“ดีเจเคนโด้” ยื่นหนังสือร้องเรียนสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่นฯ ถูกนักวิชาการดังใช้สื่อเป็นเครื่องมือปล่อยข่าวปลอม วอนสื่อทบทวนบทบาท จี้ อว.ล้างมาเฟียในสถาบันอุดมศึกษา ด้านนายกสมาคมสื่อต้านโกง! รับปากปกป้องสื่อ แนะต้องตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวทั้ง “นักการเมือง-นักวิชาการ” ให้รอบด้านก่อนนำเสนอ เล็งแถลงการณ์ป้องสื่อตกเป็นเครื่องมือเฟคนิวส์
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ “เคนโด้” เจ้าของเพจเคนโด้ช่วยด้วย เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนที่ สมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และขอให้มีการทบทวนการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน หลังจากเมื่อเดือนตุลาคม 2567 รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ “อาจารย์อ๊อด” ได้ออกมาแถลงข่าวกล่าวหาเรื่อง “ดีเจมิจในมิตร” ว่านายเกียงไกรมาศ เป็นบิดาแชร์ลูกโซ่และเกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนกรุ๊ปที่กำลังถูกออกหมายจับ จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
พร้อมโชว์ภาพคาดตาบุคคล ซึ่งผู้รับข่าวสารต่างเข้าใจได้ว่า คือ “นายเคนโด้” เห็นได้จากการแสดงความคิดเห็นในคลิปข่าวต่างๆ ที่สื่อมวลชนทุกแขนงหลงเชื่อ และได้มีการนำเสนอออกสู่สาธารณะ รวมทั้งสิ้น 33 สื่อ และมียอดเข้าชมรวมกว่า 100 ล้านครั้ง แต่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข่าวปลอม หรือเฟคนิวส์ ที่ผ่านมานาน 4-5 เดือนแล้ว ก็ไม่ได้ปรากฏข้อเท็จจริงตามที่ อ.อ๊อด กล่าวหา และนายเคนโด้ไม่ได้ถูกออกหมายจับแต่อย่างใด
นายเกรียงไกรมาศ กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูลของสื่อมวลชนที่หลงเชื่อข่าวปลอม ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อนนำเสนอ ได้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง และทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง จึงอยากขอให้สื่อมวลชนทุกสำนัก ออกมายอมรับว่าได้กระทำผิด และคืนความเป็นธรรมด้วยการนำเสนอข่าวใหม่ที่ถูกต้อง รวมถึงควรหยุดให้ความสำคัญกับบุคคลที่อาศัยตำแหน่งทางวิชาการมาหากิน หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อในการนำเสนอข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์อีกต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ “เคนโด้” บอกว่าเขาได้เดินทางไปร้องเรียน รมว.กระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ให้ตั้งคณะกรรมการสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ “อาจารย์คนดัง” โดยมีนายศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงฯ เป็นตัวแทนรับหนังสือ
“เคนโด้” เห็นว่าพฤติกรรมของคนเป็นครูบาอาจารย์ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ เยาวชนของชาติได้ แต่นี้กลับออกมายอมรับว่าเจ้าตัวมีคดีฟ้องร้องกันมากมายนับสิบคดีด้วยกัน จึงขอเรียกร้องให้ อว.ตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากรัฐมนตรี อว. ก็มีนโยบายชัดเจนในการปราบมาเฟียในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งไม่ได้มีแต่นักศึกษาเป็นมาเฟีย แต่มีบุคลากรที่ อว.กำกับดูแลอยู่มีพฤติกรรมเป็นมาเฟียเช่นกัน
ทั้งนี้ ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้รับหนังสือร้องเรียนและรับปากว่าจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้สื่อตกเป็นเครื่องมือข่าวปลอม แหล่งข่าวไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือนักวิชาการถ้าเรารู้ไม่เท่าทันก็จะนำไปสู่ความเสียหายได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน สมาคมฯ พร้อมปกป้องสื่อมวลชนที่ได้รับผลกระทบ กรณีของเคนโด้ถือเป็นกรณีศึกษาที่จะต้องหามาตรการป้องกันเพื่อให้สื่อตกเป็นเครื่องมือข่าวปลอม ซึ่งสมาคมฯ จะออกแถลงการณ์ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
