Home Thailand จ่อชงสภาฯ เคาะร่างนิรโทษกรรม! ‘ก้าวไกล’ พ่วง 112 แบบมีเงื่อนไข ‘ชูศักดิ์-ชัยธวัช’ สยบดราม่าทุบโต๊ะ

จ่อชงสภาฯ เคาะร่างนิรโทษกรรม! ‘ก้าวไกล’ พ่วง 112 แบบมีเงื่อนไข ‘ชูศักดิ์-ชัยธวัช’ สยบดราม่าทุบโต๊ะ

by admin

กมธ.ยังไม่เคาะร่างนิรโทษกรรมเหตุจูงใจทางการเมือง แต่พร้อมเสนอ 3 แนวทาง ชงสภาฯ สิ้นเดือนนี้ ขณะที่ “ก้าวไกล” พ่วงคดี ม.112 แบบมีเงื่อนไข “ชัยธวัช” เผยอาจปรับแก้ร่างให้สอดคล้อง กมธ. ก่อนโอบไหล่สยบดราม่าทุบโต๊ะ!

ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ. และนายนิกร จำนง เลขานุการ กมธ. ร่วมแถลงความเห็นเกี่ยวกับการตรา พ.ร.บ.เพื่อนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 และมาตรา 112

โดยนายชูศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เกือบจะมีข้อยุติทั้งหมดแล้ว ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้ คือ ควรที่จะให้มีการนิรโทษกรรมการกระทำหรือเหตุที่มีแรงจูงใจทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรามีนิยามชัดเจนว่ามีความผิดเกี่ยวกับอะไรบ้างและจะผนวกแนบท้ายว่าเป็นความผิดอะไร โดยในส่วนนี้เราเห็นตรงกันไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร และเรื่องความผิดต่อชีวิต ความผิดที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เช่น ความผิดตามมาตรา 288 และ 289 เราไม่ได้นำมารวมอยู่ในความผิดที่จะต้องมีการนิรโทษกรรม เพราะถือเป็นความผิดที่เป็นการประทุษร้ายต่อชีวิต

ขณะที่ความผิดที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 และมาตรา 112 นั้น เป็นประเด็นความผิดที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง และเนื่องจากความผิดเหล่านี้ กมธ.เห็นว่า การทำงานของเราเป็นเพียงแค่การศึกษาหาแนวทางการตราร่างกฎหมาย จึงมีความเห็นร่วมกันว่าเราจะไม่ลงมติในประเด็นนี้ แต่จะเป็นการส่งความเห็นในประเด็นดังกล่าวรวมไปในรายงานที่จะเสนอต่อสภาฯ

ทั้งนี้ ความเห็นของ กมธ. แบ่งออกเป็น 3 ความเห็น คือ 1.ไม่ควรรวมทั้ง 2 มาตรานี้ไว้ในการนิรโทษกรรม 2.ให้มีการนิรโทษกรรมโดยไม่มีเงื่อนไขอะไร และ 3.ให้มีการนิรโทษกรรมแต่ให้มีเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม คาดว่าเราจะสามารถส่งรายงานฉบับนี้ให้สภาฯ ทันภายในสิ้นเดือนนี้

ด้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า นายชูศักดิ์ได้มอบหมายให้ตนช่วยไปรวบรวมความเห็นมาประกอบในรายงานเพื่อให้สรุปได้ทันในสัปดาห์หน้า ซึ่งนี่เป็นความเห็นของฝ่ายที่เห็นด้วย และตนมีความเห็นว่าข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอที่มีความสำคัญ เนื่องจากการนิรโทษกรรมในคดี 112 แน่นอนต้องยอมรับว่า มีข้อถกเถียงกันพอสมควร แต่รายละเอียดที่จะยอมรับ เพื่อนำมาพิจารณาว่าจะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่ โดยต้องมีการลงรายละเอียดว่า ควรมีตัวอย่างและกำหนดเงื่อนไข รวมถึงมาตรการการป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งตนมองว่าน่าเป็นข้อดี และเป็นข้อเสนอใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในสังคมไทย เพื่อให้ฝ่ายที่อาจมีความเห็นที่แตกต่างกันได้พิจารณาแล้ว อาจจะมีการยอมรับกันได้

เมื่อถามว่า การนิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไขคือเงื่อนไขอะไร นายชัยธวัช กล่าวยกตัวอย่างว่า ก่อนที่จะมีสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณาว่า จะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่ จะต้องมีการมาแถลงข้อเท็จจริงของผู้ที่กระทำผิดหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด ว่าเหตุใดจึงกระทำการไปแบบนั้น มีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างไร ทำไมจึงเชื่อแบบนั้น แม้กระทั่งอาจจะถูกถามว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่อย่างไร และอาจจะเปิดโอกาสให้คู่กรณีหรือเจ้าหน้าที่รัฐได้ให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งกับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด หรืออาจมีการกำหนดเงื่อนไขว่าจะต้องไปผ่านกระบวนการอื่นๆ หรือทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง และอาจจะต้องรับเงื่อนไขว่าห้ามกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งภายในเวลากี่ปี

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า นี่จะเป็นบัฟเฟอร์ให้สังคมไทยในเวลาเปลี่ยนผ่าน และลดความขัดแย้งทางการเมือง โดยภายหลังจากได้รับการนิรโทษกรรมแล้ว อาจจะต้องเข้าร่วมกิจกรรม หรือกระบวนการ หรือรายงานตัวอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามต่อว่า พรรคก้าวไกลมั่นใจหรือไม่ว่าหากเสนอร่าง พ.ร.บ. สภาฯ จะเห็นชอบกับร่างที่พรรคเสนอ นายชัยธวัช กล่าวว่า เชื่อว่าเมื่อ กมธ.ได้เสนอรายงานให้สภาฯ พิจารณาแล้ว น่าจะมีหลายพรรคการเมืองยื่นร่าง พ.ร.บ.ของตัวเอง ซึ่งมีหลักการตรงกันว่าการนิรโทษกรรมเป็นมาตรการ ในการช่วยคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมือง เพียงแต่อาจจะเห็นไม่ตรงกันรายละเอียดบ้าง แม้แต่ สส.ของพรรคก้าวไกล ก็ยังมีการพูดคุยกันเองว่า หลังจากเห็นรายงานนี้ก็อาจจะมีการปรับร่างกฏหมายของพรรค เพื่อให้มีความสอดคล้องกับบางข้อเสนอที่น่าสนใจของ กมธ. แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะต้องรอให้การพิจารณาของ กมธ.เสร็จก่อน

ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำถึงบรรยากาศในที่ประชุม เนื่องจากมีรายงานว่ามีการถกเถียงกันอย่างหนัก ถึงขนาดที่พรรคก้าวไกลต้องยกเลิกการแถลงข่าวภายหลังการประชุม นายชัยธวัช พยักหน้า พร้อมกล่าวว่า ”ดีครับ“ นายชูศักดิ์ จึงกล่าวว่า “เป็นไปด้วยดี ทุกฝ่ายเอาเหตุผลมาสู้กัน ไม่มีทุบโต๊ะ” ผู้สื่อข่าวกล่าวอีกว่า เห็นเดินมาก็ยิ้มเลย ทั้งสองคนจึงหัวเราะ ก่อนที่นายชูศักดิ์จะโอบไหล่นายชัยธวัช พร้อมกล่าวว่า “ไม่เห็นต้องสู้อะไรเลย”

Related Articles

Leave a Comment