“พิชัย” ตอบ “ศิริกัญญา” เลื่อน-ไม่เลื่อน คุย “ภาษีทรัมป์” ไม่ใช่ประเด็น ดีใจไม่รีบไป รอจังหวะ ขอเฝ้ามองกรอบประเทศใหญ่ พร้อมเฝ้าจับตาจีน-สหรัฐฯ คุยกัน ภาวนาคลื่นเล็กลง ทำงานง่ายขึ้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (25 เม.ย.) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตถึงการเลื่อนเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาเรื่องกำแพงภาษีของทีมไทยแลนด์ ซึ่งไทยอยู่ในลิสต์ที่สหรัฐฯ จะเจรจาด้วยหรือไม่ ว่า เราเลื่อนหรือเขาเลื่อน ตนว่าไม่ใช่ประเด็น แต่อยู่ที่ว่าเวลาที่เหมาะสม นั่นคือคำตอบ ถ้าเวลาไม่เหมาะสมเราก็อยากขอเลื่อน เพราะวันนี้เราได้ดูแล้วเวลาและโอกาสที่เหมาะสม
นายพิชัย กล่าวว่า ข้อแรกเราไม่ได้เป็นคู่ค้าที่ใหญ่ใน 10 อันดับแรก ถึงแม้เราจะได้เปรียบดุลการค้า ดังนั้นถ้าเขาจะเจรจาอะไรเขาจะมีกรอบ ก็คงต้องเดินตามกรอบของรายใหญ่ ฉะนั้นถ้าเรารู้ว่ารายใหญ่เขาตกลงอะไรได้ในกรอบ เราจะได้หันมาปรับเพื่อให้เท่ากัน ดังนั้นจังหวะเวลาตนดีใจที่เราไม่รีบไป เพราะยังไงเขาก็ต้องเอากรอบใหญ่และเดี๋ยวจะไม่มีข้อยุติ
ข้อที่สอง เราจะได้พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของสิ่งที่เกิดการเจรจา ทางเราได้รักษาสภาพการอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการในโลกว่ามีการขอพูดคุยเรื่องที่เกี่ยวกับ Tariff และ Non-Tariff และบวกขึ้นไปมากกว่านั้น ซึ่งเงื่อนไขทางการค้าที่เปลี่ยนไป นำมาซึ่งเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ และการเงินที่เปลี่ยนไปและวันนี้ก็เกิดผลกระทบทุกคน ดังนั้นการคุยอาจจะมีเรื่องเงื่อนไขทางการเงินประกอบเงื่อนไขทางการค้าด้วย ก็ต้องเตรียมการเรื่องเหล่านี้ ว่าเราต้องทำอย่างไร ทั้งเรื่องค่าของเงิน อัตราดอกเบี้ย และหลายๆอย่างที่เกี่ยวข้อง เราต้องเตรียมตัวไป ซึ่งแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน
“ฉะนั้นผมคิดว่าใครจะเลื่อน หรือไม่เลื่อน จังหวะเวลาวันนี้เราต้องดูว่าครบถ้วนไหม ถ้าเขาคิดว่าเขาได้กรอบแล้ว เขาอยากคุยกับเรา เขาคงส่งสัญญาณมา และถ้าเราเห็นว่ากรอบครบแล้ว เราก็จะบอกว่าเดี๋ยวจะไปนะ เพราะจริงๆแล้วผมคิดว่าทั้งหมดเลยเป็นร้อยประเทศ สุดท้ายแล้วจะแยกเป็นสองประเภท คือประเภทหนึ่งอยู่ในกรอบที่อธิบายได้ว่าอยู่ในกรอบเดียวกัน แต่เงื่อนไขอาจจะต่างกันบ้างตามสถานะของแต่ละประเทศ” นายพิชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ต้องดูท่าทีของจีนกับสหรัฐฯ ที่จะพูดคุยกันด้วยใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ถามว่าสำคัญไหม ก็สำคัญ ตนก็เฝ้าจับตาเงื่อนไขนี้ตลอด ก็เห็นพัฒนาการไปในทางที่เราแอบคาดเดาไว้นิดๆอยู่แล้ว ว่ามาทางนี้ ก็ดูอยู่เรื่อยๆ ฉะนั้นก็ภาวนาหวังว่าจะพัฒนาไปทางที่ดีขึ้น คลื่นลูกนี้ก็จะเล็กลง เราก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งจำเป็นมากที่จะต้องดูควบคู่กันไป
เมื่อถามต่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลอะไรที่ช่วยได้มากหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องตนไม่ค่อยแตะ เพราะมีอยู่ในเงื่อนไขหนึ่งถ้าอ่านให้ดีจากรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เขามีกติกาอยู่ตั้งนาแล้ว เวลาจะทำอะไรไม่อยากเห็นการแทรกแซงค่าเงิน ฉะนั้นเมื่อพูดถึงอัตราดอกเบี้ยจะมีผลต่อค่าของเงิน ฉะนั้นตนคิดว่าไม่ควรพูด แต่ก็เป็นหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เห็นทุกอย่าง ทั้งเศรษฐกิจ สภาพคล่อง ท่านจะต้องไปคิดเองว่าจะทำอย่างไร