“ปาย” เมืองสงบแต่ไม่สงบอีกต่อไป!! กระแสต่อต้านชาวอิสราเอลในอำเภอปายแม่ฮ่องสอน ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวีรเวร-วีรกรรมของนักท่องเที่ยว “เกรด-เดน” ซึ่งทำตัวไม่เหมาะสม ส่งผลให้ร้านค้าที่ปายเริ่มขึ้นป้าย “No Israel Here” ล่าสุด “เสี่ยหนู” รายงานนายกฯ “ป่วนปาย” เป็นเฟคนิวส์ ด้านผู้ประกอบการโวยกลางวงประชุมฝ่ายปกครอง-ทหาร-ตำรวจ ชี้ปัญหาหนักขึ้นทุกวัน แฉ จนท.รัฐสั่งให้ปิดปาก หวั่นกระทบท่องเที่ยว
ล่าสุด พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขีดเส้น 7 วัน สั่งให้สอบเข้มพฤติกรรมชาวอิสราเอลในปายแล้ว หลังจากมีการร้องเรียน เกี่ยวกับการรวมกลุ่มที่อาจสร้างความเดือดร้อนหรือแย่งงานคนในพื้นที่
ทั้งนี้ ปัญหานักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในปาย กำลังหนักขึ้นทุกวัน หมอบอกห้ามสูบกัญชาในโรงพยาบาล ก็โวยวาย มาอาศัย มาทำธุรกิจ มาเป็นนายทุน เมื่อร้องเรียนไปยังหน่วยงาน ก็เรียนถูกหาว่าจะทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวในปาย มีหลายกลุ่ม เข้ามาแบบแบ๊คแพ็ก มาเที่ยวจริงๆ ยอมรับได้ แต่ตอนนี้พบว่านักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลในหลายพื้นที่ กำลังสร้างปัญหาเช่น ถนนข้าวสาร เกาะพะงัน และที่ “ปาย” ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่พฤติกรรมไม่เหมาะสมจำนวนมาก และยังมีในคราบของนายทุน เอาเปรียบคนท้องถิ่น หากรัฐไม่รู้เท่าทันปัญหาจะยิ่งรุมเร้า
“เสียงดังจากงานปาร์ตี้ ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง บางแห่งจัดจนถึงรุ่งเช้า ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงนอนไม่หลับ และเกิดความเครียด” เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการในปาย “ธีระพัฒน์ วิทยพันธ์” บอกเล่าผ่านวงประชุมที่มี “พลตรี วิเศษเวโรจน์ วิเศษศรี” นายทหารฝ่ายเสนาธิการ กองทัพบก, พันเอก ภูมิรัชน์ ดุษฎี รอง ผอ.รมน.แม่ฮ่องสอน, นายณพล พาหุมันโต นายอำเภอปาย ตัวแทนด้านการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการกว่า 100 คน
ไม่ต่างกับข้อกังวลของ “นันทวัน ไชยประสิทธิ์” ที่ระบุว่า พบการสูบกัญชาของนักท่องเที่ยวในถนนคนเดิน ทำให้กระทบกับลูกจ้างในร้านเวียนหัวและทำงานไม่ได้
“อยากให้จัดระเบียบการจราจร เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไม่ค่อยรู้กฎจราจรของคนไทย นึกอยากจะจอดกลางถนนก็จอดทำให้กีดขวางทางจราจร เนื่องจากถนนแคบอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ หากไล่เลียงถึงพฤติกรรมของชาวอิสราเอลใน อ.ปาย ถูกร้องเรียนผ่านโซเชียล จนนำไปสู่การแก้ปัญหาบนโต๊ะของหน่วยราชการในพื้นที่ ร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ผู้ประกอบการ และชาวบ้านที่เดือดร้อน ซึ่งมีถึง 11 ประเด็น และมีข้อสรุปที่จะให้เห็นผลภายใน 30 วัน ได้แก่
- กิจกรรมล่องห่วงยาง
- สถานบริการผับ บาร์ สร้างความเดือดร้อนด้านเสียง
- บริการรถเช่า
- การจัดกิจกรรมปาร์ตี้ อีเวนต์
- การบริการแท็กซี่
- นักท่องเที่ยวแย่งงานคนไทย
- การจัดระเบียบรถเข้า-ออก บริเวณที่จัดถนนคนเดิน
- การใช้ที่ดินสาธารณะหาผลประโยชน์
- โบสถ์ยิว หลังโรงพักปาย
- การกระทำผิดกฎหมายจราจรของนักท่องเที่ยว
- การจำหน่ายกัญชา และการสูบ ของนักท่องเที่ยว
