Home FeatureSpotlight คมข่าว – 18/9/67

คมข่าว – 18/9/67

by admin

“คำโกหกที่ถูกจับได้…แม้เพียงสักครั้งเดียว ก็ทำให้คนผู้นั้น…ถูกตั้งข้อสงสัยในพฤติกรรมไปตลอดกาล” นายสัปดาป…รายงานตัว ณ สถานี ข่าว ACN Hot News ในห้วงกลางสัปดาห์ของเดือนกันยายน 2567…★★…ที่สุด! ความเป็น “รัฐบาลแพทองธาร” ก็สำเร็จเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ…นับแต่วันสิ้นสุดการแถลงนโยบายฯ ต่อรัฐสภา เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน นั่นหมายความว่า…กิจการงานรัฐใดๆ ที่รัฐบาลภายใต้การนำของ “แพทองธาร ชินวัตร” ทำ…ย่อมมีกฎหมายรองรับในทุกการดำเนินงาน! การประชุม ครม.นัดแรก ที่เพิ่งเสร็จสิ้นกันไป มีหลายเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะ การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคเหนือ ล่าสุด “นายกฯ อิ๊ง” กำชับสั่งการให้ทุกกระทรวงติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำกันเป็นรายสัปดาห์ จากภาคเหนือจะไปไหนต่อ? ทางอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ลากยาวไปจนถึงภาคใต้ ทั้ง น้ำเหนือ น้ำฝนและน้ำทะเล ที่หากทุกสถานการณ์ดันมาบรรจบพบกันในคราวใด? กรุงเทพฯ และปริมณฑล คงไม่พ้นสภาพ “จมบาดาล” เป็นแน่!!!…★★…แม้ข้อมูลเชิงลึกที่ “นายกฯ อิ๊ง” ได้รับรายงานกันมา กระทั่งมั่นใจว่า…เมืองหลวงและจังหวัดรายรอบจะปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วม เอาเข้าจริง…คนกรุงเทพฯ และชาวปริมณฑลจะไว้ใจได้ก่าาาา แต่ถึงกระนั้น การแต่งตั้ง คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) มอบหมายให้ “รองฯ อ้วน – ภูมิธรรม เวชยชัย” คอยกำกับดูแล ควบคู่ไปกับการจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) โดยให้ทั้ง 2 หน่วยงาน “เกาะติด” สถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดเป็นรายชั่วโมง ตลอด 24 ชม. คอยดูแลพี่น้องชาวไทยที่ตกค้างในพื้นที่ประสบภัยภาคเหนือตอนบนและภาคอีสานตอนบน สิ่งนี้…พอสร้างความอุ่นใจได้บ้าง? กระนั้น อดเป็นห่วงไม่ได้กับการต้องผ่อนปรน และลดขั้นตอนเอกสาร ในการตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อการนี้ ซึ่งแต่ละหน่วยงานเสนอของบประมาณผ่านมายังรัฐบาล ณ เวลานี้ นับรวมกันราว 3,000 ล้านบาท ขอแนะนำให้ “นายกฯ อิ๊ง” ปล่อยผ่าน…ไปก่อนได้ แต่ก็ต้องกลับมา ตรวจสอบเข้มข้นย้อนหลัง หวังใจว่า…จะไม่มีขบวนการ “ทำนาบนหลังผู้ประสบอุทกภัย” …★★…

