“ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ” จีนเตือนคู่ค้าทุกประเทศ อย่าคิดประนีประนอมสหรัฐฯ ฮึ่ม! ประเทศไหนจำกัดการค้าจีน-เลือกข้างมะกันทำร้ายจีน แลกให้ “ทรัมป์” ยกเว้นภาษีตอบโต้ ระวังเจอโต้กลับ ขู่ฟอดทำอะไรไว้ต้องรับความเสี่ยงเอง พร้อมใช้มาตรการเอาคืน “อย่างเด็ดขาด” ภาคธุรกิจญี่ปุ่นรับหนักใจ ไม่ต้องการเลือกข้าง 2 มหาอำนาจโลก จับตา “ไทย” เปิดโต๊ะเจรจา 23 เม.ย.นี้ คิวต่อไป “เกาหลีใต้-อินเดีย”
กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์เตือนประเทศต่าง ๆ อย่าจำกัดการค้าจีนเพื่อแลกกับการได้รับการยกเว้นภาษีทรัมป์ทางการจีนออกมาเตือนประเทศคู่ค้าของตนไม่ให้ดำเนินมาตรการจำกัดการค้ากับจีนเพื่อแลกกับการยกเว้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
โดยเมื่อวันที่ 21 เม.ย. โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่า “การประนีประนอมไม่ได้นำมาซึ่งสันติภาพ และการประนีประนอมไม่สามารถสร้างความเคารพได้”
โฆษกกล่าวในแถลงการณ์ว่า “การแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวชั่วคราวโดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น เพื่อแลกกับสิ่งที่เรียกว่าการยกเว้นนั้น ก็เหมือนกับการ ‘ขอหนังจากเสือ’ คือสุดท้ายแล้วมันจะไม่เกิดผลอะไร และจะทำร้ายทั้งผู้อื่นและตัวเราเอง”
จีนเชื่อว่าทุกฝ่ายควรยืนหยัดอยู่เคียงข้างความยุติธรรม และควรปกป้องกฎเกณฑ์การค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศและระบบการค้าพหุภาคี
โฆษกฯ เสริมว่า “จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อฝ่ายใดก็ตามที่บรรลุข้อตกลงโดยสร้างความเสียหายแก่จีน หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น จีนจะไม่ยอมรับและจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ทรัมป์ได้ระงับการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของหลายประเทศเป็นเวลา 90 วัน แต่ยังคงเน้นการบีบจีนเป็นหลัก โดยเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 145%
“วอลล์สตรีทเจอร์นัล” รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลทรัมป์มีแผนจะใช้การเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อกดดันให้คู่ค้าของสหรัฐฯ จำกัดการติดต่อกับจีน โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อซึ่งทราบเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
แนวคิดดังกล่าวคือการพยายามโดดเดี่ยวเศรษฐกิจของจีนออกไป แลกกับการลดอุปสรรคทางการค้าและภาษีศุลกากรที่ทำเนียบขาวกำหนด รวมถึงการขอให้ประเทศต่างๆ ไม่อนุญาตให้จีนส่งสินค้าผ่านประเทศของพวกเขา ป้องกันไม่ให้บริษัทจีนตั้งถิ่นฐานในดินแดนของประเทศเหล่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และไม่ให้ประเทศเหล่านั้นดูดซับสินค้าอุตสาหกรรมราคาถูกของจีนเข้าไปในเศรษฐกิจของตน
ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ได้เริ่มเจรจากับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนทางการค้าเกี่ยวกับภาษีศุลกากรแล้ว โดยคณะผู้แทนญี่ปุ่นได้เยือนสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเกาหลีใต้มีกำหนดจะเริ่มเจรจาในสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่มีกำหนดนัดหมายเจรจาในวันที่ 23 เม.ย.นี้
โดยตั้งแต่ที่ “ทรัมป์” กลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์ได้กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูง ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็ถูกเรียกเก็บภาษีสินค้าเช่นกัน
รายงานดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่สหรัฐฯ มีแผนจะใช้การเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรเพื่อกดดันให้ประเทศต่างๆ หลายสิบประเทศกำหนดมาตรการกีดกันการค้ากับจีน
“เจสเปอร์ คอล” จากบริษัทโมเน็กซ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ของญี่ปุ่น กล่าวว่า “ถ้าให้พูดตามตัวเลขแล้ว กำไรของญี่ปุ่นประมาณ 20% มาจากสหรัฐฯ และอีกประมาณ 15% มาจากจีน แน่นอนว่าญี่ปุ่นไม่ต้องการเลือกระหว่างสหรัฐฯ กับจีน”
ญี่ปุ่นเริ่มการเจรจากับสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย “เรียวเซอิ อากาซาวะ” ผู้เจรจาด้านภาษีศุลกากรชั้นนำของญี่ปุ่น เข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ด้าน “ฮัน ด็อกซู” รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่า เกาหลีใต้จะเริ่มเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน “เจดี แวนซ์” รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาดว่าจะพบกับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย ในระหว่างการเยือนอินเดียในสัปดาห์นี้ โดยอินเดียจะเผชิญกับอัตราภาษีศุลกากร 26% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับรัฐบาลทรัมป์ได้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ภาษีนำเข้าจะกระตุ้นให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ซื้อสินค้าที่ผลิตในอเมริกามากขึ้น เพิ่มปริมาณภาษีที่จัดเก็บได้ และนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ในประเทศ แต่บรรดานักวิจารณ์กล่าวว่าการนำการผลิตกลับคืนสู่สหรัฐฯ นั้น มีความซับซ้อนและอาจใช้เวลานานหลายทศวรรษ และในระหว่างนี้เศรษฐกิจจะประสบปัญหา
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังกลับคำพูดในหลายๆ เรื่องที่เขาเคยประกาศ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่มีการเก็บภาษีในอัตราสูงกับประเทศคู่ค้าหลายสิบรายของสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนนี้ เขาได้ประกาศหยุดเก็บภาษีกับทุกประเทศยกเว้นจีนเป็นเวลา 90 วัน ท่ามกลางการต่อต้านที่เพิ่มขึ้นจากนักการเมืองและตลาด
ทรัมป์ได้จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 145% ขณะนี้ ประเทศอื่นๆ กำลังเผชิญกับภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 10% จนถึงเดือนกรกฎาคม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลของเขาได้กล่าวอีกว่า เมื่อมีการเพิ่มภาษีนำเข้าใหม่เข้าไปในภาษีนำเข้าที่มีอยู่เดิม ภาษีนำเข้าสินค้าจีนบางรายการอาจสูงถึง 245% ทรัมป์กล่าวว่ามีประเทศต่างๆ มากกว่า 70 ประเทศที่แจ้งขอเจรจาตั้งแต่มีการประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้า
