“ภูมิธรรม” ต้อนรับ รมว.กลาโหมกัมพูชา ในโอกาสร่วมประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 17 หลังเลื่อนจากกำหนดเดิมต้นเดือน มี.ค. ท่ามกลางความตึงเครียดชายแดนกรณีปราสาทตาเมือนธม เผยถกวาระ “ความมั่นคง” สางปัญหายาเสพติด-แก๊งคอลฯ พร้อมร่วมมือส่งเสริมเศรษฐกิจชายแดน ขณะที่ตำรวจตรึงกำลังเข้ม เหตุ “คปท.” บุกประชุม GBC ทวงคืบหน้าปมพิพาทชายแดน จี้ยกเลิก MOU44
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้การต้อนรับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมราชอาณาจักรกัมพูชา ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ฝ่ายกัมพูชา และคณะ ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย อย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. 2568
โดยนายภูมิธรรม และ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ร่วมพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ ที่กระทรวงกลาโหม พร้อมพบหารือกัน ก่อนที่ทั้ง 2 ประเทศ จะร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 17 (The 17th General Border Committee: GBC) ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เซอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ
สำหรับการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ที่มี รมว.กลาโหมไทย และกัมพูชา เป็นประธาน มีวาระหารือแนวทางประสานความร่วมมือในการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนเป็นไปด้วยดี ทั้งมิติด้านความมั่นคง เช่น การแก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรมปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และมิติทางด้านเศรษฐกิจชายแดน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการเลื่อนการประชุมจากกำหนดเดิมในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2568 เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่า ติดภารกิจสำคัญกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำให้การหารือในประเด็นสำคัญเกิดความล่าช้า ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด “ปราสาทตาเมือนธม” บริเวณชายแดนจังหวัดสุรินทร์
ขณะที่วันนี้ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้ประสานมายัง กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการฯ ของ GBC เพื่อยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดน รวมถึงแนวทางการยกเลิก “MOU44” โดยมีการจัดพื้นที่ใกล้เคียงสถานที่จัดประชุม เพื่อรับหนังสือข้อเรียกร้อง รวมทั้งชี้แจงถึงกลไกเจรจาเรื่องเขตแดนที่กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ
โดยบรรยากาศบริเวณด้านหน้าสถานที่จัดประชุม GBC พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก, สน.พลับพลาไชย 2 จำนวน 40 นาย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน จำนวน 1 กองร้อย ร่วมตรึงกำลังในพื้นที่