เรื่องดีๆ ก็ต้องชม เหมือนเช่นที่ “นายกฯ อิ๊ง” ประกาศจะเยียวยาผู้ประสบในเบื้องต้น เริ่มด้วยการมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย เดินเครื่อง ยกเว้น! ค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า ในรอบบิลเดือนกันยายน 2567 ส่วนในเดือนตุลาคม 2567 จะให้ลดค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าลงอีก 30% หากพ้นจากนี้…ปัญหาน้ำท่วมยังไม่จบ! รัฐบาลก็พร้อมจะให้การช่วยเหลือต่อไป และทันทีที่มีข่าวนี้ ฉับพลัน! “รองฯ หนู – อนุทิน ชาญวีรกูล” มีคำสั่งด่วนทันที! มอบหมายให้ การประปาส่วนภูมิภาค (กปน.) เร่งให้ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ผ่าน 5 มาตรการ ไม่ว่าจะเป็น การยกเว้น! เก็บค่าน้ำประปาและค่าบริการทั่วไป ขยายเวลาค้างชำระค่าน้ำ ให้ผ่อนชำระค่าน้ำได้ ช่วยเหลือน้ำประปาฟรีทำความสะอาดบ้านเรือน สนับสนุนน้ำดื่มบรรจุขวดตราสัญลักษณ์ กปภ. และน้ำประปา อย่างต่อเนื่อง ส่วน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กับการยกเว้น! ค่าไฟฟ้า เชื่อว่า…คงจะมีข่าวดีในเร็วเช่นกัน…★★…หาก ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือและภาคอีสาน รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับการเยียวยาเบื้องต้นไปแล้ว และยังอยู่ใน “กลุ่มเปราะบาง” ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือกลุ่มคนพิการ ก็จะได้รับแจกเงินสดๆ 10,000 บาท ภายในปีนี้ โดย “นายกฯ อิ๊ง” นำทีม ครม. แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ยืนยันแจกแน่นอน แล้วหากดูเทียบกับ “ไทม์ไลน์” ของกระทรวงการคลัง ภายใต้การนำของ “รองฯ พิชัย ชุณหวชิร” ล่ะก็ น่าสนใจทีเดียว แจกเงินครั้งที่ 1 ภายใน 22 ก.ย. ครั้งที่ 2 ภายใน 22 พ.ย. และ ครั้งที่ 3 ภายใน 22 ธ.ค. แม้จะหลุดจากกรอบปีงบประมาณนี้ แต่ก็อยู่ในปีปฏิทิน 2567 ถือว่า…หยวนๆ กันไป ส่วนคนกลุ่มอื่น โดยเฉพาะ อีกกว่า 30 ล้านคนที่ลงทะเบียนผ่าน “แอปฯ ทางรัฐ” และกลุ่มคนจนที่ไม่มีโทรมือถือ ยังคงต้องรอไปก่อน ได้นะได้แน่…แต่จะเป็นเมื่อใด? คงได้นั่งลุ้นกันฉี่เหนียวชัวร์! แว่วๆ มาว่า…บรรดานักร้องและพรรคฝ่ายค้าน ต่างจับจองกฐินการเมืองกันแล้ว เหตุเพราะการแจกเงินหมื่น…ไม่ตรงปก! นักร้องก็ร้องกันไป ส่วนฝ่ายค้านก็คงต้องใช้เวทีสภาฯ อภิปรายชี้ชัดความผิดพลาดเชิงนโยบายกันต่อ…★★…พูดถึงบรรดานักร้อง…นาทีนี้ คำร้องใดๆ หากไม่ “ดีเด่นดัง” จริงๆ แถมยังมีค่าเป็นแค่เรื่อง…ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ล่ะก็ ให้ระวัง! จะงานเข้า? ไม่เพียงคนไทยจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับการตรวจสอบเฉพาะ “คนฝั่งตรงข้าม” โดยไม่คิดตรวจสอบ “คนฝั่งเดียวกัน” เท่านั้น หากแต่องค์กรตรวจสอบ ที่ใกล้ถึงวัน “เปลี่ยนผ่าน” ในบางตำแหน่งของหลายๆ องค์กรด้วยแล้ว ก็คงรู้สึกเบื่อหน่ายไม่ต่างกันนัก ยิ่งฝั่งที่ถูกยื่นให้ตรวจสอบ…ไม่ต้องพูดถึง ยามนี้…โอกาสจะฟ้องร้องดำเนินคดีกลับ! เอากับ บรรดานักร้อง ก็มีสูง! หากถึงขั้น ชนะคดีอาญา แล้วล่ะก็ คงไม่ต้องบรรยายนะว่า…ใน คดีแพ่ง ที่ทำให้คนอื่นเขาเสียหายอย่างมากมาย จะแปรเปลี่ยนเป็น มูลค่าความเสียหาย สักกี่ร้อยกี่พันล้านบาท ถึงตรงนั้น…มหกรรม “สยบนักร้อง” คงพร่างพรูทีเดียว!!!…★★…ว่าด้วยมูลเหตุแห่ง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปม…ปลด “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นเก้านายกรัฐมนตรี กับวลี “จริยธรรม” ทำเอาการแต่งตั้ง “ตำแหน่งการเมือง” ต้องล่าช้าตามไปด้วย จาก…เก้าอี้รัฐมนตรี กระทบไปถึง…ข้าราชการการเมือง ไว้เว้นแม้แต่ตำแหน่ง “โฆษกรัฐบาล” ทุกอย่างต้องผ่านการ ตรวจสอบที่มาและคุณสมบัติสุดเข้มข้น พลาดเป็น…ตกม้าตาย รอบนี้…สะเทือนถึงการแต่งตั้งบรรดา บิ๊กทหารและตำรวจ ล่าสุด “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย คนคุมทั้ง ฝั่งทหารและซีกตำรวจ เพิ่งให้สัมภาษณ์ “หมาแก่” ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ทำนอง…“โผบิ๊กทหาร” คงเสร็จไม่ทัน! แล้วอาจล่าช้าจนพ้นสิ้นปีงบประมาณ 2567…กว่าจะลงตัว สรรหาเก้าอี้ ผบ.ทร. ผบ.ทบ. ผบ.ตร. อาจล่วงเลยถึงเดือนตุลาคมโน้นเลยแหล่ะ ก็ไม่รู้ว่า “เผือกร้อน” ในทุกเก้าอี้ใหม่นี้ จะนำพามาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในมิติใด เพราะบางเก้าอี้…ลือกันว่า ช่างรุนแรงนัก ถึงขนาด ยอมตัดมือรักษาแขน ตัดแขนรักษาชีวิต อะไรทำนองนั้น…ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ บิ๊กบางคน? ที่จำต้อง “ฮาราคีรีตัวเอง” คือ ตัวอย่างสะท้อนความรุนแรงของเกมการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในรอบนี้…★★…

