12 รัฐของสหรัฐฯ ฮึ่ม! ยื่นฟ้อง “ทรัมป์-ฝ่ายบริหาร” อัดมาตรการ “รีดภาษีนำเข้า” ผิดกฎหมาย จวกยับ! ประมาททางเศรษฐกิจ หลัง “ทรัมป์” ใช้อำนาจเกินขอบเขตประธานาธิบดี ทำลายหลักรัฐธรรมนูญ
“สำนักข่าวซีเอ็นบีซี” รายงานว่ารัฐต่างๆ ในสหรัฐทั้ง 12 แห่งได้รวมตัวกันยื่นฟ้องประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” และคณะบริหารของเขา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ศาลตัดสินว่าการเก็บภาษีนำเข้าใหม่ที่ทรัมป์ประกาศใช้นั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
“เลทิเทีย เจมส์” อัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า ประธานาธิบดีไม่มีสิทธิ์ที่จะขึ้นภาษีตามความต้องการของตนเอง แต่ทรัมป์ได้ทำเช่นนั้นไปแล้วผ่านการเก็บภาษีเหล่านี้ ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นถึงการใช้อำนาจเกินขอบเขตของประธานาธิบดี
คดีความนี้ถูกนำเสนอต่อศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะ โดยประเด็นหลักของการฟ้องร้องคือการโต้แย้งว่าประธานาธิบดีไม่มีอำนาจที่จะกำหนดภาษีศุลกากรได้ตามใจชอบ ภายใต้กฎหมายอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ทรัมป์ใช้อ้างอิงในการกำหนดนโยบายภาษีศุลกากรของเขา
การฟ้องร้องทางแพ่งครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก 5 แห่งได้ยื่นฟ้องทรัมป์ในศาลเดียวกันเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยโต้แย้งความถูกต้องตามกฎหมายของภาษีศุลกากรใหม่ด้วยเหตุผลเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะผู้พิพากษา 3 คนในศาลได้ปฏิเสธคำขอของกลุ่มธุรกิจเหล่านั้น ที่ต้องการให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อหยุดการเก็บภาษีศุลกากรใหม่ของทรัมป์ในระหว่างที่คดียังไม่สิ้นสุด
นอกเหนือจากรัฐนิวยอร์กแล้ว รัฐอื่นๆ ที่ร่วมกันยื่นฟ้องทรัมป์ในคดีใหม่เมื่อวันพุธ ได้แก่ แอริโซนา, โคโลราโด, คอนเนตทิคัต, เดลาแวร์ฐ, อิลลินอยส์, เมน, มินนิโซตา, นิวเม็กซิโก, ออริกอน และเวอร์มอนต์
ในคำฟ้องของรัฐต่างๆ ระบุว่า “ตลอดเกือบ 50 ปีที่กฎหมายอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) ถูกบังคับใช้ ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดใช้กฎหมายนี้ในการกำหนดภาษีศุลกากรเลย แม้ว่าสหรัฐฯ จะเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ เช่น การรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดทั่วโลก หรือการขาดดุลการค้ามาอย่างยาวนานก็ตาม”
รัฐต่างๆ จึงสรุปว่า “เนื่องจากภาษีเหล่านี้ผิดกฎหมาย ศาลควรประกาศว่าภาษีเหล่านี้ไม่มีผลบังคับใช้ และสั่งห้ามหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของจำเลยบังคับใช้ภาษีเหล่านี้ รวมถึงยกเลิกการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำภาษีเหล่านี้ไปปฏิบัติ”
ด้าน “คริส เมเยส” อัยการสูงสุดของรัฐแอริโซนา กล่าวว่า แผนภาษีศุลกากรที่บ้าคลั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เพียงแต่เป็นการประมาททางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังผิดกฎหมายอีกด้วย
“รัฐแอริโซนาไม่สามารถแบกรับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ ไม่ว่าทำเนียบขาวจะกล่าวอ้างอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วภาษีศุลกากรเหล่านี้ก็คือภาษีที่ผู้บริโภคในรัฐแอริโซนาต้องเป็นผู้จ่าย”
คำฟ้องยังระบุอย่างชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกามอบอำนาจในการกำหนดและเก็บภาษีต่างๆ รวมถึงภาษีนำเข้าให้แก่ “รัฐสภา” ไม่ใช่ประธานาธิบดี
นอกจากนี้ คำฟ้องยังกล่าวอีกว่า “การที่ประธานาธิบดีอ้างว่าตนเองมีอำนาจในการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรที่สูงมากและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา สำหรับสินค้าใดๆ ก็ตามที่นำเข้าสู่สหรัฐตามความต้องการของตน โดยอ้างเหตุผลใดๆ ก็ตามที่เขาเห็นสมควรในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ถือเป็นการทำลายหลักการตามรัฐธรรมนูญ และจะนำมาซึ่งความสับสนวุ่นวายต่อระบบเศรษฐกิจของอเมริกา”