Home Thailand ไฟเขียว!!! ‘พรก.อาชญากรรมไซเบอร์’ ฟันคุก กระทงละ 5 ปี ดึงเงินคืนเหยื่อไวขึ้น

ไฟเขียว!!! ‘พรก.อาชญากรรมไซเบอร์’ ฟันคุก กระทงละ 5 ปี ดึงเงินคืนเหยื่อไวขึ้น

by admin

ครม.เห็นชอบร่างแก้ไข พ.ร.ก.อาชญากรรมไซเบอร์ฯ บังคับ “แบงก์-เครือข่ายมือถือ” ร่วมรับผิดชอบเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ ชี้ดึงเงินคืนผู้เสียหายได้เร็วขึ้น ยันโทษสูงสุดปรับกระทงละ 5 ล้าน-จำคุก 5 ปี ต่างกรรมต่างวาระ เผยส่งกฤษฎีกาแล้ว คาดใช้เวลาไม่นาน

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการแก้ไขพระราชกำหนดการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีสาระสำคัญ 5 ประเด็น คือ

1. กำหนดความรับผิดชอบร่วมของสถาบันการเงิน เครือข่ายมือถือ และสื่อสังคมออนไลน์ โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

2. กำหนดหน้าที่ของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ต้องมีหน้าที่ระงับการใช้งานซิมการ์ดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทันที

3. การเร่งรัดกระบวนการคืนเงินให้ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นการเพิ่มหน้าที่ให้ธนาคารต้องส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัญชี ที่มีความเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้โดยเร็ว

4. เพิ่มอำนาจการดำเนินการกับแพลตฟอร์มโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยกำหนดให้แพลตฟอร์มต้องร่วมรับผิดชอบในการป้องกัน และตรวจสอบการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นในระบบของตน

และ 5. เพิ่มบทลงโทษสำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลจะต้องมีบทลงโทษที่เหมาะสม ซึ่งในกฎหมาบฉบับนี้มีการกำหนดโทษเพิ่มเติมสองลักษณะ คือ เปิดเผยแบบส่งต่อ และเปิดเผยแบบขายข้อมูล ซึ่งโทษจะหนักเบาต่างกัน โทษสูงสุดปรับ 5 ล้านบาทต่อหนึ่งกระทง ส่วนโทษจำคุก 5 ปี วัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ลดความเสียหายให้พี่น้องประชาชน

นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า การดึงเงินคืนให้ผู้เสียหายจากเดิมที่ใช้เวลาปีกว่าๆ จะเหลือ 6 เดือนหรือไม่เกิน 1 ปี หรืออาจจะคืนได้ทันทีในการดึงเงินคืนกลับมาให้ผู้เสียหาย โดยเฉพาะหากผู้เสียหายยืนยันข้อมูลได้ตรงกับบัญชีก็จะคืนได้ทันที จากเดิมที่ต้องผ่านกระบวนการศาล และมีการฟ้องร้องเสียก่อน

เมื่อถามว่า จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ นายประเสริฐ กล่าวว่า กฤษฎีกาขอดูรายละเอียดอีกเล็กน้อย โดยวันนี้ ครม.ผ่านความเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

Related Articles

Leave a Comment