ และน่าสนใจยิ่งกว่า…ว่ามันจะเป็น นโยบายของ “รัฐบาลอิ๊ง” ที่คาดว่าจะแถลงต่อรัฐสภาในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ หรือไม่? แล้วหนึ่งในนั้น มีเรื่อง “น้ำท่วมกรุงเทพฯ” ที่ รัฐบาลเพื่อไทย จำเป็นจะต้องเตรียมการ “ถมทะเล” สร้างเมืองใหม่บริเวณอ่าวไทย ได้ทั้งพื้นที่สร้าง เมืองแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยี แถมยัง ป้องกันปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ไปในตัวอีกด้วย…★★…เรื่อง “กรุงเทพฯ จมน้ำ” ไม่ใช่เรื่องใหม่ และมีหลายคนหลายองค์กร เสนอแนะแนวคิดในการปกป้องกรุงเทพฯ จากปัญหาน้ำท่วม ถึงขั้น…เสนอให้ “ย้ายเมืองหลวง” กันเลยก็มี หนึ่งหน่วยงานที่นับจากนี้ไป คนไทยอาจได้เห็นบทบาทมากขึ้น แม้จะเป็นองค์กรใหม่ ทว่า “เครือข่าย IMPACT THAILAND” ก็พยายามจะนำเสนอแนวคิดในการป้องกันปัญหาน้ำท่วม รวมถึงอีกหลายๆ โครงการที่จะสร้าง “อิมแพ็ก” ให้กับประเทศไทย ส่วนจะมีอะไรบ้าง? แล้ว นายสัปดาป จะหยิบเอามาเล่าสู่กันฟังในภายหลัง แต่ที่แน่ๆ ทันทีที่ “อำนาจรัฐ” ตกอยู่ในมือของ “นายกฯ อิ๊ง” แล้ว ช่วยพูดให้ชัด! ทีเหอะว่าจะเอาอย่างไรกับการแก้ไขปัญหาซ้ำซาก “ภัยแล้ง – น้ำท่วม” อย่างเป็นระบบ เรื่องภัยธรรมชาติมันมีคุณค่าที่จะให้ รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขมากกว่าการแจกเงิน “หนึ่งหมื่นบาท” ที่วันนี้…คนไทยได้ฟัง “อดีตนายกฯ ทักษิณ” พูดแล้ว คงไม่ใช่แค่เฉพาะผ่านช่องทาง “ดิจิทัล วอลเล็ต” เพียงอย่างเดียว นั่นก็หมายความว่า…แผนเดิมที่ฝันจะใช้เม็ดเงิน 5 แสนล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจ และฉุดจีดีพีให้ขยับขึ้น 1.5-2.0% ตามที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง หวังไว้ คงห่างไกลความเป็นจริงแน่ๆ …★★… พูดถึง สารพัดวิชั่น ที่ “อดีตนายกฯ ทักษิณ” นำเสนอเอาไว้บนเวที Vission for Thailand มีหลายเรื่องที่ “รัฐบาลแพทองธาร” น่าจะนำไปพิจารณาบรรจุเข้าไว้เป็น นโยบายของรัฐบาล แต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง…ที่ นายสันดาป เห็นว่า…ขืนเดินหน้าต่อไป มีหวัง “ชิปหาไม่เจอ (หาย)” อย่างรุนแรงระดับ เกิน 10 ริกเตอร์ อย่างแน่นอน และคงไม่ได้ ส่งผลกระทบ “เชิงลบ” ต่อประเทศชาติและประชาชน เท่านั้น หากแต่ยังอาจทำให้ “ตระกูลการเมือง” บางตระกูล? หายไปจากสารบบการเมืองอย่างถาวร!!! นั่นคือเรื่องที่คิดจะแบ่ง ผลประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเล ซึ่ง “อดีตนายกฯ ทักษิณ” อ้างว่าเป็น “พื้นที่ทับซ้อน” ระหว่างไทยกับกัมพูชา ทั้งที่ความเป็นจริง…บริเวณพื้นที่ดังกล่าว แถบบริเวณ  “เกาะกูด” จ.ตราด เป็นพื้นที่ของไทยมาตั้งแต่บรรพกาลแล้ว ยืนยันจาก หนังสือสัญญา ที่ รัฐบาลไทย ทำไว้กับ รัฐบาลฝรั่งเศส สมัยยังเป็นเจ้าอาณานิคมของกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลทั้ง 2 ชาติ ต่างยอมรับในสิทธิความเป็นเจ้าของ “เกาะกูด” ของไทยมาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้น สภาพความเป็น “พื้นที่ทับซ้อน” จึงไม่มีอยู่จริง! หาก รัฐบาลเพื่อไทย คิดจะขุดเอาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่เป็นจำนวนมากขึ้นมาใช้ ไม่จำเป็นจะต้องแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรใต้ทะเลในน่านน้ำของไทย ให้กับกัมพูชา 50 : 50 เช่นที่ “ผู้ครอบครอง – นายกฯ อิ๊ง” อ้างถึงแต่อย่างใด?…★★…

