สั่งพักราชการ-สอบวินัยร้ายแรง! รอง ผอ.โรงเรียนดังขอนแก่น พบหลักฐานมัด “สมุดรายชื่อนักเรียน” จ่ายเงินแป๊ะเจี๊ยะกว่า 70 ราย จ่ายสูงสุด 2 หมื่นบาท ด้าน “สพป.ขอนแก่น เขต 1” ยัน 150 โรงเรียนในสังกัด ไม่มีนโยบายเรียกรับเงิน
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นายอารยันต์ แสงนิกุล ผู้อำนวยการ สพป.ขอนแก่น เขต 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องกรณีที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 4 เข้าทำการจับกุมรองผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีพฤติกรรมเรียกรับเงิน เพื่อให้นักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียน
โดยจับกุมตัวได้ ขณะเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะจากผู้ปกครอง เพื่อรับย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา โดยนัดมอบเงินในห้องทำงานส่วนตัวในโรงเรียน เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 149 ‘เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ’ กับมาตรา 157 ‘เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่’ ซึ่งขณะนี้ สพป.ขอนแก่น เขต 1 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง และลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียด รวมทั้งประสานข้อมูลร่วมกับ ป.ป.ช. เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง
“ซึ่งตามเอกสาร หลักฐาน พบว่ามีมูลความผิดตามที่ ป.ป.ช.ระบุ โดย ป.ป.ช.จึงแจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่ สพป.ขอนแก่น เขต 1 ตั้งขึ้นมานั้น มีความเห็นว่า กรณีดังกล่าวมีมูลตามพยานหลักฐานจากกระบวนการการดำเนินการของ ป.ป.ช. ซึ่งเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรง” นายอารยันต์ กล่าวและว่า
ขณะนี้ สพป.ขอนแก่น เขต 1 ได้ออกคำสั่งพักราชการผู้ถูกกล่าวหา พร้อมกับได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่เมื่อมีการกระทำที่ผิดวินัยร้ายแรง จึงสั่งให้พักราชการ ห้ามปฏิบัติหน้าที่ และไม่ได้รับเงินเดือน ไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ทั้งนี้ การรับนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สพป.ขอนแก่น เขต 1 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 150 โรงเรียน ที่ผ่านมาได้เข้มงวดมาตลอด ให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติตามกฏระเบียบที่กระทรวงกำหนดเท่านั้น ทั้งยังคงได้เชิญ ป.ป.ช. และ สตง. มาให้ความรู้ และห้ามรับเงินจากผู้ปกครองนักเรียนเป็นอันขาด แต่ก็ยังมีข้าราชการอย่างรองผู้อำนวยการรายนี้ ที่กล้าทำ กล้าเรียกรับ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกิดจากการกระทำส่วนตัว
“การที่มีผู้ปกครองออกมาบอกว่า มีนักเรียนมามอบตัวและย้ายเข้ามาในโรงเรียนดังกล่าว ประมาณ 100 กว่าราย และมีการจ่ายเงินเช่นเดียวกัน แต่จ่ายในจำนวนที่ไม่เท่ากันกว่า 70 รายนั้น ก็ต้องให้คณะกรรมการตรวจสืบสวนข้อเท็จจริงทำการตรวจสอบว่า มีการจ่ายเงินจริงหรือไม่ และใครมีส่วนรับเงิน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดมีการรายงานไปยัง สพฐ.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”