โฆษกอุตฯ เปิดผลตรวจเหล็กเส้นตึก สตง.ถล่ม หลังเก็บตัวอย่างรอบแรก พบ 3 ชนิด “ตกค่ามาตรฐาน” จับตาสถาบันเหล็กฯ ทดสอบซ้ำอีก 40 ท่อน 21 เม.ย.นี้ ขู่เอาผิดผู้ผลิต เล็งยึดใบอนุญาต-ปิดโรงงาน ย้ำไม่ให้คนผิดมีที่ยืน
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกรณีการตรวจสอบเหล็กเส้นที่เก็บตัวอย่างมาจากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม นั้น นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการด้วย “ความโปร่งใส” ต้องถูกต้องตามกระบวนการ เปิดเผยข้อมูลทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้
นายพงศ์พล กล่าวอีกว่า ได้รับแจ้งผลการทดสอบเหล็กเส้น SKY จากตึก สตง. เมื่อวันที่ 3 เม.ย.68 โดยสถาบันเหล็กฯ มีผลเป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้คือ มีเหล็ก 3 ชนิดที่ตกค่ามาตรฐาน มอก. ได้แก่
1.เหล็กข้ออ้อย 12 มิลลิเมตร ตกทดสอบความสูงของบั้ง (การยึดเกาะกับปูน)
2.เหล็กข้ออ้อย 20 มิลลิเมตร ตกทดสอบค่าเหล็กเบา (มวลต่อเมตร)
3.เหล็กข้ออ้อย 32 มิลลิเมตร ตกทดสอบค่าแรงดึง (การรับแรง)
และเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงอุตฯ โดยทีมสุดซอย ได้ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และผู้แทนอิตาเลียนไทย ได้เข้าเก็บตัวอย่างเหล็กเพิ่มเติมจากบริเวณตึก สตง. ถล่ม ซึ่งการเก็บตัวอย่างเหล็กเส้นหลายจุดหลากหลายชนิดและขนาดจำเป็นต้องเลือกชุดตัวอย่างให้ครบ 5 เส้น/ชั้นคุณภาพ/ขนาด/ยี่ห้อ เพื่อให้เป็นไปตามหลักวิชาการเรื่องการชักตัวอย่างและการตัดสิน
โดยได้ตัวอย่างเหล็กเส้นเพิ่มจำนวน 8 ชนิดๆ ละ 5 ท่อน รวมทั้งสิ้น 40 ท่อน และจะทำการตรวจสอบตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ โดยสถาบันเหล็กฯ เพื่อให้ได้ข้อมูลในการดำเนินการเอาผิดต่อผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของการตรวจสอบหากพบเจ้าหน้าที่คนใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องได้รับโทษด้วย ไม่มีการช่วยเหลือใดๆ
ทั้งนี้ ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ สถาบันเหล็กฯ จะทดสอบทุกรายการตามมาตรฐาน มอก. 24-2559 ดังนี้
1.มวลต่อเมตร
2.ช่วงระหว่างบั้ง ส่วนสูงของบั้ง และความกว้างครีบ
3.ส่วนประกอบทางเคมี
4.ความต้านแรงดึง (Tensile)
5.ความต้านแรงดึงที่จุดคราก (Yield strength)
6.ความยืด (Elongation)
7.ความดัดโค้ง (Bending)
8. มุมระหว่างบั้งครีบแกนของเหล็ก
9. เครื่องหมายที่เหล็กข้ออ้อย
“ผลการตรวจสอบหากผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ไม่ควรมีระบบสอบตก ขอครูสอบใหม่ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะผ่าน อันนั้นไม่ถูกต้อง สิ่งที่สำคัญคือความปลอดภัยของประชาชน หากผู้ผลิตมีความผิด ก็ต้องรับโทษ-ยึดใบอนุญาต-ปิดโรงงาน ตามขั้นตอน เพราะสังคมคาดหวัง และเราจะไม่ให้ที่ยืนกับโรงงานไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอีกต่อไป” นายพงศ์พล ระบุ