“น้ำที่เทลงพื้นแล้ว…ยากที่จะเก็บกลับคืนได้” สุภาษิตจีนโบราณ ที่ “นายสันดาป” หยิบมาเขียนเป็น “คำคมสอนใจ” ในคอลัมน์ “คมข่าว” สำนักข่าว ACN Hot News ณ ห้วงก่อนสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน 2567 เพียงแค่จะบอกว่า…บางสิ่งบางอย่างที่มันได้ผ่านไปแล้ว ก็ยากที่จะย้อนกลับมาได้อีก สอดรับกับ สำนวนไทย ที่ว่า…“สายน้ำที่ไหลไปแล้ว ไม่อาจย้อนกลับได้” …★★…เห็นภาวะ “น้ำท่วม” ยามนี้ ไม่ว่าจะ เกิดมาจากสาเหตุใด? พายุลมโหมพัดกระหน่ำ ฟ้าฝนถล่มซัดสาดใส่ หรือแม้แต่ คลื่นทะเลหนุนนำ ช่วยดันน้ำท่วมเมือง ฯลฯ และ เกิดขึ้นกับบ้านเมืองไหน? ในประเทศไทย, เพื่อนบ้านย่านอาเซียน, หลายชาติในเอเชีย และหลายพื้นที่ทั่วโลก ล้วนเป็น ความทุกข์ยากของประชาชน และสัตว์เลี้ยง-สัตว์ป่าน้อยใหญ่ในพื้นที่ท่วมน้ำไม่ต่างกัน …สิ่งมีชีวิต และทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วนสัมพันธ์กับ “น้ำ” ไม่ว่าจะในภาวะ น้ำแล้ง (ขาดน้ำรุนแรง) น้ำท่วม (ปริมาณมากเกินพอดี) แม้กระทั่ง สถานการณ์ที่ คลื่นยักษ์ “สึนามิ” พัดถล่มแนวชายฝั่งแห่งใด มันก็คือ “น้ำ” ในสภาวะต่างๆ นั่นเอง…★★…หลายประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เมื่อหลายพันหลายหมื่นปี…ที่ต่างต้อง ล่มสลาย! เพราะสถานการณ์ “น้ำ” นั้น เรื่องราวทำนองนี้…มีให้ได้ยินได้เห็น ตามการ ถอดรหัส ของ นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ตัวอย่างที่หลายคนคงเคยได้ยินกันมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องราวของ “แอตแลนติส” อาณาจักรกลางมหาสมุทร ที่ว่ากันว่า…มีวิทยาการก้าวล้ำเกินกว่าอีกหลายๆ อาณาจักรร่วมประวัติศาสตร์ ก็ต้องมีอัน “ล่มสลาย!!!” เพียงเพราะได้รับพิษภัยจาก…มหาอุทกภัย “คลื่นยักษ์สึนามิ – ภัยน้ำท่วมขนาดยักษ์” พัดถล่มแบบฉับพลันทันที! จนแทบไม่หลงเหลือเรื่องราวให้คนรุ่นหลังได้ย้อนอดีตจากซากปรักหักพังใดๆ??? ในประเทศไทย…เราต่างก็ประสบปัญหาในเรื่อง “น้ำ” มาอย่างต่อเนื่องและเป็นเช่นนี้ทุกปี ไม่ว่าจะเป็น…น้ำแล้ง น้ำท่วม และถูก คลื่นยักษ์ “สึนามิ” ถาโถมถล่มใส่! จน…นาไร่เรือกสวน บ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้าง พังพินาศย่อยยับ! สิ่งนี้…ก็เคยมีให้ได้เห็นมาแล้วเมื่อปี 2547… ยุค “รัฐบาลทักษิณ 1” ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่ มนุษยชาติและรัฐบาลทั่วโลก…จะหันมาให้ความสนใจกับน้ำในสถานการณ์ต่างๆ อย่างจริงจัง…★★…“นายสันดาป” ขอใช้สภาวะนี้…เขียนบทความในแบบ “น้ำท่วมทุ่งฯ” ก็อย่าเพิ่งรำคาญ! ด้วยเพราะเคยหยิบเรื่อง “น้ำ” มาคุยและตักเตือนรัฐบาล ณ ขณะนั้น มาอย่างยาวนานต่อเนื่อง…นับสิบๆ ปี เปลี่ยนค่ายสื่อมาก็มาก กระทั่ง มาทำสื่อของตัวเอง? ก็ยังคงเวียนวนอยู่กับเรื่องของ “น้ำ” แล้วยังไม่รู้ว่า…จากนี้จนชีวิตหาไม่? ยังจะต้องเขียนถึงเรื่อง “น้ำ” ต่อไปอีกหรือเปล่า? ในจำนวนหลายนโยบายที่ “พ่อนายกรัฐมนตรี – ทักษิณ ชินวัตร” เคยฉายเอาไว้…คราวขึ้นเวที VISSION FOR THAILAND 2024 เมื่อ 22 สิงหาคม 2567 มีไม่กี่เรื่องจากหลายเรื่องที่เห็นว่า…เป็นเรื่องดีและเหมาะสมที่ “รัฐบาลลูกสาว – แพทองธาร ชินวัตร” น่าจะนำเอาไปขยายผล นั่นก็คือ…ถมทะเล สร้างเกาะ กั้นเขื่อน กันน้ำท่วมกรุงเทพฯและหลายพื้นที่รายรอบ กระทั่ง กลายเป็น “เกาะสร้อยไข่มุก” ตามนิยามที่ “ปลอดประสพ สุรัสวดี” ผู้รับผิดชอบโปรเจ็กต์นี้…เคยกล่าวถึง!…★★…
