Home Thailand ‘ชวน’ ลั่นไม่ขอทรยศประชาชน กรีดยับ!! อยากร่วมรัฐบาลก็บอกตรงๆ อย่าอ้างคนอื่น

‘ชวน’ ลั่นไม่ขอทรยศประชาชน กรีดยับ!! อยากร่วมรัฐบาลก็บอกตรงๆ อย่าอ้างคนอื่น

by admin

“ชวน” กรีดยับ! อยากร่วมรัฐบาลก็บอกมาตรงๆ อย่าอ้างคนอื่น ลั่นคำไหนคำนั้นไม่ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย-ไม่อยากทรยศประชาชน ชี้หากมติ ปชป.เข้าร่วม จะไม่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล ชี้ตนเป็นนักการเมืองอาชีพ-รู้กติกา ไม่ใช่นักฉวยโอกาส

นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาล ว่า ยังไม่มีการแจ้งมาจากกรรมการบริหารพรรค ตามระเบียบข้อบังคับพรรคฯ จะต้องขออนุมัติจากที่ประชุม สส. และกรรมการบริหาร่พรรค แต่ทราบว่ามีความพยายามของบางคนที่อยากจะเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่ตอนแรก ซึ่งเห็นได้จากพฤติกรรมในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ครั้งแรก และตอนลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จึงเห็นว่าไม่ควรมาอ้างว่าประชาชนอยากให้ร่วม หากอยากเป็นรัฐบาลก็ควรพูดตรงๆ ว่าอยากเป็น

นายชวน กล่าวยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการร่วมรัฐบาล เนื่องจากเคยไปรณรงค์ให้ประชาชนในภาคใต้ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เพราะถูกเลือกปฏิบัติ ไม่พัฒนาภาคใต้ เนื่องจากคนใต้ไม่เลือก จึงไม่อยากทรยศ แต่หากเสียงส่วนใหญ่มีมติให้เข้าร่วมรัฐบาล ก็ต้องว่ากันไปตามมติของพรรค ไม่มีปัญหา เพราะตนไม่ใช่ตัวปัญหาของพรรค ตนอยู่กับพรรคฯมาเกือบ 60 ปี มีส่วนร่วมล้มลุกคลุกคลาน ตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน ฟื้นฟูพรรคจนกระทั่งได้เป็นรัฐบาล

“หากอยากเป็นก็บอกตรงๆ ว่าอยากเป็นรัฐบาล อย่าไปอ้างคนอื่น เราควรพูดเรื่องจริงว่าเพราะอยากเป็น เราก็ไม่ว่าอะไร และหากมติส่วนใหญ่ให้เป็น เราก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าไปหลอก ไปอ้างเหตุผลอะไรมาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็ทำให้คนที่ติดตามเราอยู่จะมีความรู้สึกในทางลบกับพรรค”

ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล นายชวนจะลาออกนั้น นายชวน กล่าวว่า ตนไม่เคยพูด และตนเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดมาก ซึ่งตนเคยบอกว่าใครชนะเลือกตั้งได้ที่ 1 เป็นรัฐบาล ตอนนั้นตนแพ้ไป 2 เสียง และรวมเสียงได้มากกว่าด้วยซ้ำ แต่ต้องรักษาคำพูด ตนเป็นนักการเมืองที่อยู่มาได้เพราะประชาชนเลือก เพราะความเชื่อถือคำไหนคำนั้น อะไรทำได้ก็ทำ อะไรทำไม่ได้ก็บอกตรงๆ ตนจึงไม่พูดว่าจะลาออก เพราะถ้าพูดต้องลาออก

เมื่อถามว่านายชวนจะเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่แน่นอน เพราะตนเป็นนักการเมืองตัวจริง ไม่ใช่นักฉวยโอกาส ไม่ใช่นักกินเมือง ไม่ใช่นักปล้นเมืองโกงเมือง ตนเป็นนักการเมืองรู้ในกติกา จึงไม่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล แต่จะใช้สิทธิ์โดยชอบธรรมที่มี เช่น กฎหมายที่ดีของรัฐบาลตนก็พร้อมที่จะสนับสนุน ยกเว้นบางเรื่อง เช่น หากมีกรณีพฤติกรรมที่ทุจริต หากมีข้อมูลหลักฐานชัดเจน ก็ไม่ควรที่จะยกขบวนกันไปยอมรับสิ่งเหล่านี้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือจุดยืนของพรรคต้องมี ไม่ใช่ว่าอะไรก็ได้ ซึ่งตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีการไปเจรจา ไม่ได้อยากเข้าไปเป็นรัฐบาลแล้วขอร่วมหน่อย แต่เป็นการร่วมโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญและประกันรายได้เกษตรกร

