ติงอย่าสร้างปัญหา! “วันชัย” ค้าน 40 สว.ชงยื่นศาลรัฐธรรมนูญสอย “นายกฯ-ถุงขนม” มั่นใจล้มรัฐบาลไม่ได้ ยกเว้นปฏิวัติ ถามกลับใครได้ประโยชน์ ถึงโหวตนายกฯ ใหม่ ก็คนเพื่อไทยเหมือนเดิม
ที่รัฐสภา วันนี้ (20 พ.ค.) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่ม 40 สว. ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีพฤติการณ์ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตในหน้าที่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับ ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ว่า ตนไม่ได้ร่วมลงชื่อด้วย ซึ่งเป็นไปอย่างที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ในฐานะประธาน กมธ.การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า เรื่องนี้ได้มีการหารือในที่ประชุม กมธ. โดยมีการถกรายละเอียดกันอย่างมากมาย
ทั้งนี้ โดยเฉพาะนายเสรี และ กมธ.อีกหลายคน ไม่เห็นด้วยที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะมีรายละเอียดต่างๆ ที่ไม่เห็นด้วย และที่สำคัญที่สุด สว.หมดวาระ ฉะนั้นเมื่อหมดวาระก็ไม่ควรไปสร้างประเด็นและปัญหา แม้จะมีอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง และต้องทำในเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น
“เรื่องนี้เรามองเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน มีอีกหลายส่วนงานที่สามารถทำหน้าที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น กกต. หรือ ส.ส.ที่เขาเห็นปัญหา ดังนั้นเราไม่ควรไปสร้างปัญหานี้ ในที่ประชุม กมธ.จึงมีเพียงแค่ 3 คนที่ร่วมลงชื่อ และผมไม่เห็นด้วย เพราะมองแล้วว่าการที่นายกฯ จะเสนอใครสักคน เพื่อให้ในหลวงโปรดเกล้าฯ จะต้องมีการพิจารณาตรวจสอบอย่างรอบคอบด้วยความระมัดระวัง แต่คนอื่นเห็นปัญหาอย่างไรก็เป็นเรื่องที่คนอื่นจะต้องตรวจสอบต่อไป ดังนั้น สว.ที่อยู่ในฐานะกำลังจะไป ก็ไม่ควรจะไปสร้างประเด็นใดๆขึ้นมาอีก” นายวันชัย กล่าวและว่า
เรื่องนี้เรามีความรู้สึกแปลกประหลาดใจ ทำไมถึงไม่เปิดชื่อทั้ง 40 สว. เพราะ สว.คนอื่นที่ไม่ลงชื่อด้วยมีจำนวนมาก ขณะเดียวกันกระแสสังคมก็ถาถมเข้ามากดดัน สว.ทั้งหมด กำลังจะพ่นพิษ สร้างฤทธิ์สร้างสถานการณ์อะไรต่างๆ ขึ้นมา ซึ่งเราบอกว่าในวาระที่เราจะไปแล้ว ไม่ควรจะให้มีสถานการณ์ใดๆ ที่จะให้สังคมมองเราในแง่มุมที่ไม่ดี และกระแสสังคมที่เอาไปพูดว่า สว.กำลังจะล้มนายกฯ กำลังจะล้มรัฐบาล เท่าที่มองและพูดคุยกันในเรื่องเหล่านี้ ทั้งในเรื่องกฎหมายและข้อเท็จจริงที่เอามาอ้าง มองดูแล้วไม่ได้ไปถึงขนาดนั้นเลย เพียงแต่นักวิชาการ สื่อ และคนที่ไม่ชอบรัฐบาล ก็วิเคราะห์กันไปจนกระทั่งรัฐบาลล้ม
ทั้งนี้ อยากถามว่าหากรัฐบาลล้มจริงๆ แล้วใครได้ประโยชน์อะไร เพราะถ้าดูตามเรื่องแล้ว หากรัฐบาลล้มจริงๆ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ก็ยังต้องรักษาการนายกฯ ต่อไป แล้วมีการโหวตนายกฯ ต่อไป เมื่อโหวตนายกฯ สว.ก็ไม่มีสิทธิ์โหวต เพราะเป็นเรื่องของ ส.ส. และพรรคเพื่อไทยก็ยังเป็นรัฐบาลต่อไป
“อย่างเก่งสมมุติถ้าเป็นไปตามนั้น ก็จะมีอุ๊งอิ๊ง (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) ขึ้นมา มีนายชัยเกษม นิติสิริ ขึ้นมา คนอื่นที่จะขึ้นมา มองดูแล้วปิดประตูเลย มันยากมาก เพราะฉะนั้นไม่ว่ารัฐบาลจะล้มหรือไม่ล้ม เกมก็ยังอยู่ในมือพรรคเพื่อไทยอยู่ ฉะนั้นประเด็นนี้ไม่สามารถไปสร้างการเปลี่ยนแปลงอะไรใดๆ ได้เลย นี่คือมองถึงผลร้าย แต่ใน กมธ.ได้ถกแถลงประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ไม่น่าจะไปถึงนายกฯ แต่ก็อาจจะมีบางคนที่อาจจะหวังผลอื่นหรือเปล่าเราก็ไม่รู้” นายวันชัย กล่าว
เมื่อถามว่ากลุ่ม 40 สว.ที่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญมีเจตนาอย่างไร นายวันชัย กล่าวว่า ตนไม่อยากวิเคราะห์ แม้บางส่วนอาจจะพอเข้าใจอยู่บ้าง แต่ไม่อยากไปสร้างความขัดแย้งใดๆต่อกัน ก็ให้เป็นสิทธิ์ เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของทุกคน ใครอยากจะใช้สิทธิ์อะไรก็ใช้สิทธิ์ไป และเป็นเรื่องความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล
นายวันชัย กล่าวด้วยว่า ตนยืนยันได้เลยในฐานะที่เป็น สว.และอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่โหวตนายกฯ จนกระทั่งยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 และจนยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีการดีล หรือสั่งการอะไรกันทั้งสิ้น เพราะที่ผ่านมาเป็นเรื่องของกลุ่ม สายนั้นสายนี่ เพราะฉะนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเป็นการวิเคราะห์กันอย่างผิดๆ เป็นการเข้าใจและเอาเรื่องมาโยงเอง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนใน
“อยากถามว่า หากดีลนี้ในที่สุดล้มนายเศรษฐาได้แล้ว ซีกไหนจะมาเป็นรัฐบาล ปิดประตูเลยใน 4 ปีนี้ ไม่มีซีกไหนจะมาเป็นรัฐบาล นอกจากปฏิวัติรัฐประหารเท่านั้น ถ้าไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร อย่างไรรัฐบาลก็อยู่ในสภา และอย่างไรคนที่มีอำนาจในการต่อรองสูงที่สุดก็คือพรรคเพื่อไทย พรรคอื่นอำนาจต่อรองไม่ถึง นอกจากปฏิวัติรัฐประหาร ไม่มีใครล้มได้ นอกจากเขาโกงกิน ทุจริต และไม่มีผลงาน เขาก็จะสะดุดขาตัวเองแน่นอน” นายวันชัย กล่าวในที่สุด