เป็นแค่ไม่กี่เรื่องที่ “นายสันดาป” พร้อมจะออกหน้า…คัดค้านการต่อต้านของ เครือข่ายเอ็นจีโอและฝ่ายคนเห็นต่าง นั่นเพราะ…ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง แม้กระทั่ง ท่วมลึกถึงกลางแผ่นดินไทย สิ่งนี้…มันก็ทำลายสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ จนไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว หากรัฐบาลไม่ว่าจะชุดไหนก็ตามที คิดจะสร้างถมทะเล สร้างเกาะ กั้นเขื่อน กันน้ำท่วมแผ่นดินไทย แล้ว เทียบน้ำหนักปอนด์ต่อปอนด์ “มันย่อมได้คุ้มเสีย” กว่าอย่างแน่นอน จะว่าไปแล้ว…ทุกวันนี้ ประเทศไทย ก็มีการถมทะเลสร้างแผ่นดินมากนับพันนับหมื่นไร่อยู่แล้ว ไม่เชื่อ…ก็ลองไปดู โครงการถมทะเลกินพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ ใน ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี…เพื่อสร้าง ท่าเรือแหลมฉลัง เฟส 3 (ส่วนที่ 1) ในการดำเนินงานของ กิจการร่วมค้า CNNC กับสัญญาสัมปทานจาก การท่าเรือแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ “ผอ.เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข” ดูประไร? …★★…หาก โครงการถมทะเลสร้างท่าเรือฯ ยังทำได้…โครงการถมทะเลสร้าง “เกาะสร้อยไข่มุก” ที่มี เป้าหมายและวัตถุประสงค์…ครอบคลุมในทุกปัญหาความเดือดร้อนระดับชาติมากกว่า!!! ก็ไม่ควรจะมีใคร คัดค้าน! หากจะ คัดค้าน…นั่นเพราะมีการตรวจพบการดำเนินโครงการของ “รัฐบาลแพทองธาร” ที่เป็นไปแบบ “ไม่ตรงไปตรงมา” อันนี้… “นายสันดาป” ก็พร้อมหนุนหลังสู้เต็มกำลังเช่นกัน ลองไปสำรวจความเห็นของ นักวิชาการด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงนักวิชาการทางด้านสังคม ในยามนี้ดูก็ได้ หลายคนที่เคยพูดถึงปัญหา “น้ำท่วมกรุงเทพฯและจังหวัดภาคกลาง” สามารถจะ ลดทอน ความเห็นต่างของเพื่อนนักวิชาการอีกหลายคน จนกลายเป็น “แนวร่วม” สนับสนุนแนวคิด “ป้องกันแผ่นดินไทยจากภัยน้ำท่วม” เพิ่มมากยิ่งๆ ขึ้น!!!…★★…อย่างว่า…หลายสิบปีมานี้ เมืองหลวงของประเทศไทย ได้ใช้เงินลงทุนเพื่อพัฒนาบ้านเมืองเป็นจำนวนมหาศาล นับ “ล้านล้านล้านบาท” ทั้งจาก การลงทุนของรัฐบาล ที่ใช้ “เงินภาษีของประชาชน” ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้ง…ถนน ทางด่วน รถไฟฟ้าบนดิน-ใต้ดิน สวนสาธารณะขนาดต่างๆ สิ่งปลูกสร้างในส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ ขนาดสูงต่ำเล็กใหญ่ ระบบโทรคมนาคมและการสื่อสาร ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ฯลฯ รวมถึง การลงทุนของภาคเอกชนไทยและนักลงทุนต่างชาติ ในการก่อสร้างอาคารสูง โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ไม่เว้นแม้กระทั่ง บ้านเรือนของประชาชนคนไทยอีกหลายล้านครอบครัว หากปล่อยให้ “กรุงเทพฯ และปริมณฑล – จมน้ำ” ย่อมถือเป็น…รัฐบาลที่ใช้ไม่ได้ ต้องขับไล่ให้พ้นไปจากแผ่นดินไทย ในทางกลับกัน…หากการลงทุนเป็นไปด้วย ความฉ้อฉล…ฉกเอาเงินภาษีของประชาชนไปเป็นเงินของตัวเอง และ/หรือ ของพรรคการเมืองต้นสังกัด ก็สมควรจะ ถูกขับไล่ไสส่งพ้นจากผืนแผ่นดินไทย เช่นกัน…★★…
