นายกฯ เข้าสภาฯ ตอบกระทู้สด “ก้าวไกล” แจงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วางเป้า 24 ก.ค. แถลงชัด “ดิจิทัล วอลเล็ต” ปรับใหม่ยึดตามข้อมูลจริง-ฟังรอบด้าน ชี้ปมต่างชาติถือครองอสังหาฯ 99 ปี ยันไม่ได้ขายชาติ-ปลอดผลประโยชน์ทับซ้อน ลั่นพร้อมสู้แรงค้านที่ไร้อนาคต
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 11 ก.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ตอบกระทู้ถามสดของพรรคฝ่ายค้าน เป็นครั้งแรก ซึ่งตั้งถามโดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต่อกรณีโครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยนายเศรษฐา ชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวจะมีการแถลงความชัดเจนในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เช่น ประเภทของสินค้านั้น แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลได้ฟังความเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการ และฝ่ายค้าน เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยปรับปรุงแต่งให้โดนใจประชาชนและถูกจุดประสงค์ที่มีเป้าหมายหลัก คือ กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ คือ งบกลาง จำนวน 4.3 หมื่นล้านบาท โดยจะพยายามเตรียมงบให้เต็มที่ และพินิจพิเคราะห์ได้อย่างดี เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ซื่อสัตย์ ตามกติกาของการใช้งบที่ถูกต้อง
“โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายหลัก ใช้เงินหมื่นบาท โดยใช้ให้จำกัดพื้นที่เพื่อให้เกิดการพัฒนากระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการพัฒนาต่ำ เช่น จ.หนองบัวลำภู, มหาสารคาม เพื่อพัฒนาเศษฐกิจภูมิภาค” นายเศรษฐา กล่าวและว่า
สำหรับการใช้งบกลาง ไม่ใช่กันไว้เพื่อโครงการดังกล่าวเท่านั้น แต่ใช้เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชน ส่วนประเด็นที่ตั้งถามถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้านอื่นๆ หรือไม่นั้น รัฐบาลมีมาตรการเพื่อพยุงเศรษฐกิจ เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยว ยกเว้นวีซ่า สร้างความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมรถอีวี เป็นต้น
“มีเงินใหม่เข้ามาในระบบ 4.7 แสนล้านบาท หรือ 5 แสนล้านบาท ผลิตสินค้ารองรับการซื้อของประชาชนในระบบหรือไม่ เกิดการผลิต การจ้างงาน ประชาชนมีความหวัง นอกจากนั้นแล้วยังต้องแก้ไขปัญหาสังคมที่ผูกโยงกับปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ปัญหายาเสพติด”
นายเศรษฐา ชี้แจงคำถามเกี่ยวกับมาตรการช่วยค่าครองชีพของประชาชน ว่า ทางแก้ทางหนึ่งคือ ความร่วมมือด้านความมั่นคงพลังงาน แหล่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลบริเวณไหล่ทวีประหว่างไทยและกัมพูชา (โอซีเอ) ซึ่งรัฐบาลประกาศจะแก้ไข เท่าที่ฟังตัวเลขจากการประเมินในพื้นที่ทับซ้อนกัมพูชาถึง 20 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างทางพลังงาน ให้มีใช้ในประเทศไม่ต้องนำเข้า
ทั้งนี้ น.ส.ศิริกัญญา ตั้งคำถามด้วยว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถามที่ถาม ซึ่งไม่มีมาตรการพยุงค่าครองชีพประชาชนระยะสั้นเฉพาะหน้า ไม่มีการแก้ปัญหาโรงงานปิดกิจการและเอสเอ็มอีล้ม วินิจฉัยโรคถูก แต่ทางออกมืดแปดด้านไม่มีรูปธรรม ไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ต หรือรอนักลงทุนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไร หากงบประมาณไม่พอใช้ช่วยเหลือเยียวยา ค่าครองชีพ ก่อนรอถึงปลายปีนี้ 2567 ตนมีข้อเสนอให้รัฐบาลสร้างแรงจูงใจท้องถิ่นนำเงินสะสมท้องถิ่น 2 หมื่นล้านบาท ใช้เพื่อลงทุนขนาดเล็ก เกิดการจ้างงานในพื้นที่ชนบท ที่ผ่านมานายกฯ เน้นการช่วยเหลือกลุ่มทุน มีมาตรการช่วยเหลือเน้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และล่าสุดที่นายกฯ ให้ศึกษาเกี่ยวกับประเด็นทรัพย์อิงสิทธิ์ ให้ต่างชาติ 99 ปี ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นมากกว่าประชาชน
ต่อประเด็นดังกล่าว นายเศรษฐา ยืนยันว่า รัฐบาลได้ดำเนินการมาตรการช่วยเหลือ ในกรณีของการศึกษาการให้ต่างชาติเช่าอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 99 ปี มีการเสนอให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว เพราะมีฝ่ายต่างประเทศเรียกร้อง ให้ปรับจากจาก 30 ปีเป็น 99 ปี ดังนั้นต้องศึกษาว่าเหมาะสมหรือไม่ หากทำแล้ว จะส่งผลระยะยาวต่อเศรษฐกิจไทย การลงทุนระหว่างประเทศสูงขึ้นหรือไม่ “ไม่ใช่เรื่องขายชาติ แต่ต้องศึกษาและทำให้ซื่อสัตย์ ปลอดจากผลประโยชน์ทับซ้อน รัฐบาลภายใต้การนำของผมวิ่งสู้เพื่ออนาคตและทุกพรรคร่วมวิ่งสู้ต่อไปปัจจุบันที่ดีกว่า สู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต” นายเศรษฐา กล่าวชี้แจง