“ทักษิณ” เบิร์ธเดย์ “สุวัจน์” ครบ 70 ปี แย้มอีก 2 วันเคาะ! “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” แจงสเปคต้องมีความสัมพันธ์-มีความพร้อมเสียสละ โยนถาม “ขุนคลัง” ชูใครเป็นแคนดิเดท ส่วนข่าวลือปรับ ครม. อดีตนายกฯ ชี้ยังไม่ถึงเวลาปรับ ปัดคุย “อุ๊งอิ๊ง” ดึงธรรมนัสนั่งรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่บ้านราชวิถี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เปิดบ้านรับคำอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 70 ปี บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลในวงการเมือง เดินทางมาร่วมงานอย่างเนืองแน่น โดยนายทักษิณเดินทางมาด้วยรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ทะเทียน ภภ 2492 สีน้ำตาลเลือดหมู กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์คันใหม่ เลขทะเบียนรถตรงกับ พ.ศ.เกิดของนายทักษิณ โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา พร้อมครอบครัวมาให้การต้อนรับ ซึ่งนายทักษิณได้มอบของขวัญวันเกิดให้กับนายสุวัจน์เองกับมือ
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้มอบอะไรให้ นายทักษิณ ตอบกลับว่า “มอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เพราะท่านมีทุกอย่างแล้ว”
จากนั้น นายทักษิณได้หยุดทักทายสื่อมวลชน และพูดขึ้นว่า “เห็นบอกว่ามีจดหมายเปิดผนึก” ต่อมาได้พูดคุยกับนายสุวัจน์ช่วงหนึ่งว่า ยินดีกับนายสุวัจน์ที่มีหลาน เป็นคุณตาแล้ว ช่วยเพิ่มประชากร
ขณะที่ นายสุวัจน์บอกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 ที่นายทักษิณมาอวยพรก็มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และทุกครั้งที่นายทักษิณมาอวยพรวันเกิดที่บ้านของตน จะมีการปรับ ครม.ทุกที ทำให้นายทักษิณ ถึงกับหัวเราะและบอกว่า “อย่าเป็นประเด็น”
นายทักษิณ ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกรณีเรื่องการปรับ ครม. โดยกล่าวว่า ตนและนายกฯ คุยกันเป็นประจำ ทราบว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะทุกคนยังทำงานกันได้ด้วยดี มีติดขัดเล็กน้อย แต่ยังเตือนกัน ยังไปได้ด้วยกันโดยไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้มีการปรับ ครม. นายกฯ จะต้องมีการพิจารณาหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลของแต่ละคน แต่ละพรรคที่ต้องการปรับ ขอให้ดูจังหวะ จะต้องปรับด้วยกัน ไม่ใช่ปรับแค่คนหรือสองคน นอกจากจะมีตำแหน่งว่าง หรือลาออกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากไม่ใช่เงื่อนไขนี้ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็จะไม่มีการปรับ
กรณีที่มีข่าวว่า พรรคกล้าธรรมต้องการเปลี่ยนให้ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค มาแทนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายทักษิณ กล่าวว่า คงยังไม่มี เพราะนางนฤมล และ ร.อ.ธรรมนัส ก็ปรึกษากันอยู่ตลอด
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส มีความเหมาะสมที่จะเข้ามาช่วยงานรัฐบาลในตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากนายกฯ ต้องการที่จะปรับ ครม. ต้องมีปรึกษานายทักษิณก่อนหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไร ก็พูดคุยกัน แต่อำนาจทั้งหมดเป็นของนายกฯ
ต่อมา นายทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม คัดค้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ตนยังไม่เห็นเนื้อหาที่ชัดเจน แต่รู้สึกว่าจะมีการตำหนิผู้นำ เท่าที่ตนได้สอบถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในเรื่องการตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ อีก 2 วันก็คงจะลงตัว
เมื่อถามว่า เป็นไปตามที่เป็นข่าวหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องการตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติก็เป็นกลไกที่จะต้องให้แบงค์ชาติ และรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเสนอและให้คณะกรรมการสรรหาไปเลือก
ถามต่อว่า คุณสมบัติของประธานบอร์ดของแบงก์ชาติที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า การเป็นประธานต้องมีความสัมพันธ์และมีความรู้ ซึ่งยังไม่ทราบเหมือนกันว่าทาง รมว.คลัง จะเสนอใคร
เมื่อถามย้ำว่า ในใจมองว่าใครที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้พูดตรงๆ ผู้คนที่จะมาทำงานให้กับประเทศโดยส่วนรวมหายาก เพราะว่า 1.ต้องมีความพร้อม 2.ต้องมีความเสียสละ บางคนอาจจะพร้อมแต่ไม่เสียสละ บางคนอยากเสียสละแต่ไม่พร้อม มาช่วยกันทำงานให้บ้านเมืองค่อนข้างยาก อาจจะเป็นเพราะตนแก่ไปแล้ว ไม่รู้จักคน เพราะหายไป 17 ปี ขาดการต่อเนื่องในการรู้จักคน อาจจะมองไม่ค่อยออก แต่ก็ช่วยกันมองอยู่