โดยเฉพาะประเด็นที่ชาวปาย หยิบยกขึ้นมาขอให้เจ้าหน้าที่รัฐ เร่งแก้ปัญหาเร่งด่วนคือ เรื่องโบสถ์ยิวที่อยู่หลังโรงพักปาย ที่ถูกระบุว่าเป็นสถานที่ชาวยิว มารวมตัวกันทำกิจกรรม และส่งเสียงดังรบกวน
แม้ว่าการลงพื้นที่ของฝ่ายปกครองอำเภอปาย ตำรวจ สภ.ปาย ตรวจสอบโบสถ์ยิวดังกล่าว จะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นแหล่งมั่วสุมหรือจัดปาร์ตี้หรือไม่ แต่มีข้อมูลพบว่า “พิธีกรรมในโบสถ์ของชาวอิสราเอล จะเริ่มตั้งแต่เช้าวันศุกร์ไปจนถึงค่ำของวันเสาร์ มีการสวดมนต์ รับประทานอาหารของชนอิสราเอล ซึ่งในการสวดมนต์ จะมีการเล่นกีตาร์คลอไปด้วย”
ส่วนสาเหตุที่ใน 4 เดือนนี้ มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล พากันเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนใน อ.ปาย เพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากค่าครองชีพที่ถูกกว่าแหล่งท่องเที่ยวทางภาคใต้ของไทย และสงบเงียบ
ด้าน พันตำรวจโท วิชัย ปันนา สารวัตรตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่ฮ่องสอน ระบุถึงคดีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 4 คน ที่เล่นดนตรีในร้าน jazz house ถูกควบคุมตัวไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แม่ฮ่องสอน เพื่อรอการส่งกลับประเทศ คือนายไบรอัน เฮนรี่ มาโลวานี่ เจ้าของร้านชาวไอริส ไม่ได้ขออนุญาตทำงานในไทย, นายยิเชย์ เอ็ทชั่น ชาวอิสราเอล, นายมาธิอุส เมสควีต้า พาสควาลิ ชาวบราซิล และนายเชย์ ดาวิด เดริ ชาวอิสราเอล
กรณีการจับกุมดังกล่าว กลายเป็นข่าวที่หลายคนจับตามอง โดยเฉพาะผู้ต้องหา 2 ใน 4 คน เป็นชาวอิสราเอล ซึ่งก่อนหน้านี้ ตม.เคยการผลักดันชาวอิสราเอล จำนวน 4 คนออกนอกประเทศ เนื่องจากเข้าไปปั่นป่วนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะแพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลปาย ทำให้เกิดกระแสเกลียดต่อต้านอิสราเอล และลุกลามไปถึงเรื่องโบสถ์ยิว ที่อยู่หลังโรงพักปาย
ทั้งนี้ มีกระแสข่าวสะพัดว่า “ชาวอิสราเอลตั้งถิ่นฐานในไทย” โดยเพจ World Update โพสต์ว่า “สื่ออิสราเอล รายงานว่ามีชาวยิวอิสราเอล ที่หยุดพักการสู้รบสงครามกับเขตกาซา ปาเลสไตน์ และกับเลบานอน กว่า 30,000 คน มุ่งหน้าย้ายมาตั้งถิ่นฐาน ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ของไทย โดยสมาคมยิว Chabad ที่แผ่อิทธิพลทั่วโลก ให้การสนับสนุน”
มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น โบสถ์ Chabad of Pai ที่ห้ามคนไทยเข้าไปเด็ดขาด อนุญาตเฉพาะชาวยิว เข้าไปประกอบพิธีสวดทางศาสนา ที่ส่งเสียงดังรบกวนวิถีชีวิตชาวไทย และมีการเปิดธุรกิจหลายอย่าง เพื่อรองรับสังคมขยายชาวยิว เช่น ร้านอาหาร รีสอร์ท ร้านตัดผม
สารพัดอาชีพสงวนของชาวไทย เพื่อรองรับชาวยิวโดยเฉพาะ มีชาวยิวอิสราเอล ลงทะเบียนใน อ.ปาย 31,735 คน เข้าๆ ออกๆ แต่ตั้งถิ่นฐานอยู่ยาวประมาณ 3,000 คน ขณะที่ชาวไทยใน อ.ปาย คนพื้นที่มีประมาณ 21,000 คน
โดยระบุว่า ลัทธิ Chabad มีอิทธิพลอย่างมาก พวกเขายึดครองนครนิวยอร์ก และตำรวจสหรัฐฯ พบว่าคนกลุ่มนิ้ขุดอุโมงค์ใต้ดินลึกลับ เชื่อมระหว่างตึก กระทำพิธีบางอย่าง ทั้งนี้ ยังพบว่าเว็บไซต์ Chabad ในไทย ประกาศเชิญชวนชาวยิว ย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน อ้างว่าสงบสุขและสวยงามกว่าอิสราเอล