หันสำรวจ กระแสข่าวด้านเศรษฐกิจการเมือง เรื่องผลประโยชน์ของคนไทยกันเสียหน่อย ดีเดย์! 25 ก.ย.นี้ “รัฐบาลแพทองธาร” นำโดย “นายกฯ อิ๊ง” และ ครม. พร้อมแล้วจะ “คิ๊กออฟ” เดินหน้าแจกเงินหมื่น นัดหมายสื่อประจำทำเนียบรัฐบาลไว้แล้ว สายๆ เจอกัน กระนั้น กลุ่มแรกที่จะได้รับสิทธิ์นี้ กลุ่มถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มคนพิการ 13.5 ล้านคน ได้โอกาสก่อนกลุ่มอื่นๆ แต่ก่อนจะรับเงินสดๆ โอนไปให้ ควรไปเช็คกันเสียหน่อยว่า “สิทธิ์” ยังอยู่กับตัวหรือเปล่า? เริ่ม เช็คสิทธิ์ได้ตั้งแต่ 24 ก.ย.นี้ ตามรายละเอียดนี้เลย สำหรับ 1.ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ … เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th หรือ https://govwelfare.cgd.go.th หรือ แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์…★★…2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช็คไปได้ที่…ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร 0 2109 2345 จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์และ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง ขณะที่ กลุ่มสุดท้าย 3. คนพิการ … เช็คจาก เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/checkหรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวง พม. หรือ Call Center กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โทร 0 2354 3388 ต่อ 701-702 หรือ ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์…★★…ใครที่รอลุ้น…สงครามนโยบายเศรษฐกิจ ว่าด้วย “ค่าเงินบาท – อัตราดอกเบี้ย” ระหว่าง รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ ที่ 2 ฝ่าย..ยังคงมองในคนละมุม? ก็คงได้ลุ้นกันต่อใน สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นรอยต่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเก้า ต่อเนื่องสัปดาห์แรกของเดือนสิบ หลังจากที่ “นายกฯ อิ๊ง” สั่งเอง! มอบหมายให้ “รองนายกฯ และ รมว.คลัง” พิชัย ชุณหวชิร ไปหารือร่วมกันทั้งในประเด็น ค่าเงินบาท กรอบอัตราเงินเฟ้อ ที่จะนำไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.5% ควรจะเหลือเท่าไหร่ดี? แต่ผลจะ “ออกหัวออกก้อย” อย่างไรนั้น? อีกไม่ถึง 7 วันคงได้รู้? ทว่า ปลายสัปดาห์ก่อน หลายคนคงได้ฟัง “ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ” เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ พูดกันไปแล้ว บนเวที BOT SYMPOSIUM 2024 ทำนอง…แบงก์ชาติไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยตามเฟด หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายรวดเดียว 0.5% ด้วยเหตุผลว่า…การจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย กนง. ภายใต้ร่มเงาของ แบงก์ชาติ จะพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก…★★… กล่าวคือ แนวโน้มเศรษฐกิจว่าเติบโตเข้าสู่ศักยภาพหรือไม่? เงินเฟ้อเข้ากรอบหรือไม่? และการเงินมีเสถียรภาพหรือไม่? เจ้าตัวพูดชัด! ไม่ว่าเฟดจะลดไม่ลดดอกเบี้ย แรงกดดันต่อแบงก์ชาติและ กนง. ก็มีรุนแรงอยู่แล้ว แต่จนถึงวันนี้…ยังไม่เห็นภาพอะไรที่ต่างไปจากเดิมที่ประเมินไว้! แปลความได้ชัดในตัวมันเอง… “นายสันดาป” มีโอกาสกระทบไหล่ “ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ” ในเย็นวันเดียวกัน แล้วก็บอกกับ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ไปด้วยว่า…แม้จะมีประสบการณ์ ทำข่าวสายเศรษฐกิจการคลัง มาตลอด แต่ยังคงชื่นชมใน “จุดยืน” ของ แบงก์ชาติยุคนี้ ยังไง…ก็ขอให้ทำหน้าที่ “บนจุดยืน” ที่เด่นชัด เช่นนี้ต่อไป เพื่อเป็น “เสาหลัก” ทางเศรษฐกิจ ให้กับประเทศไทยและคนไทย อย่าได้ทำตัวเสมือน “สนต้องลม” เช่นบางหน่วยงานที่ถูกกำกับดูแลโดย “อำนาจการเมือง” กันเลย…★★…
ทิ้งท้ายกับ เรื่องใหญ่ในทางการเมือง นั่นคือ การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ตามที่ พรรคประชาชน ได้ยื่นเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ขณะที่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ประกาศหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนั้น ถึงนาทีนี้…อาจได้เห็นอาการ…ชักเข้าชักออก แต่ไม่ชักเอง ให้ พรรคร่วมรัฐบาล อย่าง “ภูมิใจไทย” ช่วยชัก และชักไปพร้อมกับ “สภาสีน้ำเงิน” หรือ วุฒิสภา ที่เสียงส่วนใหญ่พูดตรงกัน! ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสถานการณ์นี้ ขนาด “รองฯ หนู – อนุทิน ชาญวีรกูล” เอง ยังให้สัมภาษณ์นักข่าว ทำนอง…นักการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะที่สังคมและนักร้องพร้อมจะเข้าตรวจสอบ หากไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร? หรือถ้าไม่อยากถูกตรวจสอบ ก็ควรออกไปจากการเมือง แล้วกลับไปทำธุรกิจหรือนอนเล่นอยู่กับบ้านเถอะ!…★★…เอาเข้าจริง! การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในยามที่ รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ยังไร้ผลงานที่จับต้องได้ แล้วจะมี “ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก” จากกองเชียร์คนไทย ให้ยืนหลังพิงฝาได้อย่างไรกัน? ดูท่าแล้ว…การเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตรา คง “จั่วลม!” กันไปก่อน รอให้ “รัฐบาลอิ๊ง” สร้างผลงานอีกสักระยะ แล้วอาจ “ยกยอด” ไปทำการแก้ไขฯอย่างเป็นทางการในยุคของ “รัฐบาลประชาชน” กันเลยกระมัง? เพราะผลการ ถอดบทเรียนในอดีต ทั้งจาก…รัฐบาลเพื่อไทย ยุค “ทักษิณ ชินวัตร” และ รัฐบาลเพื่อไทย ยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา มันเสี่ยงเกินไป! สู้…ปล่อยผ่านไปก่อน ด้วยการ…ยืมปาก พรรคภูมิใจไทย และ “สว.สีน้ำเงิน” ช่วยพูดเพื่อ “ปิดฉาก” การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยเรื่อง….จริยธรรม การยุบพรรค และขอบเขตอำนาจขององค์กรอิสระ น่าจะเซฟที่สุด!!!…แล้วพบกันใหม่ สัปดาห์หน้าแล้วกัน.
นายสันดาป