แซะฝ่ายค้านตกข่าว! “จิรายุ” ย้ำรัฐบาล “แพทองธาร” ตั้งคณะทำงานรับมือสหรัฐฯ รีดภาษีโหดล่วงหน้า ก่อน “ทรัมป์” รับตำแหน่ง แจงคำสั่ง 6 ม.ค.68 เซ็นตั้ง 2 กุนซือบ้านพิษฯ-ปลัดพาณิชย์-เลขาฯ BOI พร้อมผู้เชี่ยวชาญร่วมทีมนานแล้ว เผยล่าสุด นายกฯ สั่งถกอังคารนี้ หาทางออกเจรจา
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งตั้งคณะทำงานพิเศษ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อรับมือกรณีสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตราสูงนั้น ขอยืนยันว่ารัฐบาลได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามมาตรการด้านการค้ากับสหรัฐอเมริกา มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก่อนการรับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสียด้วยซ้ำ
กรณีเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งตั้งคณะทำงานพิเศษนั้น คงล่าช้าไม่ทันการอย่างแน่นอน อาจเป็นเพราะพรรคฝ่ายค้านบางพรรค ไม่ได้ติดตามข่าวสาร ว่ารัฐบาลมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง อย่างเป็นระบบแล้ว
โดยนายกรัฐมนตรีคาดคะเนล่วงหน้าไว้แล้วว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จึงได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ในวันที่ 6 มกราคม 2568 ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วย นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ, นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์, นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, นายฉันทานน์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ, น.ส.ใจไทย อุปการนิติเกษตร รองอธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้, นางขวัญนภา ผิวนิล นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ และนายโอม บัวเขียว คณะทำงานประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดจากแถลงการณ์นายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ยังได้กำหนดแนวทางความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน เพื่อรับมือผลกระทบอย่างเป็นระบบ ดังนี้
รัฐบาลพร้อมหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในโอกาสแรก เพื่อปรับดุลการค้าให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายและจัดเตรียม “ข้อเสนอเพื่อปรับดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีสาระสำคัญเพื่อให้สหรัฐฯ ได้เจรจากับไทย” ที่เหมาะสม
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้เร่งประสานเอกชนปรับโครงสร้างการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวให้อุตสาหกรรมไทย และวางมาตรการรองรับในการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทยที่มีตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก แสวงหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดเดียว ตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว
“รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และได้วางมาตรการรองรับในการเยียวยา และบรรเทาผลกระทบที่อาจมีต่อผู้ประกอบการส่งออกของไทยที่มีตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดหลัก ซึ่งนายกรัฐมนตรียังติดตามผลการประชุมอย่างต่อเนื่องมาตลอดกว่า 4 เดือน และในวันที่ 8 เม.ย.นี้ นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานเกี่ยวกับมาตรการการค้าสหรัฐอเมริกา เวลา 13.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหัวหน้าส่วนราชการทั้งหมด เข้าร่วมประชุม
ขอย้ำว่า “รัฐบาลได้เตรียมความพร้อม เพื่อปรับดุลการค้าให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยจะส่งผลกระทบต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด และขอขอบพระคุณที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคให้คำแนะนำ” นายจิรายุ กล่าว