Home Thailand ประเดิม ‘นายกฯ อิ๊ง’ จ้อผ่านจอ!! ชู 8 ผลงานเด่น แจกเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่

ประเดิม ‘นายกฯ อิ๊ง’ จ้อผ่านจอ!! ชู 8 ผลงานเด่น แจกเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่

by admin

ประเดิมจัดรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” เล่าทุกเรื่องแบบเอ็กซ์คลูซีฟ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” ยอมรับโดนว่ารู้สึกเสียใจ แต่จมไม่ได้เพราะงานรออยู่เยอะมาก พร้อมชู 8 ผลงานเด่น แจกเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ เผยคืบหน้า 30 บาท รักษาทุกที่-ทุนเรียนภาคฤดูร้อน-บ้านเพื่อคนไทย-สมรสเท่าเทียม-กม.ไซเบอร์-ประชุม WEF ชี้ยกระดับปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องของอาเซียน ยันรัฐบาลลุยแก้จริงจัง

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” #EmpoweringThais ซึ่งออกอากาศเป็นเทปแรก ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT HD2 และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ

โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอเล่าให้ฟังแบบสบายๆ ว่าทำไมจึงจัดทำรายการนี้ขึ้นมา และทำไมอยากให้ประชาชนได้ฟังจากตัวดิฉันเอง รายการนี้คิดกับทีมงาน ต้องการให้เป็นรายการที่พิเศษสำหรับประชาชน ในรูปแบบที่ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน ไม่เคยให้สัมภาษณ์แบบนี้​ ถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟมากๆ ทั้งเรื่องการทำงานของรัฐบาลและตัวนายกฯ เอง โดยนำเบื้องหลังมาเล่าให้ฟังว่าได้พบเจออะไรมาบ้าง ได้พูดอธิบายที่มาที่ไปของนโยบายและขั้นตอน แต่ละนโยบายว่าไปถึงไหนแล้ว

นายกรัฐมนตรี เล่าถึงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ครอบคลุมทั่วประเทศไทย 77 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 ซึ่งรู้สึกดีใจมากที่ประชาชนไม่ต้องต่อคิวรอตั้งแต่ 05.00 น. เพื่อเข้ารักษาเพียง 15 นาที เสียเวลา 1 วันเต็ม ซึ่งผลตอบรับกลับมาดีมาก หากมีระบบตรงไหนไม่ตอบสนอง สามารถแจ้งมายังรัฐบาลได้

ส่วนนโยบาย ODOS (โอดอส) “1 อำเภอ 1 ทุน” ถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก อยากให้น้องๆ ในทุกที่ ได้มีโอกาสได้เรียน เพื่อนำไปสู่การขยายและ Kick Off นโยบายการศึกษาภาคฤดูร้อน หรือโครงการ “1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์” เปิดโอกาสให้เด็กไทยที่ไม่ได้เรียนเก่งระดับท็อป ได้ไปต่างประเทศ อาจจะไม่ได้เห็นผลภายใน 1 ปี แต่จะเห็นผลแน่นอนในอนาคต ถ้าเราไม่คิด ในอนาคตภายใน 10 ปี, 20 ปีมันจะไม่ทัน

นายกฯ ยังเล่าถึงการเปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก โดยอยากให้คนที่มีศักยภาพในการทำงานมีกำลังใจ มีที่อยู่ และมีความภูมิใจที่มีบ้านของตัวเอง จากการทำงานมีเงินเดือน ออกไปทำงานอย่างสดชื่น รัฐบาลมีคนมีศักยภาพมากขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น แข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ โครงการนี้ตอบโจทย์ปัจจัย 4 และเป็นแรงบันดาลใจ ผลักดันให้คนสู้งานต่อ อยากทำงานเก็บเงินซื้อในสิ่งที่ตัวเองฝันไว้

อีกเรื่องคือ การบังคับใช้กฎหมาย “สมรสเท่าเทียมทั่วประเทศ” เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนดีใจมาก ทุกฝ่ายของการเมือง​ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน​ ​สว. เห็นตรงกัน ว่าเป็นการสร้างโอกาสสร้างความเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก รัฐบาลสามารถใช้กฎหมายดูแลทุกคนได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ทุกแรงที่ต่อสู้ ผลักดันมา 20 ปี ถ้าไม่ใช้ทุกแรงก็ไม่สำเร็จ จึงเป็นความภูมิใจของทุกคน