คนไทยและชาวโลกต่างรู้ดี “อดีตนายกฯ ทักษิณ” และ “อดีตนายกฯ ฮุน เซน” แห่งกัมพูชา มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ระดับประกาศตัวเป็น “พี่น้องกัน” แถมยังส่ง เครือข่ายทายาทของ 2 ตระกูล ข้ามพรมแดน ไปเป็น “เขย-สะใภ้” ระหว่างกันอีก แต่กับ ผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแล้ว ย่อมต้องอยู่เหนือความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลอย่างเทียบกันไม่ได้ หาก ทรัพยากรใต้ทะเล จะแผ่ขยายเกินทะเลน่านน้ำไทย ไปอยู่ในส่วนของ พื้นที่ทับซ้อนจริง! อันนี้…แบ่งปันกัน 50 : 50 สังคมไทยพอเข้าใจได้ และหากบางส่วนของ ทรัพยากรใต้ทะเล อยู่ใน เขตน่านน้ำของประเทศกัมพูชา ก็คงไม่ควรที่ไทยจะไปขอแบ่งจากเพื่อนบ้าน แต่ถ้าจะ “เหมารวม” ให้ทุกอย่างและทั้งหมด เป็น “พื้นที่ทับซ้อน” 100% เพื่ออ้างเหตุผลรองรับ การแบ่งปันกัน 50 : 50 ระหว่าง 2 ประเทศ ตรงนี้…อาจสร้างปัญหาตามมาอย่างแน่นอน! และไม่แน่ว่า…ปัญหาทั้งหมดนี้ จะถูกผูกโยงและโยนไปเป็น “เผือกร้อนสุดๆ” ให้กับ “อดีตนายกฯ ทักษิณ” “นายกฯ อิ๊ง” และคนในตระกูล “ชินวัตร” อย่างไม่ต้องสังสัย? ถ้ายังจะฝืนเดินหน้าตามแผนงานนี้ต่อไป…คงเดาได้ไม่ยาก? อายุของ “รัฐบาลแพทองธาร” จะสั้นหรือยาว!!! รู้ยัง? วันที่ “อดีตนายกฯ ทักษิณ” พูดถึงเรื่องนี้ มี คนบางกลุ่ม? แอบยิ้มกระหยิ่มใจ…เจอแล้ว วิธีการ ทำลายตระกูลล้างการเมือง!!!…★★…นายสันดาป นั่งมอง ปฏิทินการเมืองไทย ระหว่างที่…หลาย พรรคร่วมรัฐบาล กำลังฝุ่นตลบ! “แย่งเก้าอี้รัฐมนตรี” กระทั่ง บางพรรคแตกไปแล้ว ขณะที่ บางพรรคใกล้แตก! ว่าจะไป…มันเหมือนยุคสมัยที่ พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล และมี นายกรัฐมนตรี ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งนั้น…มีการเก็บรวบพรรคเล็กพรรคน้อยเข้าคอก! จนกลายเป็น พรรคการเมืองใหญ่ กวาด สส.เข้าสภาฯ เมื่อปี 2548 มากถึง 377 เสียง! ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ตรงนี้…หากใครสนใจ ลองย้อนไปหาอ่านประวัติศาสตร์การเมืองไทยกันดู หาได้ไม่ยาก กลับมาสู่การเมืองปัจจุบัน คาดว่า…ปลายสัปดาห์นี้ “รายชื่อ ครม.แพทองธาร” ที่กำลังสืบค้นประวัติเฉพาะของ “รัฐมนตรีใหม่” ก็คงจะแล้วเสร็จ และได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อรอ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ในโอกาสต่อไป ประเมินกันว่า…ราวๆ กลางเดือนกันยายนนี้ “ครม.แพทองธาร” คงจะได้ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา จากนั้น…“นายกฯ อิ๊ง” ก็มีศักดิ์และสิทธิ์ที่จะเข้า บริหารราชการแผ่นดิน ได้อย่างสง่างาม…★★…หลายคน ประเมินอายุ “รัฐบาลแพทองธาร” อาจสั้น! จะเพราะมีบรรดา “นักร้อง” จ่อยื่นคำร้องใน ข้อบกพร่องติดตัว…หลายเหตุหลากปม? ไหนยังจะมี บางนโยบายที่อาจบ่อนทำลายรัฐบาล เอง เช่น ปมแบ่งปันผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนข้างต้น และไม่ว่า…“นายกฯ อิ๊ง” จะมี อันเป็นไป เพราะมูลเหตุใด? หรือจะ อยู่จนครบเวลา ที่เหลือเกือบ 3 ปี กระนั้น ก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อ พรรคประชาชน ในยุคของ “เท้ง – ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ที่ กตต. เพิ่งจะประกาศรับรองพรรคตั้งใหม่ได้ไม่นาน! หลายเสียง…ยุส่งให้ พรรคประชาชน เป็น…แกนนำจัดตั้งรัฐบาลแข่ง! แลกกับการนำเสนอชื่อ “แคนดิเดตนายกฯ” จากต่างพรรคการเมือง เพื่อจะได้ร่วมรัฐบาล ที่มีเสียง สส.มากสุด นำเอาบางส่วนจาก 300 นโยบายหาเสียง ไปเป็น นโยบายรัฐบาลใหม่ แต่ “นายสันดาป” ขอบอก…อิมพอสซิเบิ้ล! … พรรคของคนรุ่นใหม่ เขาไม่ต้องการ เป็นรัฐบาลใน พ.ศ.นี้ แหม…โดนมาเยอะซะขนาดนี้ รอเป็น “รัฐบาลพรรคเดียว” ในปี 2570 เลยดีกว่ามั้ง???…★★…