รายานข่าวแจ้งว่า ได้มีการตั้ง Chabad of Pai ตั้งอยู่บริเวณถนนรังสิยานนท์ ซอย 2 หมู่ 4 ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย ด้านหลัง สภ.ปาย โดยชาวอิสราเอลทำกิจกรรมทางศาสนาทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ปัจจุบันเหลือกิจกรรมสำคัญเฉพาะวันศุกร์และเสาร์
สำหรับไทม์ไลน์ ที่ระบุถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของชาวอิสราเอลนั้น พอจะสรุปได้ว่า ช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก “หมอบ่น AggressiveDoctor” โพสต์เรื่องราวของคุณหมอท่านหนึ่งในโรงพยาบาล อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ในพื้นที่ดังกล่าว เป็นจังหวัดชายแดนที่มีฝรั่งอิสราเอลมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยในทุก ๆ วันที่ได้ตรวจ จะได้เจอปัญหาซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็น ชี้หน้าด่าหมอ วุ่นวาย โชว์นิ้วกลางใส่หมอ ไม่เชื่อหมอประเทศไทยแต่มาตรวจ (ส่วนมากจะมานอกเวลาราชการ) แล้วบอกจะถามหมอตัวเองว่าหมอตัวเองสั่งให้ทำแบบนี้ สูบบุหรี่ใน รพ. ชาร์จแบตใน รพ. ไม่จ่ายเงิน ขโมย ทุบประตูอีอาร์
เปิดร้านสอนขับรถ เปิดโบสถ์ และให้ตำรวจไปเฝ้า รถชนรถล้มมาบ่อยๆ ไม่มีใบขับขี่ ชอบด่าพยาบาล ไม่ยอมให้เจาะเลือด ไม่ยอมให้ทาแผล
ทั้งยังบอกอีกว่า เคยส่งเรื่องไปให้อำเภอ ร้องเรียนไปแล้ว แต่ว่าอำเภอแจ้งกลับมาบอกว่า “อย่าทำลายการท่องเที่ยว” !!!
แบบนี้ร้องเรียนใครได้อีกบ้างไหม เหนื่อยมากๆ กับการคุยกับคนไข้อิสราเอล รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย ถ้าไปเจอข้างนอก กลัวจะโดนรุม สุดท้ายคงไม่พ้นได้ลาออก
เพจดังกล่าว เผยแพร่คลิปของกลุ่มชายอิสราเอล 2 คนที่อยู่ในภาพในบริเวณโรงพยาบาล โดยระบุว่า พวกอิสราเอล สูบกัญชา ตีมึนในโรงพยาบาล
นั่นคือ ข้อสรุปบางส่วนที่มีการร้องเรียน จนต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมร่วม ทั้งฝ่ายปกครอง-ทหาร-ตำรวจ และผู้ประกอบการในพื้นที่
ล่าสุด หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 17 ก.พ.68 “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตัดบทผู้สื่อข่าวที่ถามถึงดราม่า “ชาวอิสราเอล” เข้ามาอยู่ในพื้นที่ อ.ปาย สร้างโบสถ์และห้ามคนไทยเข้าพื้นที่ ซึ่งเกรงว่าจะเป็นปัญหาบานปลายระหว่างประเทศหรือไม่
นายกฯ ชี้แจงว่า “พอดีตรวจสอบแล้ว ไม่จริง ประชาชนฟังแค่ตรงคำถาม จะเข้มข้น ตรวจสอบแล้วไม่จริง” โดยได้รับการยืนยันจาก “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ระบุหลังจากการตรวจสอบ ไม่พบว่ามีชาวยิวเข้ามายึดครองพื้นที่หรือก่อความวุ่นวายในอำเภอปาย และเตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ในสัปดาห์หน้า
เมื่อสิ้นคำตอบของนายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” ชาวบ้าน ผู้ประกอบการร้านค้าในอำเภอปาย และคนไทยเจ้าของประเทศ ก็ได้แต่หวังว่า คนใกล้ตัวนายกฯ คงไม่ถึงกับปิดหู ปิดตา ปิดปาก ปล่อยเฟคนิวส์ให้นายกฯ ต้องเสียรังวัด หรือกรณีเจ้าหน้าที่รัฐเกียร์ว่าง กลัวความผิดจึงคิดปกปิด ไม่รายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่รายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ถ้าหาก “ยิว ยึด ปาย” ไม่มีมูลจริงตามที่นายกฯ กล่าว ก็ย่อมไม่มีกลิ่น คละคุ้งโซเชียลมีเดีย และการประชุมร้องเรียนความเดือดร้อนของชาวบ้านและผู้ประกอบการในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ จะเป็นเฟคนิวส์ด้วยหรือไม่!!!