กองกำลังติดอาวุธกระเหรี่ยงอิสระ KNU – KNLA กองพลน้อยที่ 7 และกองกำลัง KNDO กองพันที่ 5 KNU บุกโจมตีค่ายเรปะนาดิ อำเภอเมียวดี และค่ายบ้านตานเหล่ ของทหารเมียนมาอย่างหนัก ทำให้มีผู้ลี้ภัยหนีเข้าไทย 343 คน ทางการไทยเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.68 กองกำลังติดอาวุธ KNLA สังกัดกองพลน้อยที่ 7 ของกลุ่ม KNU ร่วมกับ กกล.KNDO กองพันที่ 5 ของกลุ่ม KNU ได้ใช้อาวุธปืนซุ่มยิง (สไนเปอร์) และใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทิ้งระเบิดเป็นระยะๆ โจมตีทหารเมียนมา พัน.ร.24 ค่ายฐานเรปะนาดิ อ.แลงปอย จ.ผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านแม่ออกผารู หมู่ 3 ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 2.5 กม.
ในวันเดียวกัน เวลา 06.40 น. กองกำลังติดอาวุธ KNLA สังกัดกองพลน้อยที่ 7 ของกลุ่ม KNU ร่วมกับ กกล.KNDO กองพันที่ 5 ของกลุ่ม KNU ได้ใช้อาวุธปืนซุ่มยิง (สไนเปอร์) และใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทิ้งระเบิดเป็นระยะๆ โจมตีทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 24 ค่ายฐานบ้านตานเหล่ อ.แลงปอย จ.ผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านแม่ต้าน หมู่ 1 ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 7 กม.
ก่อนหน้าที่จะมีการโจมตี ได้มีราษฎรชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ใกล้ค่ายฐานของทหารเมียนมา ได้พากันเดินทางหลบหนีภัยสงครามเข้ามาในไทย
โดยเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.) เวลา 18.00 น. ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก ได้แถลงการณ์ว่า มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่มีความกังวลใจจากสถานการณ์สู้รบในพื้นที่ เดินทางข้ามแนวชายแดนมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวฝั่งไทย จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบริเวณ วัดแม่หละ ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบริเวณ สำนักสงฆ์ บ้านแม่ออกผารู ม.3 ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โดยมีผู้หนีภัยความไม่สงบ รวม 343 คน ที่ลี้ภัยเข้ามายังฝั่งไทย