Home Feature ‘เฉลิมชัย’ ชู E-Ticket ป้องทุจริต-เพิ่มรายได้ โต้ปมพอดแคสต์! โยงซื้อเรืออุทยาน

‘เฉลิมชัย’ ชู E-Ticket ป้องทุจริต-เพิ่มรายได้ โต้ปมพอดแคสต์! โยงซื้อเรืออุทยาน

by admin

“รมว.ทส.” ลั่นความล่าช้าคือความอยุติธรรม! เตรียมใช้ E-Ticket ป้องกันทุจริต เพิ่มรายได้-ยกระดับอุทยานฯ ชี้หากระบบเสร็จครบ 150 อุทยาน คาดมีรายรับเพิ่ม 4-5 พันล้าน พร้อมเพิ่มสวัสดิการ สร้างขวัญกำลังใจ จนท. กรณีเสียชีวิต-ทุพพลภาพ ทส.ชดเชยเพิ่ม 1 ล้าน ยันมีหลักใช้เงินเคร่งครัด ส่วนที่เหลือส่งคืนอุทยาน โต้ปมพอดแคสต์ช่องดัง โยง “ไทยมารีน” เอี่ยวซื้อเรือหลายร้อยล้าน แจงแค่ผู้รับมอบ จัดซื้อไว้นานแล้ว ส่องดูไม่มีล็อกสเปค ย้ำจำเป็นต่อภารกิจ

ด้วยนโยบายที่ “ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จึงได้มอบนโยบาย “ความล่าช้าคือความอยุติธรรม” เพื่อกำหนดเป็นมาตรการเพื่อขับเคลื่อน ตั้งแต่เรื่องการขอใช้พื้นที่ในพื้นที่เขตป่าทั้งหมด สาธารณูปโภค น้ำ ไฟ ถนน

พร้อมกับได้ให้ความสำคัญกับกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นลำดับต้นๆ เพราะเป็นกรมที่ทำหน้าที่เป็นกันชนระหว่างพี่น้องประชาชนกับภาครัฐ ทั้งเป็นกรมที่จะต้องร่วมกับกรมป่าไม้ เพื่อเข้าไปจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน โดยในปีงบประมาณ 2568 กรมอุทยานฯ ได้ประมาณการการจัดเก็บรายได้ไว้ที่ 2,200 ล้าน ในจำนวนนี้ต้องใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ของการจัดเก็บรายได้ ซึ่งจะทำให้กรมฯ สามารถใช้งบประมาณได้เพียง 600 กว่าล้านบาท นอกจากเหนือจากนั้นจะต้องใช้จ่ายเป็นสวัสดิการ และส่งคืนให้กับอุทยาน

จากการที่วันนี้กรมอุทยานฯ มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานร่วม 10,000 คน มีระเบียบค่าใช้จ่ายที่ออกไว้ตั้งแต่ปี 2566 “ดร.เฉลิมชัย” จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณานำเงินรายได้อุทยานฯ มาใช้เพื่อปรับสวัสดิการสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจครอบครัว เสียชีวิตจาก 5 แสนบาท เพิ่มเป็น 1 ล้านบาท, ทุพพลภาพจาก 5 แสนบาท เพิ่มเป็น 1 ล้านบาท, บาดเจ็บสาหัส มีเอกสารรับรองทางการแพทย์จาก 150,000 บาท เพิ่มเป็น 500,000 บาท เป็นต้น

นอกจากนี้ ดร.เฉลิมชัย ยังเร่งรัดจัดทำระบบป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติ ซึ่งในเดือน พฤษภาคม 2568 จะมีการลงนามในเรื่อง E-Ticket และ E-service ซึ่งเป็นระบบป้องกันการทุจริต ซึ่ง ปปช.ได้ให้งบประมาณมา 38 ล้านบาท กรมอุทยานฯ จึงจัดสรรสมทบอีก 70 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการนี้ หากระบบดังกล่าวแล้วเสร็จครบทั้ง 150 อุทยาน จะทำให้มีรายรับเพิ่มขึ้นราว 4-5 พันล้านบาท

“ดร.เฉลิมชัย” ได้วางแผนล่วงหน้าในการนำรายได้ดังกล่าวไปใช้เพื่อดูแลสวัสดิการ ปรับปรุงยกระดับอุทยานทั้งหมด เพื่อให้มีการออกแบบรองรับผู้พิการ และผู้สูงอายุ ทั้งไทยและต่างประเทศให้สามารถเข้าพื้นที่ของกรมอุทยานได้ พร้อมกับได้รับการประกันภัย ประกันชีวิต ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นได้

ส่วนกรณีที่มีรายการ Podcast ช่องดังอ้างว่ามีการจัดซื้อเรือด้วยงบประมาณหลายร้อยล้านบาท และมีบริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด เข้าร่วมประมูลด้วยนั้น ดร.เฉลิมชัย ระบุว่า ในช่วง 7 เดือนเศษที่เข้ามารับตำแหน่ง ตนเป็นผู้รับมอบเรือ ซึ่งเป็นเรือที่มีการเซ็นซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง และเรือที่ใช้นั้นได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงาน และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมถึงการกำหนดราคากลางและการจัดทำขอบเขตของงาน (TOR) เป็นไปตามมาตรฐานและคุณลักษณะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับกระบวนการประกวดราคาจัดซื้อเรือ ได้ดำเนินการผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยอุทยานฯ ที่ทำรายได้ให้มากที่สุด ก็คืออุทยานทางทะเล โดยเฉพาะทางฝั่งอันดามัน ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องใช้เรือ เพราะการไปเกาะมันเหาะไปไม่ได้

ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ออกแถลงการณ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงถึงการจัดซื้อเรือเพื่อใช้ในภารกิจการลาดตระเวน ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเล ดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว พร้อมกับได้ตรวจสอบแล้วไม่พบว่า บริษัท ไทยมารีน (ภูเก็ต) จำกัด มีการยื่นเอกสารประมูลกับทางกรมอุทยานฯ แต่อย่างใด ดังรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/share/p/1Bu4pwjYD2/

Related Articles