“ดีเอสไอ” สนธิกำลัง ป.ป.ง.-สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดปฏิบัติการ Black Horse Down (ล้มบัญชีม้าดำ) รวบสามีชาวไนจีเรีย-เมียคนไทย ตัวเป้งจัดหาบัญชีม้าส่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์-แก๊งค้ายาเสพติด จนท.เผยจับกุมผู้ต้องหาได้ 5-หลบหนี 1 พบเชื่อมโยงบัญชีม้ากว่าพันบัญชี มีเงินหมุนเวียนกว่า 1,200 ล้านบาท
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รักษาราชการแทนอธิบดี DSI แถลงปฏิบัติการ Black Horse Down “ล้มบัญชีม้าดำ” โดยวันนี้ (8 ต.ค.) ชุดปฏิบัติการคดีพิเศษ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำหมายจับเข้าจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ได้แก่ นายอิเกดิ ชาวไนจีเรีย, น.ส.อรอนงค์ สัญชาติไทย, นายวิโรจน์, น.ส.อารยา สัญชาติไทย, น.ส.กรรณิการ์ สัญชาติไทย โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่คอนโดย่านถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ
ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน พบเงินหมุนเวียนในเครือข่ายนี้มากกว่า 1,200 ล้านบาท เชื่อมโยงบัญชีม้ากว่า 1,000 บัญชี
พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นขบวนการใหญ่มีนายอิเกดิ และ น.ส.อรอนงค์ คู่สามีภรรยา เป็นหัวหน้าขบวนการ เป็นเอเย่นต์จัดหาบัญชีม้าจากทั่วประเทศ ส่งขายให้กับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมต่างๆ ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โรแมนซ์สแกม และขบวนการฟอกเงิน ผู้ค้ายาเสพติดในต่างประเทศ เช่น กัมพูชา ฮ่องกง เกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ ทั้งยังเชื่อมโยงกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติแอฟริกาตะวันตก ที่เคลื่อนไหวในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ผลการตรวจค้น 5 จุด ซึ่งเป็นที่พักของผู้ต้องหา พบสมุดบัญชีธนาคารที่ใช้เป็นบัญชีม้า จำนวน 40 เล่ม และพบว่ามีบัญชีเงินฝากของ น.ส.อรอนงค์ ผู้ต้องหาจำนวน 2 บัญชี ซึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่าสิบล้านบาท, โทรศัพท์เคลื่อนที่ 23 เครื่อง, ซิมการ์ดมือถือ 31 อัน, บัตร ATM ธนาคาร 20 ใบ, แท็บแล็ต 5 เครื่อง, รายการบัญชีธนาคาร Statement จำนวนมาก, เสื้อผ้าตรงตามภาพที่ปรากฏหน้าตู้ ATM (CCTV) ขณะกดถอนงิน, ซองกระดาษพัสดุน้ำตาลใส่ซิมการ์ด 14 อัน, กล่องไปรษณีย์ 5 กล่อง และบัญชีรายชื่อบัญชีม้าเป็นจำนวนมาก
นอกจากกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ยังมีผู้ร่วมขบวนการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป โดยเฉพาะการสืบสวนเส้นทางการเงินและติดตามยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของกลุ่มขบวนการดังกล่าว ซึ่งดีเอสไอขอเตือนผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า จะต้องรับโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อสาธารณะต่างๆ ทุกวัน จะปฏิเสธว่าไม่ทราบข่าวสารไม่ได้
ด้าน ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กล่าวว่า คดีนี้สอบขยายผลจากผู้เสียหายจากแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกให้หลงรักแล้วชวนลงทุน สูญเงินเป็นมากกว่า 50 ล้านบาท และพบข้อเท็จจริงว่าบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้เสียหาย เป็นบัญชีม้าที่เกิดจากการที่นายอิเกดิ และ น.ส.อรอนงค์ ที่ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์รายใหญ่จัดหาให้ โดยขายเป็นแพคเกจเริ่มตั้งแต่ 10,000 บาท มีบัญชีม้า ซิมการ์ด และเอทีเอ็ม พร้อมหากต้องการมือถือเครื่องใหม่เพื่อลงทะเบียนเปิดซิมผีก็มีบริการเสริม มีนายหน้าว่าจ้างหาคนมาเปิดบัญชีม้าและซิมผี กระจายในแต่ละจังหวัด โดยนายหน้าแต่ละคนมียอดส่งบัญชีม้าให้กับนายอิเกดิ และ น.ส.อรอนงค์ เฉลี่ยต่อคนประมาณเดือนละกว่า 100 บัญชี และจากการวิเคราะห์เส้นทางการเงิน เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ถูกหลอกลวงจากกลุ่มดังกล่าว
สำหรับการจับกุมเครือข่ายม้าดำในครั้งนี้ มีหมายจับด้วยกัน 8 หมาย, 2 ราย ต้องโทษอยู่ในเรือนจำแล้ว ส่วนอีก 6 หมาย เข้าจับกุมวันนี้ ได้ผู้ต้องหา 5 ราย อีก 1 รายเป็นคนไทยเดินทางไปต่างประเทศก่อนหน้านี้