การเข้าร่วมประชุม World Economic Forum 2025 หรือ WEF ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ทำให้รู้ว่าการมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สามารถดึงความสนใจของคนได้ มีโอกาสตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยมีรัฐมนตรีหลายคนร่วมประชุมและขอคุยด้วย และมีผลที่ดี หาเงินเข้าประเทศได้มาก โดยประสบความสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป ดังนั้นปีหน้าจะไปอีกแน่นอน เพื่อให้เห็นเทรนด์ของโลกว่าทำอะไรกันบ้าง จะเอารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปด้วย โดยจะมีการเตรียมการล่วงหน้าในแต่ละกระทรวงที่มีนโยบายเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ผู้ร่วมประชุมยังได้ชิมอาหารไทย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

การติดตามและแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ใช้มาตรการลดฝุ่น เช่น เพิ่มมูลค่าใบอ้อย, ลดการเผา, ให้ใช้รถไฟฟ้าฟรี 7 วัน ลดจำนวนรถยนต์ 5 แสนคันต่อวัน ทำให้ฝุ่นลดน้อยลง​ด้วย ทั้งนี้ยกระดับปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องของอาเซียน โดยรัฐมนตรีต่างประเทศได้คุยกับทุกประเทศในอาเซียน รวมทั้งตนได้คุยกับผู้นำประเทศด้วย

แจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3 ล้านคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ยืนยันว่าเฟส 3 มาแน่ แต่รอคลังแถลงรายละเอียด

คณะรัฐมนตรีผ่านร่าง พ.ร.ก.อาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งเป็นเรื่องจริงจังมากที่ประเทศอาเซียนให้ความสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ บางคนร้องไห้ถึงขั้นจบชีวิต เพราะเก็บเงินมาทั้งชีวิตแล้วเหลือศูนย์ จึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องออกเป็น พ.ร.ก. รีบบังคับใช้ เพื่อทำให้ธนาคารและเจ้าของกิจการมือถือมีส่วนรับผิดชอบ และตัดวงจรนี้ให้เด็ดขาดจริงๆ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกำลังใจในทุกๆ วันนี้ว่า หากโดนต่อว่า เสียใจและรู้สึกอย่างแน่นอน แต่จมไม่ได้ เพราะงานรออยู่เยอะมาก

“โดนว่านาทีนี้​ นาทีหน้าต้องไปประชุมแล้ว จึงพยายามมองว่า หัวข้อไหนที่ถูกต่อว่า เช่น ประชาชนไม่พอใจเรื่องการจัดการบางเรื่อง ก็กลับมาเรียกประชุม จัดการแต่ละกระทรวง แต่หากเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เช่น ถูกบูลลี่มาตลอดเรื่องการแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม ก็ไม่ได้คิดอะไร หากนโยบายต่างๆ ทำสำเร็จ ความภูมิใจในความสำเร็จ ของดิฉันคือประชาชน ที่มีความสุขมากกับนโยบายที่ได้ไปชีวิตที่ดีขึ้น จากสิ่งที่นโยบายสำเร็จ และขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณนายกฯ ได้เงินหมื่นต่อยอดขายของได้เยอะขึ้น หมดเกลี้ยง มีแต่คนมาจับจ่ายใช้สอย​ คนซื้อดีใจคนขายก็ดีใจ หรือขอบคุณมาก 30 บาทเปลี่ยนชีวิต มันเติมเต็ม และรู้สึกว่า ฉันก็จะแต่งตัวแบบนี้แหละไปทำงานแบบนี้ให้ประชาชนมีความสุข เพราะเป็นฉันก็อย่างนั้นล่ะ” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ช่วงท้ายรายการ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หวังว่าประชาชนจะได้ยินได้ฟังอะไรที่เป็นความรู้ หรือสนุกสนาน จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เดือนหน้าเจอกันใหม่ จะได้เข้าใจ ส่งใจถึงใจกันมากขึ้น ว่าใจนายกรัฐมนตรีจริงๆ คิดอะไรให้กับประชาชนบ้าง อยากเล่าอะไรให้ประชาชนบ้าง และขอฝากติดตามนักจัดรายการมือใหม่ด้วย

Related Articles

Leave a Comment