“สุวัจน์” ยันแกนนำรัฐบาลพบ “ทักษิณ” ที่เขาใหญ่ ไม่มีนัยทางการเมือง ยอมรับประชาชนเดือดร้อนจากเศรษฐกิจซบเซาจริง ชี้รัฐกำลังเร่งฟื้นฟู ทั้งแจกเงินดิจิทัล-ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ คาดปลายปีนี้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาประเทศของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ว่า ตอนนี้จะต้องเร่งรัดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของเรายังไม่โตตามเป้าหมาย การกระตุ้นและสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นเรื่องสำคัญ
วันนี้จะต้องสร้างกำลังซื้อ สร้างกิจกรรมเศรษฐกิจภายใน ตนคิดว่าเรื่องที่จะช่วยได้ คือ 1.เรื่องงบประมาณแผ่นดิน ทั้งปี 2567-2568 ถ้าเร่งรัดใช้ปี 2567 และเร่งของปี 2568 ให้สามารถดำเนินการให้รวดเร็วได้ เม็ดเงินจำนวน 3 ล้านล้านกว่าบาท จะมาช่วยเศรษฐกิจได้ 2.โครงการที่รัฐบาลทำดิจิทัลวอเล็ตอีก 4-5 แสนล้านบาทก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนเอามาใช้จ่าย ฉะนั้น โดยภาพรวมวันนี้นอกจากจะต้องปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศให้เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบันแล้ว เฉพาะหน้าต้องลงมากระตุ้นเศรษฐกิจกันทั้งเงินของภาครัฐและเงินภาคประชาชน คาดว่าประมาณปลายปีนี้น่าจะเห็นการขยับเขยื้อนตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ
ที่สำคัญตอนนี้ คือ ต้องเร่งโปรโมทเรื่องการท่องเที่ยว ต้องทุ่มเทเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามา ต้องเอาให้ได้ 40 ล้านคน เพราะการท่องเที่ยวจะเป็นตัวช่วยพี่น้องประชาชนได้เร็วที่สุด ฉะนั้นต้องปรับแผนเร่งรัดเอาเรื่องการท่องเที่ยวมาช่วยวิกฤตเศรษฐกิจ
ส่วนประเด็น “ปฏิญญาเขาใหญ่” นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่มีปฏิญญาเขาใหญ่ ไม่มีนัยยะทางการเมือง ตามที่เป็นข่าว เป็นการคาดการณ์ เป็นการวิเคราะห์แต่ว่าเนื้อหาจริงๆ เท่าที่ตนอยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีอะไรอย่างงั้น ไม่มีเรื่องการเมือง มีแต่เรื่องการบ้าน เรื่องครอบครัว เรื่องลูกน้องกับท่านอะไรอย่างนั้น
“ท่านทักษิณบอกว่าไม่ได้มาเขาใหญ่ 20 ปีแล้ว คุณอุ๊งอิ๊งก็เชิญคุณพ่อก็มาเที่ยวกับครอบครัวลูกหลาน ท่านอนุทินก็เลยเชิญท่านทักษิณมาเที่ยวที่สนามกอล์ฟ และเชิญผมไปร่วมงานด้วย เป็นบรรยากาศของท่านมาเที่ยวเขาใหญ่ ผมหรือท่านอนุทิน เป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมรัฐบาลท่านก็เหมือนท่านมาเจอลูกน้องเก่า มาเจอพี่น้องประชาชนที่ไปต้อนรับบ้าง แต่สําคัญสุด เหมือนใช้ช่วงวันหยุดกับครอบครัว ไม่ได้มีนัยยะทางการเมือง ไม่ได้มีปฏิญญาเขาใหญ่“
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องหน้าตาของ สว. ตอนนี้ออกมาแล้ว รวมทั้งเสถียรภาพของรัฐบาลต่อนี้ไปจะมั่นคงไปครบเทอม ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เรามีระบบการได้มา สว.ลักษณะนี้ ตามรัฐธรรมนูญใหม่ ฉะนั้นอาจจะเป็นอะไรที่เราไม่มีประสบการณ์กับรูปแบบในการได้ สว.แบบนี้ ก็หลากหลายอาชีพ 20 อาชีพตามเป้าหมาย แต่เสียดายที่ไม่ได้หลากหลายจังหวัด บางจังหวัดไม่มีตัวแทน คงจะต้องเป็นภารกิจหน้าที่ของ สว.คนใหม่ทั้ง 200 คน ว่าจะทำงานอย่างไร ให้เป็นการพิสูจน์ว่าระบบซึ่งได้มาครั้งนี้สามารถที่จะสร้างแนวคิดวิธีการใหม่ๆ ในการทำหน้าที่ของ สว. ตนอยากฝากให้ท่านได้ดูแลในจังหวัดหลายๆ จังหวัดที่ยังไม่มี สว. เพราะทุกคนมาด้วยความถูกต้อง
สำหรับประเด็นเสถียรภาพของรัฐบาลนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ด้วยความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ เท่าที่ดูก็ยังไม่มีประเด็นอะไรที่จะเป็นร่องรอยว่ามีอะไรไม่เข้าใจหรือขัดแย้งกัน ยังมีความเรียบร้อย มีความสามัคคีกันอยู่ เรื่องเสียงในสภาฯ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ต้องดูศาลรัฐธรรมนูญด้วยในการตัดสินคดีที่สำคัญที่จะกระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลขณะนี้ คือจะต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างไรให้พี่น้องประชาชนอยู่ได้ อันนั้นคือ โจทย์ใหญ่มากกว่าเสถียรภาพของรัฐบาล