“ไพบูลย์” เฉลยแล้วเหตึรัฐบาลล่มสลาย ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเอาผิด “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง ปัด พปชร.อยู่เบื้องหลัง “ธีรยุทธ” ชี้คำร้องครบถ้วน-มีน้ำหนัก แย้มไพ่เขย่าจันทร์ส่องหล้า ลั่นเด็ดกว่าคลิป เหตุมีพยานบุคคลอยู่ในเหตุการณ์
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสั่งการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า ทั้งหมดอยู่ที่ดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่ตัวนายธีรยุทธเองมีความมั่นใจมาก ส่วนที่ก่อนหน้านี้ตนออกมาระบุว่า วันที่ 10 ต.ค.จะเป็นจุดเริ่มต้นการล่มสลายของพรรคแกนนำรัฐบาลนั้น เนื่องจากนายธีรยุทธได้เล่าให้ฟังว่า ได้ไปยื่นอัยการสูงสุดในเรื่องนี้ตามมาตรา 49 มาเมื่อวันที่ 24 ก.ย.67 ตนจึงออกมาบอกต่อในที่ประชุมพรรคเพื่อเป็นการแจ้งข่าว ซึ่งวันนี้ชัดเจนแล้วหลังจากมีผู้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อย
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่นายธีรยุทธไปร้องครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรคไม่ได้อยู่เบื้องหลัง โดยนายธีรยุทธเป็นทนายอิสระ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไหน เขายื่นในฐานะประชาชน ย้ำว่า ที่ตนรู้ว่าเขาจะไปยื่น เพราะเรามีการพูดคุยกันตลอด เนื่องจากตนมีคดีส่วนตัวและคดีทั่วไปที่ให้เขาดูแลอยู่
เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า เท่าที่ดูคำร้องถือว่ามีน้ำหนักมากพอ ครบถ้วนสมบูรณ์ มีการดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายถูกต้อง มีการไปยื่นให้อัยการสูงสุดก่อน และเมื่ออัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการก็มายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนประเด็นที่เขาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณานั้น ส่วนตัวมองว่ามีความครบถ้วน มีข้อเท็จจริง มีหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รู้เรื่องนี้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า นายธีรยุทธไม่เคยเจอกับ พล.อ.ประวิตร แต่ พล.อ.ประวิตร จะรู้ก็จากที่ตนได้ให้สัมภาษณ์ทั่วไปหมด ซึ่งตนก็พูดไปตามเท่าที่ทราบว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรต่างๆ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้หลายคนรอว่า อาจจะมีคลิปบ้านจันทร์ส่องหล้า หรือคลิปชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ แต่สุดท้ายไม่มี นายไพบูลย์ กล่าวว่า ทราบมาว่าเขามีพยานบุคคลทั้ง 2 กรณี ทั้งบ้านจันทร์ส่องหล้าและชั้น 14 ซึ่งมีการเขียนไว้ในคำร้อง หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องก็คงมีการเชิญพยานบุคคลไปไต่สวน ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าคลิปที่ผิดกฎหมาย โดยพยานดังกล่าวเป็นผู้เห็นเหตุการณ์