สำรวจ การเลือกตั้งซ่อม สส. พิษณุโลก เขต 1 ที่ต่างรู้คำตอบกันแล้ว ที่สุด! พลพรรคสีส้ม ก็ยังคงหาชัยชนะไม่เจอนับจากเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็น “พรรคประชาชน” ความพ่ายพ่ายแพ้ต่อเนื่อง ทำให้ต้องกลับไปถอดบทเรียนกันใหม่ จะหาทางรับมือยุทธการ “รุมกินโต๊ะ” ของ พรรคร่วมรัฐบาล และ “บ้านใหญ่” ในสังกัดฯ กันอย่างไร? ใครที่มองโลกด้านเดียว…แล้วบอกว่า มันก็แค่…การเลือกตั้งซ่อมฯ (สส.) หรือ เลือกตั้งท้องถิ่น (นายกฯ อบจ.) หากเป็นการเลือกตั้งสนามใหญ่ ที่แต่ละพรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัคร ลงแข่งขัน…ตัดแต้มกันเอง แล้วจะทำให้ “พรรคสีส้ม” ชนะเลือกตั้งเหมือนครั้งที่ผ่านมา นายสันดาป ขอบอก…มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ครั้งก่อน…ทั้ง บ้านใหญ่และพรรคการเมือง ยังไม่มีบทเรียนการเลือกตั้ง แต่หลังจากนี้…เรื่องมันจะไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน ลองหันไปดู การเลือกตั้ง สว.ครั้งล่าสุด ที่บรรดา “คอการเมือง” ก่นด่าคนออกแบบกติกา “มีชัย ฤชุพันธ์” กันอึงมี่ หาว่า…สร้างรูปแบบการเลือก สว.ที่ไร้ความเป็นสากลและไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ด่าด่าด่าด่าด่า แล้วก็ด่า…แต่กับ “กลุ่มเพื่อนเนวิน” กลับมองเห็นวิกฤติของหลายพรรคการเมือง คือ โอกาสของเครือข่ายพวกพ้องตนเอง นำมาซึ่ง ชัยชนะถล่มทลาย! ทำให้ วุฒิสภา…กลายเป็น “สภาสีน้ำเงิน” กันไป แนวคิดนี้…จะถูกนำมาใช้อีกครั้ง! ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อต่อต้านพรรคประชาชน จำไว้!!! ส่วนจะเป็นรูปแบบไหนกัน? ถึงวันนั้น…ก็จะรู้กันเอง กระนั้น พลพรรคสีส้ม…ก็อย่าได้ท้อถอย คอยบอกคอยน้ำเตือนบรรดา สส.ของพรรค หมั่นลงพื้นที่พบปะพี่น้องฐานเสียงกันให้มาก อย่าทำตัวเป็นแค่ “สส.ออนไลน์” ไม่สนใจชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน เพราะไม่ว่าจะใน ท้องถิ่นทุรกันดาร หรือแม้แต่ใน เมืองหลวงเมืองรอง หากมีโอกาส…ก็คงรลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยือนและไถ่ถามสารทุกสุกดิบกันบ้าง? อย่าทำตัวเป็น สส.ทำงานที่ห้องแอร์ในสภาฯ เหมือนที่เป็นอยู่ มันจะหายไปทั้ง คะแนนของ สส.เขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ…★★…วันก่อน นายสันดาป ไปร่วมฟังเสวนาหัวข้อ “กาสิโนถูกกฎหมาย…ทางรอดประเทศไทยจริงหรือ?” จัดโดย มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) ร่วมกับ เครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืน (สสสย.) มีประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะปมที่ “ภัณฑิล น่วมเจิม” สส.เขตวัฒนา-คลองเตย พรรคประชาชน บอกกล่าววงเสวนา ทำนอง “คนคลองเตยไม่เอากาสิโนถูกกฎหมาย” หลังจากมีความพยายามของคนในรัฐบาล ตั้งแต่ยุค “เศรษฐา ทวีสิน” จนถึง “แพทองธาร ชินวัตร” จะเอาพื้นที่กว่า 2 พันไร่ของ ท่าเรือคลองเตย มาเป็นที่ตั้ง โครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการ ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์) ด้วยเหตุผล “ได้ไม่คุ้มเสีย” ยิ่งฟังจากปากของ สส.ภูมิใจไทย “กรวีร์ ปริศนานันทกุล” จาก จ.อ่างทอง พูดด้วยแล้ว วงประชุมและคนนั่งฟัง…ถึงกับ “อึ้งกิมกี่” เจ้าตัวบอกเอง…ไม่ว่าจะพลิกร่างกฎหมายฉบับดูอย่างไร? เนื้อหาสาระสำคัญส่วนใหญ่ ก็ไป “โฟกัส” อยู่กับ บ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย เสียเกือบหมด หาก “รัฐบาลแพทองธาร” จะเดินหน้าต่อในเรื่องพรรค์นี้ โอกาสไปก่อนกำหนดมีสูง!…★★…คนที่หยิบเรื่องนี้มาขยายผลต่อ อย่าง “ไพศาล พืชมงคล” พูดได้อย่างน่าสนใจ? กับข้อมูลที่นำไปเชื่อมโยงถึง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ เพราะการจะนำเอา ธุรกิจใต้ดินผิดกฎหมายขึ้นมาไว้บนดิน นั้น มันส่อเค้าว่า…จะขัดกับกฎหมายที่ออกในสมัย คสช.หรือไม่? หากขัด! โอกาสที่รัฐบาลจะได้ไปต่อก็เหลือน้อยเต็มทน ดีไม่ดี…เรื่องที่ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” หรือ “นพรุจ วรชิตวุฒิกุล” อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 หรือ “สนธิญา สวัสดี” หรือ “บุคคลนิรนาม” แม้กระทั่ง เรื่องที่ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ยื่นสารพัดคำร้องไปแล้วนั้น…อาจไม่เท่าทัน กับปมขัด พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ ก็เป็นได้? ไม่รู้ว่าคนที่ดูแลเรื่องกฎหมายของรัฐบาล อย่าง “ชูศักดิ์ ศิรินิล” จะเท่าทันขนาดไหน? พลาดนิดเดียว…ตกม้าตายทั้งกระบิ!!! …★★…

