“ทนายษิทรา” นำพยาน 2 ปากให้ข้อมูล ก.ร.ตร. พร้อมชงหลักฐานเส้นทางเงินมัด “เมียบอสใหญ่” เจ้าของรีสอร์ทเขาใหญ่ ปรามาส! คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงชุดนายกฯ แต่งตั้ง หวั่นมีฟอกขาวบิ๊กตำรวจ
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้นำพยาน 2 ปาก รวมถึงเอกสารหลักฐานเส้นเงินเว็บพนันที่เชื่อมไปถึง “บิ๊กตำรวจ” เข้าให้ข้อมูลกับ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
นายษิทรา หรือทนายตั้ม กล่าวว่า การให้ข้อมูลวันนี้ไม่มั่นใจในคณะกรรมการชุดนี้ เนื่องจากเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งขึ้นมา จึงกังวลว่าอาจจะมีการฟอกขาวให้ความช่วยเหลือเรื่องคดีกัน ยอมรับว่าตัวเองปรามาสการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ เพราะมองว่าพยานหลักฐานที่นำมาให้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งหากคณะกรรมการมีข้อสงสัยเรื่องการได้มาของพยานหลักฐาน ก็สามารถใช้อำนาจที่มีไปของหลักฐานจากธนาคารใหม่ได้ แต่ส่วนตัวไม่รู้ว่าจะทำหรือไม่ หรือท้ายที่สุดจะปัดตกหลักฐานของตัวเองไป และทำให้ “บิ๊กตำรวจ” ได้ประโยชน์
ส่วนเรื่องระยะเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง นายษิทรา กล่าวว่า คณะกรรมการไม่ได้ตั้งกรอบเวลาที่ชัดเจน ส่วนข้อสงสัยที่ว่าคณะกรรมการต้องรอพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกหรือหมายจับเหมือนกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หรือไม่ ถึงจะมีข้อสรุปความผิดบิ๊กตำรวจได้ ถ้าต้องรอพนักงานสอบสวนออกหมาย ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกตัวเองหรือพยานอื่นๆ มาให้ข้อมูล ถ้ารอแบบนั้นก็เหมือนรอลอกข้อมูลจากตำรวจ
ขณะที่การเรียกบุคคลเข้ามาให้ข้อมูลวันนี้ มีข้อมูลว่าทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะเดินทางมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการด้วยนั้น หากมีโอกาสก็เชื่อว่าน่าจะได้พูดคุยกัน แต่คงไม่ได้ให้คำแนะนำ เพราะทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีทีมทนายความของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนตัวเองมาในฐานะพลเมืองดีที่เห็นการกระทำความผิด และมาให้ข้อมูลคดีที่แจ้งความกับ “บิ๊กตำรวจ” และภรรยา ในฐานความผิดฟอกเงินเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
สำหรับประเด็นที่คณะกรรมการให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ เรื่องที่มาของพยานหลักฐานว่าได้มาจากใคร ซึ่งตัวเองได้ชี้แจงไปทั้งหมดแล้ว รวมถึงกรณีที่ออกมาแฉเรื่องรีสอร์ทเขาใหญ่ ที่ตัวเองมีหลักฐานชัดเจนว่าภรรยาของ “บิ๊กตำรวจ” เป็นเจ้าของเพราะเคยมีหลักฐานจากการให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่าภรรยา “บิ๊กตำรวจ” เป็นเจ้าของจริงๆ