เขย่าซ้ำ สตง. !! “ปานเทพ” นำพยานปากเอก “อดีตข้าราชการ สตง.” เคยรับใช้ผู้บริหารระดับสูง ดอดให้ข้อมูลสำคัญ พร้อมหอบเอกสาร-พยานวัตถุ ชง “ดีเอสไอ” ลากไส้ “บิ๊ก” ส่อทุจริต แย้มมี “หนึ่งใน 6 คตง.” เอี่ยวตึกถล่ม! ปูดคลิปเสียง สั่งการบริษัทควบคุมงานในขั้นออกแบบ โยงถึงผู้รับเหมา ชี้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่าสิบคน ซัด “อดีตผู้ว่าฯ ประจักษ์” เซ็นเองทุกอย่าง ลั่นหากตึกไม่ถล่มคงไม่รู้เห็นความเน่าเฟะ “หัวหมู่บ้านท่าพระอาทิตย์” แย้มมีหลักฐานเด็ดตั้งแต่ปี 63 ติงอย่าแยกส่วนคดี จ้องฟัน “นอมินีทุนจีน” อย่างเดียวไม่พอ กังขา! ย้ายพื้นที่ก่อสร้างจากปทุมธานีมาจตุจักร แค่นี้ไม่พอ ยังแก้แบบถี่ยิบ ทำงบบานปลาย แถมหลายรายการยัง “ราคาแพงกว่าท้องตลาด”
ความคืบหน้ากรณีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ล่าสุดวันนี้ (23 เม.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วย นายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ หรือต้น อายุ 51 ปี อดีตข้าราชการ สตง. ในฐานะพยานสำคัญ เดินทางเข้ามอบพยานเอกสารและวัตถุพยานสำคัญมามอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้พิจารณาดำเนินคดีพิเศษ
นายปานเทพ เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำพยานหลักฐานการประชุม เป็นทั้งเอกสารและคลิปวิดีโอการสนทนาระหว่างบุคคล มามอบให้กับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ โดยหลักฐานมีจำนวนมาก ที่ได้รวบรวมมาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งวัตถุพยานดังกล่าวได้จากพยานทั้งอดีตข้าราชการของ สตง. และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
สำหรับกรณีของตึก สตง.ถล่ม ตนมองว่าจะพิจารณาแบบแยกส่วนไม่ได้ เพราะจะเห็นได้ว่ามีการออกหมายจับเพียงแค่ประเด็นเดียว คือ นอมินีของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) แต่ประเด็นอื่นที่เป็นสาระสำคัญแห่งคดี ที่มาที่ไปของตึกถล่ม จะพิจารณาจากเรื่องนอมินีเพียงอย่างเดียวไม่พอ
“พยานหลักฐานที่นำมามอบให้ ถูกตั้งข้อสงสัยในการดำเนินโครงส่อไปทางในทางทุจริต ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของการก่อสร้างอาคาร ย้ายจากพื้นที่ จ.ปทุมธานี มาเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย พื้นที่เขตจตุจักร ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบอาคารใหม่ จนทำให้เกิดปัญหาตั้งแต่การออกแบบ ที่พบว่ามีการแก้แบบเป็นจำนวนหลายครั้ง ไปจนถึงการแต่งตั้งจัดหาบริษัทควบคุมงาน การก่อสร้าง และการตั้งงบประมาณ ที่พบว่าหลายรายการ ราคาเกินกว่าราคาในท้องตลาด”

ทั้งนี้ อดีตข้าราชการ สตง. ที่อ้างตัวว่าใกล้ชิดผู้บริหารระดับสูงใน สตง. ซึ่งรู้เห็นพฤติกรรมผิดปกติส่อไปในเชิงทุจริตโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ ได้เปิดเผยหลักฐานที่มีอยู่ มีทั้งคลิปวิดีโอ และเสียงบันทึกการสนทนาระหว่างบุคคล ที่ถูกบันทึกและใช้ให้ตัวเองไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายหลายครั้ง เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่อไปในเชิงทุจริต และมีเกี่ยวข้องรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คน จึงนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ
สำหรับสาเหตุที่ออกมาเปิดโปงความไม่โปร่งใสของโครงการก่อสร้างตึก สตง. นายณรัฐนันทน์ กล่าวว่า ตนทำงานที่ สตง.มานาน 18 ปี ได้เห็นความไม่ชอบมาพากลปี 2563 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยความเป็นข้าราชการ บางครั้งในระบบราชการเรามีผู้บังคับบัญชา อีกทั้งเราก็ห่วงความปลอดภัย ความก้าวหน้าทางอาชีพข้าราชการ แต่ในวันนี้ตนเห็นสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นแล้ว ตนมองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ มีคนเสียชีวิต คนเหล่านั้นควรได้รับความยุติธรรม ผู้บริหารหรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรจะมีส่วนรับผิดชอบ ตนจึงเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ที่เราควรจะเปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณะชนสังคมรับทราบ
“ผมได้ออกจาก สตง.มาตั้งแต่เดือน ก.ย.2567 ส่วนสาเหตุที่ออกไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องตึก สตง. แห่งใหม่ถล่ม และไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริต แต่เป็นเรื่องส่วนตัวที่ผมมองว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะอาจไปรู้ความลับมากเกินไป และผมก็อยู่ระหว่างการอุทธรณ์สำนวนคดีแล้ว จึงไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนรวม”
เมื่อถามถึงจำนวนผู้บริหารชั้นผู้ใหญ่ที่รู้เห็นพฤติการณ์ไม่ชอบมาพากลใน สตง. นายณรัฐนันทน์ กล่าวว่า ในมุมมองของตนไม่ต่ำกว่า 10 ท่าน และขออนุญาตกล่าวว่าสัญญาจ้างผู้ออกแบบ สัญญาจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง สัญญาจ้างผู้ควบคุมงาน ที่ สตง.เป็นผู้ว่าจ้าง ลงนามโดยนายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

นอกจากนี้ หลักฐานในวันนี้จะเกี่ยวข้องกับผู้บริหารในอดีตหรือปัจจุบัน ตนขอแจงว่า ในชุดผู้บริหารปัจจุบัน ท่านผู้บริหารก็ยังมีอำนาจอยู่ พร้อมยอมรับว่ากังวลเรื่องของความปลอดภัยที่ออกมาพูดในวันนี้ แต่คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ควรพูดและนำเสนอ ถ้าเราไม่ออกมาทำเพื่อสังคมบ้าง สิ่งต่างๆเหล่านี้หากตึกไม่ถล่มก็ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในองค์กร สตง.
“ผมขออนุญาตให้ความเป็นธรรมต่อคำถามของนักข่าว เรื่องที่มีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) ที่ถามว่ามี คตง.เกี่ยวข้องหรือไม่ ปัจจุบันเรามี คตง. 6 ท่าน ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับ คตง.อีก 5 ราย เพราะ 5 รายนี้ ผมไม่เคยได้ข้อมูลว่าท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร แต่มี 1 ท่านที่ผมรับใช้ใกล้ชิด”
ทั้งนี้ ตนขอให้พี่น้องข้าราชการ สตง.ที่ทราบเรื่อง เพราะ สตง. ยังมีคนดี คนที่ไม่ได้มีส่วนร่วม ยังมีข้าราชการที่ดีให้ช่วยออกมาเยอะๆ มาเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ท่านทราบ เช่น ทำไมราคากลางมันถึงแพง เกิดอะไรขึ้น เพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร ให้เห็นว่า สตง.ยังมีคนดี