เปลี่ยนตัวเล่น! นาทีนี้ คงไม่มีใครใจถึง? ได้เหมือนกับ “พิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ อีกแล้ว ล่าสุด ส่อเปิดศึกกับ “ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ – เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ทั้งปม…ค่าเงินบาทและดอกเบี้ย ที่แบงก์ชาติ…ไม่ยอมกดลงมาให้ต่ำสอดรับกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่แท้จริง จนส่งผลกระทบโดยตรงถึง…ภาคการส่งออกของนักธุรกิจรายใหญ่ของไทย เห็นว่า…เจ้าตัวเตรียมจะขอหารือกับ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ถึง 2 เรื่องข้างต้น บวกเพิ่มอีกหนึ่ง…คือ จะทำอย่างไรถึงจะ เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน ของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ กลุ่มเอสเอ็มอี ที่มีมากกว่า 3.3 ล้านราย ที่กำลังประสบปัญหาทั้งเรื่อง…สภาพคล่องและต้นทุนแพง จนแข่งขันในตลาดโลกไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่า…เวลาที่เหลืออีก 1 ปีนิดๆ ของ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ที่จะหมดวาระในตำแหน่ง “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” 1 ต.ค.2568 รวมเบ็ดเสร็จ 5 ปีนั้น เจ้าตัวจะ “ยี่หระ” กับท่าทีของฝ่ายการเมือง ผ่าน “ผู้เล่นหน้าใหม่” คนนี้หรือไม่?…★★…ข่าวนี้ ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่หากมองให้ลึกซึ้ง มันคือ “คนละเรื่องเดียวกัน” นายสันดาป ขอเล่าอย่างนี้…บนความสัมพันธ์อันดีระหว่าง “ปลอดประสพ สุรัสวดี” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” ถือว่า…ไม่ธรรมดา? แถมยังมีต่อกันมายาวนานและต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันนี้… “ปลอดประสพ สุรัสวดี” กลายเป็นคนดูแลเรื่อง “ถมทะเลสร้างเมืองใหม่ – สร้อยไข่มุก” กลางอ่าวไทย ให้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” ดังนั้น…จะแปลกอะไร? หากการ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการคลัง จะต้อง “เว้นว่าง” เก้าอี้สักตัว? ให้กับ ลูกชายของ “ปลอดประสพ สุรัสวดี” ที่จริงก็ต้องบอกว่า… “ปิ่นสาย สุรัสวดี” ว่าที่อธิบดีกรมสรรพากร ถือว่าถูก “ข้ามหัว” มาหลายหนแล้ว ที่สำคัญเขาเป็น คนเก่งและเป็นลูกหม้อ ของกรมสรรพากรมาก่อน ดังนั้น การมาของเขา…ภายใต้ “พันธสัญญา” ของผู้ใหญ่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด? แต่นั่น…ทำให้เกิดการขยับกันเป็น…ลูกโซ่! เมื่อ “กุลยา ตันติเตมิท” จำต้องขยับจาก…เก้าอี้ อธิบดีกรมสรรพากร ไปอยู่ กรมสรรพสามิต แล้วโยก “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” จาก กรมสรรพสามิต ไปนั่งเก้าอี้ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พ่วงตำแหน่ง “โฆษกคลัง” แทนที่ “พรชัย ฐีระเวช” ที่ย้ายไปกำกับดูแลงานของ กรมธนารักษ์ มัน เด่น! ตรงที่ “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” ไปเป็น ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นั่นแหละ…★★…ในมุม ข้าราชการกระทรวงการคลัง การโยกย้ายจาก อธิบดีกรมภาษี เป็น ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจคลัง ซึ่งเป็นงานเชิงวิชาการทางด้านเศรษฐกิจการคลังและเศรษฐกิจมหภาค ถือเป็นการ “ลดชั้น” แล้วเหตุใด ฝ่ายการเมืองจึง ดึงเอา “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” มานั่งตำแหน่งนี้ ลือกันว่า นั่นเพราะรัฐบาลเตรียมความพร้อมรองรับวันที่ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” จะอยู่ครบวาระ 5 ปี…ในตำแหน่ง “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” แล้วจะดันให้ “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” ลงแข่งขันแบบ ไร้คู่แข่งตัวจริ งในอีก 1 ปีข้างหน้า ประหนึ่งว่า…ต่อไป การทำงานของฝ่ายการเมือง กระทรวงการคลัง และแบงก์ชาติ จะได้เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย โดยไม่ดูด้วยซ้ำว่า…ความเป็นอิสระและเป็นเอกเทศของแบงก์ชาติ จะส่งผลดีหรือผลเสียต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจการเงิน การคลัง และเศรษฐกิจมหภาค มากน้อยแค่ไหนเพียงใด?…★★…เอาเป็นว่า…เรื่องนี้มีมูล แล้วก็ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ ก่อนหน้านี้…ก็เคยมีข่าวหลุดเรื่อง “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” ถูกทาบทามในยุค “รัฐบาลเศรษฐา” มาบ้างแล้ว ยังไง…หากมีความคืบหน้า นายสันดาป จะขอหยิบเอามาเล่าสู่กันฟังแล้วกัน.

นายสันดาป

Related Articles

Leave a Comment