ใช้งบกลางชดเชยรถเมล์-รถไฟฟ้าฟรี ไม่มีถกใน ครม.วันนี้!! แต่ “สุริยะ” อ้างถูกหั่นงบกลางเหลือ 185 ล้านบาท จ่ายเฉพาะบีทีเอส-ขสมก. จากเดิมขอ 329 ล้าน โยน รฟม.แบกเองเพราะมีรายได้
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงคมนาคมได้ของบกลาง 329 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประกอบการจากมาตรการรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรีนั้น ในส่วนของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้ 133.84 ล้านบาท และจ่ายชดเชยให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 51.7 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนงบกลางทั้งสิ้น 185.54 ล้านบาท
ส่วนเงินชดเชยที่จะจ่ายให้กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เดิมทีคาดว่าจะใช้งบกลางมาจ่ายชดเชย จำนวน 144 ล้านบาท แต่ถูกมองว่า รฟม.มีรายได้เป็นของตัวเอง ก็ให้ใช้งบประมาณของ รฟม.เอง ซึ่งสาเหตุที่ต้องตัดงบประมาณตรงนี้ออก เพราะรัฐบาลต้องการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ หากหน่วยงานไหนที่มีรายได้เป็นของตัวเอง และมีเพียงพอก็ให้ใช้รายได้ของตัวเองไปก่อน ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ให้ รฟม.รับภาระไป
ขณะเดียวกัน เรื่องของจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นมาเฉลี่ย 5 แสนคน ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงคมนาคมจะไปต่อรองกับผู้ประกอบการว่าจะไม่ชดเชยให้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับผู้ประกอบการแล้ว และผู้ประกอบการก็รับในหลักการดังกล่าว
เมื่อถามว่า ทางบีทีเอสต้องการวางบิลที่ 200 ล้านบาทนั้น จะจ่ายให้แค่ 133 ล้านบาท นายสุริยะ กล่าวว่า คิดว่า บีทีเอสคงจะคิดตามข้อเท็จจริง ที่ว่ามีผู้ใช้บริการเท่าใดก็จะเก็บเงินเท่านั้น แต่รัฐบาลจะจ่ายชดเชยตามตัวเลขที่เปิดให้บริการฟรี 7 วัน ซึ่งในหลักการเชื่อว่าไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันนี้ ครม.ยังไม่มีการพิจารณางบกลางเพื่อชดเชยผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และ ขสมก.แต่อย่างใด โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงเพียงสั้นๆ ถึงมาตรการให้ประชาชนสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะและขึ้นรถไฟฟ้า BTS ฟรี ว่า มาตรการดังกล่าวมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนเพิ่มขึ้น และมีผลสำรวจออกมาว่าปริมาณจำนวนรถยนต์บนท้องถนนมีอัตราลดลงถึง 500,000 คัน/วัน
นอกจากนี้ มติ ครม.ยังได้อนุมัติงบกลางในปี 2568 ภายใต้มาตรการรับบริการไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง วงเงินรวมทั้งสิ้น 620 ล้านบาท ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ซึ่งเป็นการเร่งแก้ไขปัญหาและรับมือในการป้องกันสถานการณ์ของไฟป่า รวมถึงปัญหาฝุ่นละอองและควันในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่อย่างใด