“ประธาน กกต.” ปัดมีใบสั่ง! ยื่นยุบ “ก้าวไกล” ชี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คือหลักฐานสำคัญ ยันโทษสูงสุดยับพรรค-ตัดสิทธิไม่เกิน 10 ปี ส่วนคดียุบ “ภูมิใจไทย” รอรวบรวมหลักฐาน
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคก้าวไกล กรณีล้มล้างการปกครองนั้น กระบวนการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ทาง กกต.ได้ศึกษาวิเคราะห์ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 ซึ่งเป็นการศึกษาพิจารณาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด จนกระทั่งถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ก.พ. โดยใช้เวลาในการพิจารณาเพิ่มเติมและข้อเสนอแนะ จนเป็นที่มาของผลการประชุม กกต.ในครั้งนี้
ส่วนจะสามารถยืนยันกรอบระยะเวลาได้หรือไม่ หลังพรรคก้าวไกลตั้งคำถามว่า เร็วเกินไปที่จะตัดสิน นายอิทธิพร ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการดำเนินการโดยใช้อำนาจหน้าที่ตาม มาตรา 92 ซึ่งใช้คำว่า “เมื่อคณะกรรมการ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีพรรคใดกระทำการอันควรจะเป็นการล้มล้างการปกครอง ให้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา”
สิ่งที่เป็นหลักฐานอันเชื่อได้ว่า ก็คือคำวินิจฉัยของศาล มีรายละเอียด ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน มีเอกสารประกอบ มีคำไต่สวน มีถ้อยคำของผู้ที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นจึงมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ เมื่อ กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล โดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ในการจัดทำคำร้องเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสร็จเมื่อไหร่เราก็จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญเมื่อนั้น
ขณะที่การแสดงความเห็นในโซเชียลมีเดีย ที่ระบุว่า กกต.มีใบสั่งให้เสนอยุบพรรคก้าวไกลนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.ทำงานตามกฎหมาย ผู้ที่จะสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่คือ กฎหมายที่เขียนเอาไว้ หากมองตามรัฐธรรมนูญ ก็คือ กกต.เป็นองค์กรอิสระหนึ่งที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เพราะฉะนั้นหากไม่ทำตามกฎหมาย ก็ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่
ต่อจากนี้ไปจะมีพรรคการเมืองอื่นด้วยหรือไม่นั้น ประธาน กกต.ระบุว่า ไม่อยากเรียกว่าเป็นคิว หากมีการเสนอเรื่องและพิจารณาว่า พรรคการเมืองหรือผู้บริหารพรรคการเมืองใด กระทำการอันอาจจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การต้องยื่นศาลที่เกี่ยวข้อง กกต.ก็ดำเนินการตามนั้น ไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงอะไร
ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวว่า โทษของการยุบพรรคก้าวไกล อาจร้ายแรงถึงขั้นถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ประธาน กกต.ชี้ว่า ตามมาตรา 92 แล้ว หาก กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กกต.สามารถยื่นให้ศาลพิจารณาเพิกถอนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้
“ตามกฎหมายแล้ว ศาลจะสั่งห้ามตั้งพรรคใหม่ ห้ามเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตามกฎหมายศาลจะสั่งห้ามไม่ให้เกิน 10 ปี นั่นเป็นโทษสูงสุด ส่วน กกต.จะดำเนินคดีอาญากับพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ ต้องพิจารณาว่า การกระทำฝ่าฝืนกฎหมายอื่นด้วยหรือไม่”
สำหรับความคืบหน้าคดียุบพรรคภูมิใจไทย กรณีรับเงินบริจาคบริษัท บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่นฯ นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวบพยานหลักฐานของเลขาธิการ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่ถึงขั้นที่จะสรุปความเห็นและนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.