จะว่าไปแล้ว พรรคประชาชน ที่แตกตัวและต่อยอดมาจาก พรรคอนาคตใหม่ และ พรรคก้าวไกล นั้น มี “ผู้นำ” จ่อรอให้ขึ้นทำหน้าที่ “หัวหน้ารัฐบาล” หลายคน นอกจาก… “เท้ง – ณัฐพงศ์” ยังจะมี “ไหม – ศิริกัญญา ตันสกุล” และ “ไอติม – พริษฐ์ วัชรสินธุ” และคนรุ่นใหม่อื่นๆ จ่อคิว…รอให้ “เบอร์ใหญ่” หลุดพ้นใบสั่งห้ามเล่นการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ไม่ว่าจะเป็น… “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” “ปิยบุตร แสงกนกกุล” 2 คนจากพรรคอนาคตใหม่ จะพ้นพงหนาม กลับสู่ถนนการเมืองได้ในเดือน กพ.2573 โดยทั้งคู่…จะมีอายุ ณ เวลานั้น ที่ 52 ปี และ 51 ปี ตามลำดับ ขณะที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ซึ่งถูกตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปีกับพรรคก้าวไกล ก็จะกลับมาสู่ถนนการเมืองได้ในปี 2577 ขณะที่มีอายุ 54 ปี ถือว่า…พรรคการเมืองนี้ ล้วนมีบุคลากรการเมืองระดับ “ผู้นำ” มากสุดในบรรดาพรรคการเมืองของไทยเลยทีเดียว…★★…ทิ้งท้าย….กับเรื่องต่อเนื่องจากที่ นายสันดาป เขียนพาดพิง “ดิเรก คชารักษ์” นายด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน กรณีปมเนื้อความในบทความนี้ “ลือกันหึ่ง…ถูก “มือดี” แอบถ่ายคลิป “ดาวไถ” หนึ่งในทีมงานคนสนิทของ “ดิเรก คชารักษ์” นายด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง” กระทั่ง ได้รับหนังสือจำนวน 2 ฉบับ ลงวันที่ 16 และ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลในข่าว กระทั่ง มีการต่อสายพูดคุยกัน! ทาง ผอ.ดิเรก ยืนยันว่า “ทีมงานคนสนิท”  ที่ดึงมาช่วยงาน 2-3 คน ไม่มีใครที่มีพฤติกรรมเช่นที่ว่านี้ ขณะที่ บุคคลซึ่งถูกเอ่ยถึง นั้น เคยรับราชการอยู่จริง…แต่เกษียณฯ ไปแล้ว และไม่เกี่ยวข้องกับ ด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ยุคปัจจุบันแต่อย่างใด “คนเกษียณฯ ไปแล้ว ย่อมไม่มีอำนาจและหน้าที่ในการให้คุณให้โทษ หรือจะอำนวยความสะดวกในฐานะข้าราชการประจำด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังอย่างแน่นอน!” ถึงตรงนี้…นายสันดาป ก็ต้องขออภัยที่พาดพิงถึง ผอ.ดิเรก และหากย้อนกลับไปอ่านบทความชิ้นนั้น ทุกถ้อยความไม่มี…คำพูดไหน? ประโยคใด? ที่บอกว่า ผอ.ดิเรก เกี่ยวข้องกับ ขบวนการฉ้อฉล กลุ่มนี้แต่อย่างใด ดังนั้น ณ บรรทัดนี้ ก็ต้องเตือนไปยัง ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก ทุกคน หากคิดว่ากำลังจะถูก “รีด” จากคนที่อ้างตัวว่า “ช่วยได้” ล่ะก็ อย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด! สงสัยให้สอบถามตรง…ได้ที่ ผอ.ดิเรก ด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เบอร์โทร.ในหน่วยงานต้นสังกัด คงหาได้ไม่ยากนัก…ทราบแล้วเปลี่ยน!!!…★★…

นายสันดาป

Related Articles

Leave a Comment