วันนี้ (26 ก.พ.) ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ชะลอตัวลง
“ดัชนีนิกเกอิ” ปิดภาคเช้าที่ระดับ 37,814.04 จุด ลดลง 423.75 จุด หรือ -1.11%
“ดัชนีฮั่งเส็ง” ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 23,619.24 จุด เพิ่มขึ้น 585.22 จุด หรือ +2.54%
“ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต” ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,362.63 จุด เพิ่มขึ้น 16.59 จุด หรือ +0.50%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.32%
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 0.6%
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 98.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2567 จากระดับ 105.3 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 102.3 โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดแรงงาน รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค ความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือน ม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (28 ก.พ.) โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการประจำเดือน ก.พ. ในวันเสาร์นี้ (1 มี.ค.) เวลา 08.30 น. ตามเวลาไทย