“ทักษิณ” แจงทุกดราม่าหลังกลับไทย ย้ำดราม่าคือเรื่องไม่จริง! เผยสภาพจิตใจดีเกิน 100 เพราะมีลูกหลานห้อมล้อม บอกใครไม่ชอบหน้า ขอต่างคนต่างอยู่ “เศรษฐา” พร้อมดึงอดีตนายกฯ ช่วยงาน
ที่ จ.เชียงใหม่ วันนี้ (16 มี.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกระแสข่าวดราม่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลับถึงประเทศไทย ว่า “คำว่าดราม่า ก็คือเรื่องไม่จริง จบโอเคไหมครับ”
ต่อข้อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณเรื่องอาการป่วย นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร ภาวะจิตใจคนสำคัญกว่า ถ้าภาวะจิตใจแย่ ก็อาจจะทำให้อย่างอื่นรวนตามไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้สภาพจิตใจดีเกิน 100% หรือยัง อดีตนายกฯ กล่าวว่า “ใจมันดี เพราะมีลูกสาว มีลูกชายอยู่ใกล้ๆ ยังมีหลานๆ อีก 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่ในวัย 75 ปี ขอให้เข้าใจและเห็นใจคนแก่ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนาน วันนี้กลับมาแล้ว ใครไม่ชอบหน้า ก็ต่างคนต่างอยู่”
นายทักษิณ ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้มีอาการป่วยจริง แต่กำลังใจดี ทำให้หลายอย่างดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาการกดประสาทของกระดูก ที่คอและหลัง และมีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ป่วยโควิด-19 ตอนนั้นอาการหนักมาก พักห้องไอซียู 9 วัน ข้างในก็ได้รับผลกระทบ ตอนนี้ที่ปอดยังคงมีจุดดำๆ อยู่
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวเสริมว่า “พ่อไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองป่วย จนกระทั่งได้ผ่าตัดและออกจากห้องไอซียู ถึงจะได้รู้ว่าตัวเองป่วย”
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจใน จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงการรับประทานอาหารมื้อค่ำร่วมกับนายทักษิณ ที่บ้านพักนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เมื่อค่ำวานนี้ (15 มี.ค.) ว่า ไม่ได้มีโอกาสพูดคุยปรึกษางานใดๆ กับนายทักษิณ มีเพียงการพูดคุย ถ่ายรูป และรับประทานอาหาร เห็นว่านายทักษิณ มีท่าทีที่เหนื่อย แต่ก็ดีใจที่ได้เห็นนายทักษิณมีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เชื่อว่า หลังจากนี้จะได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น
ถามว่ามีแนวคิดจะขอคำปรึกษาด้านเศรษฐกิจจากนายทักษิณหรือไม่ นายเศรษฐา ยืนยันว่า มีโอกาสแน่นอน ไม่ปิดกั้น นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมสูงสุด หากสามารถดึงมาช่วยงานได้ ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่ยังไม่มีแนวคิดเชิญนายทักษิณมาร่วมงานการเมือง เพราะยังไม่ทราบว่า นายทักษิณต้องการทำหน้าที่ใด หรือต้องการจะใช้เวลาเพื่อชดเชยกับครอบครัวก่อน เชื่อว่านายทักษิณ สามารถช่วยเหลืองานทางการเมืองในบริบทที่นายทักษิณถนัดได้ ขออย่าเป็นกังวล เพราะรัฐบาลของตนใจกว้างเสมอสำหรับการรับฟังความเห็นทุกคน ทั้งสื่อมวลชน และอดีตนายกรัฐมนตรี