“ผมไม่ได้มีปัญหาส่วนตัว หรือไปอาฆาตแค้นอะไร กับนายกรัฐมนตรีหรือคนในพรรคเพื่อไทย แต่ผมต้องการตอบแทนบุญคุณคนภาคใต้ โดยการทำหน้าที่แทนชาวบ้าน และที่เหนือไปกว่านั้นคือ พรรคมีเกียรติยศมายาวนาน เราไม่เคยถูกประณามว่าเป็นพรรคอะไหล่ หรือถูกกล่าวหาว่าเป็นพรรคที่คอยเสียบ ผมก็รู้สึกเจ็บร้อนแทน และรู้สึกว่าไม่เห็นมีใครออกมาปกป้องพรรค อยากขอร้องว่าหากจะพูดถึงพฤติกรรมคอยเสียบ ขอให้เจาะจงไปที่ตัวบุคคล ที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น เพราะพรรคไม่ได้ประกอบด้วย ส.ส.เพียง 25 คน แต่ยังมีสมาชิกซึ่งอยู่ข้างนอกอีกจำนวนมาก และคงไม่พอใจกับพฤติกรรมบางอย่างที่เกิดขึ้น แต่คงไม่สามารถทำอะไรได้ สังเกตว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ติดใจที่อยากได้พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลสักเท่าไหร่ แต่ปัญหาคือคนของเราอยากร่วมรัฐบาลมากกว่า” นายชวน กล่าว

สำหรับกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะสูญพันธุ์นั้น นายชวน กล่าวยืนยันว่า ไม่สูญ เพราะอย่างน้อยก็น่าจะเหลือตนอีกคน แต่ไม่มั่นใจว่าจะได้รับเลือกเข้ามาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เห็นว่า กก.บห.พรรคชุดนี้ก็มาจากชุดที่แล้ว จึงน่าจะทราบว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน และยังเชื่อว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในสมัยหน้าน่าจะได้มากกว่าเดิม เพราะจากการลงพื้นที่ เห็นปฏิกิริยาชาวบ้านก็พอจะรู้ว่าหลายคนก็ยังอาลัยและเสียดายพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้ระบบการเลือกตั้งเปลี่ยนไป และคนก็เปลี่ยนไปมาก

ทั้งนี้ นายชวน ยังกล่าวถึงนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่านักการเมืองมี 2 ประเภท มีพวกที่พูดเก่ง ชอบตำหนิ แต่ทำงานไม่เก่ง ว่า ตนอยู่สภาฯ มากว่า 50 ปี ไม่เคยได้ยินว่าแบ่งกันเช่นนี้ และเห็นว่านายเดชอิศม์ เป็นฝ่ายค้านมาเกือบ 1 ปี แทบไม่เคยพูดในสภาฯ เลย หรือจะพูดเพียง 1 ครั้ง ในขณะที่ลูกชายนายเดชอิศม์พูดเก่ง ซึ่งหากพูดอย่างนี้ อยากย้อนถามว่า ลูกชายทำงานไม่เก่งหรืออย่างไร เพราะลูกชายนายเดชอิศม์อภิปรายงบประมาณได้ดีมาก ตนอยู่สภาฯ มาเคยได้ยินแต่ว่านักการเมืองที่โกงกับไม่โกง และคนที่เป็นคนอภิปรายได้ดีในสภาฯ เป็นเพราะเตรียมตัวมา ดังนั้น จึงไม่ควรพูดเช่นนี้

นายชวน กล่าวอีกว่า แม้มีความเห็นต่างในการที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็ไม่ทำให้พรรคแตก เพราะพรรคประชาธิปัตย์อยู่มายาวนาน ผ่านอะไรมาเยอะ แต่สิ่งสำคัญคือพรรคต้องมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี

Related Articles

Leave a Comment