Home Feature ป.ป.ช.ชี้มูล ‘ภูมิ สาระผล’ อดีต รมช.พาณิชย์ ร่ำรวยผิดปกติ! ขอศาลสั่งยึดทรัพย์

ป.ป.ช.ชี้มูล ‘ภูมิ สาระผล’ อดีต รมช.พาณิชย์ ร่ำรวยผิดปกติ! ขอศาลสั่งยึดทรัพย์

by admin

“ป.ป.ช.” ชี้มูลความผิด “ภูมิ สาระผล” อดีต รมช.พาณิชย์ “ร่ำรวยผิดปกติ” เกือบ 20 ล้าน ขอศาลสั่งยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ระบุเพิ่งได้รับการปล่อยตัวพักโทษเมื่อ ก.ย.67 หลังถูกจำคุกคดีระบายข้าวจีทูจี

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายภูมิ สาระผล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส. วาระปี 2554 และตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ มูลค่ารวม 19,947,750 บาท ซึ่งอยู่ในการถือครองของนางอรอนงค์ สาระผล คู่สมรส, น.ส.ภณิดา สาระผล และนายภพพล สาระผล บุตร

พร้อมกันนี้ได้ส่งอัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งยึด ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน โดยมีทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ดังนี้

1. ทรัพย์สินในชื่อของนางอรอนงค์ สาระผล คู่สมรส คือ เงินที่นำไปชำระค่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน 7 คน ยี่ห้อ VOLKSWAGEN ทะเบียน ฮบ 22 กรุงเทพมหานคร มูลค่า 3,280,000 บาท จากบริษัท พรีเมี่ยม ออโต้ จำกัด จำนวน 1,430,000 บาท

2. ทรัพย์สินในชื่อของ น.ส.ภณิดา สาระผล บุตร ดังนี้

2.1 เงินฝากในบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสรงประภาดอนเมือง ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี น.ส.ภณิดา สาระผล จำนวน 3 รายการ รวมจำนวน 1,386,750 บาท

2.2 เงินฝากในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนสรงประภา (ดอนเมือง) ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี MISS PANIDA SARAPOL จำนวน 490,000 บาท

2.3 เงินฝากในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี น.ส.ภณิดา จำนวน 3 รายการ รวมจำนวน 2,261,000 บาท

2.4 เงินที่ น.ส.ภณิดา ได้มาจากการขายที่ดินโฉนดเลขที่ 67350 ตำบลยายชา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 จำนวน 11,000,000 บาท

สำหรับรายการที่ 2.4 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตรวจพบพฤติการณ์การทำธุรกรรมของบุคคลใกล้ชิดของนายภูมิ สาระผล ที่มิใช่ญาติ โดยนำเงินสดไปซื้อแคชเชียร์เช็คธนาคารกสิกรไทย เพื่อชำระค่าซื้อที่ดินแปลงติดริมแม่น้ำนครชัยศรี โดยมีการระบุราคาตามสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นเงิน 3,500,000 บาท แต่ปรากฏเส้นทางการเงินว่ามีการนำเงินสดไปซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายผู้ขายที่ดิน จำนวน 2 ฉบับ คือ แคชเชียร์ฉบับที่ 1 จำนวน 3,500,000 บาท และแคชเชียร์เช็คฉบับที่ 2 จำนวน 4,800,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 8,300,000 บาท โดยใช้ชื่อ น.ส.ภณิดา สาระผล เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และต่อมา น.ส.ภณิดา ได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้บุคคลอื่น ในราคา 11,000,000 บาท

2.5 เงินดาวน์รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น PRIUS ทะเบียน ฎช-599 กรุงเทพมหานคร ที่ น.ส.ภณิดา สาระผล ชำระด้วยเงินสด รวมจำนวน 880,000 บาท

3. ทรัพย์สินในชื่อของนายภพพล สาระผล บุตร ดังนี้

3.1 เงินฝากในบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น ประเภทฝากประจำ ชื่อบัญชี นายภพพล สาระผล จำนวน 500,000 บาท

3.2 เงินที่นายภพพล นำไปซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 66960 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น และโฉนดเลขที่ 170170 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น จำนวน 2 แปลง ราคาตามสัญญา 1,000,000 บาท

3.3 เงินที่นายภพพล สาระผล นำไปซื้อโฉนดเลขที่ 170171 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น จำนวน 1 แปลง ราคาตามสัญญา 1,000,000 บาท

สำหรับเงินที่นางอรอนงค์ สาระผล คู่สมรส นำไปชำระค่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ยี่ห้อ VOLKSWAGEN ทะเบียน ฮบ 22 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,850,000 บาท และเงินที่นำไปชำระค่ารถยนต์ นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ JAGUAR ทะเบียน สม 1148 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,000,000 บาท เป็นทรัพย์สิน ที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงแหล่งที่มาได้ จึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า ผู้ถูกกล่าวหา “ร่ำรวยผิดปกติ” โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ซึ่งอยู่ในการถือครองของนางอรอนงค์ คู่สมรส, บุตรทั้งสอง คือ น.ส.ภณิดา และนายภพพล เป็นเงินทั้งสิ้น 19,947,750 บาท

ทั้งนี้ ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน ตามรายการทรัพย์สินดังกล่าว ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 118 ต่อไป

“หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้วแต่กรณี ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามนัยมาตรา 125 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561”

ขณะที่เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการไต่สวนพร้อมเอกสารหลักฐานให้สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว

สำหรับนายภูมิ สาระผล เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งนายภูมิต้องโทษจำคุกในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เมื่อปี 2558 พร้อมกับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกรณีของนายภูมิได้รับการปล่อยตัวพักโทษตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา

Related Articles