“ป.ป.ช.” มีมติชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรงอดีต ส.ส.โคราช “สุชาติ ภิญโญ” ปมเมียถือครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 ในเขตป่าไม้ถาวรป่าวังน้ำเขียว 6 แปลง กว่า 250 ไร่โดยมิชอบ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญเกี่ยวกับกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหา นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา ยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินในเขตป่าไม้ถาวรป่าวังน้ำเขียว และยึดถือครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยมิชอบ
จากการไต่สวนปรากฏว่า นายสุชาติได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 โดยแจ้งว่า น.ส.พรทิพย์ ทองแสงสุข ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ได้ยึดถือครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 เลขที่สำรวจ ภ.146 บริเวณบ้านห้วยน้ำเค็ม หมู่ที่ 11 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 และยึดถือครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท. 5 เลขที่สำรวจ 251/54 บริเวณบ้านวังไผ่ หมู่ที่ 12 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ 3 งาน 90 ตารางวา ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 โดยให้บุคคลอื่นปลูกข้าวโพดประมาณ 100 ไร่
จากการตรวจสอบพบว่าที่ดิน ภ.บ.ท.5 เลขที่สำรวจ ภ.146 อยู่ในเขตป่าไม้ถาวรป่าวังน้ำเขียวเป็นที่ดินของรัฐตามประกาศของกรมป่าไม้ ปี พ.ศ.2506 และ น.ส.พรทิพย์ ไม่เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้ายึดถือครอบครองหรือได้รับการยกเว้นให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าวจากหน่วยงานของรัฐ การเข้ายึดถือครอบครองดังกล่าวจึงเป็นการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถาง โดยฝ่าฝืนมาตรา 54 ซึ่งให้สันนิษฐานว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484
สำหรับที่ดิน ภ.บ.ท. 5 เลขที่สำรวจ 251/54 อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้นำไปจัดสรรให้แก่เกษตรกรตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 น.ส.พรทิพย์ มิได้เป็นผู้ยากไร้หรือไร้ที่ดินทำกิน เนื่องจากมีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทและห้างหุ้นส่วน มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองรถยนต์จำนวนหลายคัน และมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินหลายแปลง นายสุชาติ ภิญโญ และ น.ส.พรทิพย์ ได้ยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงดังกล่าว จนกระทั่งนายสุชาติ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ก็ยังคงยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องเรื่อยมา ทั้งที่นายสุชาติ และ น.ส.พรทิพย์ ไม่ใช่บุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร และไม่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในอาชีพเกษตรกรรม ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนายสุชาติ เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ถูกบุกรุกทำลาย และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์การดำรงตำแหน่งอันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงและเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27 วรรคสอง ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 ต่อไป