“กกต.” เตรียมประกาศผลเลือกตั้ง “เทศบาล-นายกเทศมนตรี” 2,463 แห่งทั่วประเทศ ภายใน 10 มิ.ย.นี้ พบฉีกบัตร 6 รายใน 5 จังหวัด ส่วน “ใบเหลือง-ใบแดง” คาดไม่ช้ากว่า 60 วัน สรุป “เลือกตั้งท้องถิ่น 68” ฟากแชมป์เก่า-บ้านใหญ่ยังเหนียวแน่น “พรรคส้ม” พ่ายยับ! “เจี๊ยบ-อมรัตน์” ประกาศวางมือทางการเมือง “เท้งเต้ง” แถลง “ปชน.” ได้มา 3 เทศบาลเมือง-7 เทศบาลตำบล ส่วน “เทศบาลนคร” วืดหมด! ส่งไป 15 ไม่ได้สักที่นั่ง ประกาศรอศึกเลือกตั้งใหญ่ บอก ปชน.พร้อมทุกนาที หาก “เพื่อไทย” คุมพรรคร่วมไม่อยู่-โดนคว่ำงบฯ จนต้องยุบสภา ย้ำไม่มีทางร่วม “ครม.ชุดนี้” ตั้งรัฐบาลแน่
เก็บตกการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีทั่วประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11 พ.ค.68) โดยเทศบาลที่มีการเลือกตั้ง จำนวน 2,463 แห่ง แบ่งเป็นเทศบาลนคร 33 แห่ง, เทศบาลเมือง 213 แห่ง และเทศบาลตำบล 2,217 แห่ง ส่วนที่เลือกเฉพาะนายกเทศมนตรี 2,128 แห่ง ขณะที่ สท.มีการเลือกตั้งทั้งหมด 2,462 แห่ง สามารถเลือกสมาชิกได้เขตละ 6 คน โดยจะได้ สท.ทั้งหมด 33,346 คน จากผู้สมัคร 60,515 คน
โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยถึงคำร้องเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มี 338 เรื่อง และมีรายงานเพิ่มเติมอีก 14 เรื่อง รวมเป็น 352 เรื่อง ขณะที่ในการเลือกตั้งครั้งก่อนมีเรื่องร้องเรียน 1,743 เรื่อง ซึ่ง กกต.ไม่ต้องการให้เพิ่มขึ้น และพยายามทุกวิถีทางในการป้องกัน ป้องปราม ปลูกฝังค่านิยมอย่าซื้อสิทธิขายเสียง

พบฉีกบัตร 6 รายใน 5 จว.
ด้าน พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า พื้นที่ที่ต้องมีการจับตาเป็นพิเศษ คือพื้นที่ที่แข่งขันสูง เทศบาลนครใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา และชลบุรี โดยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ จากหน่วยเลือกตั้ง 34,818 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 29,936,705 คน ถือเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนครึ่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งเป็นเขตชุมชนขนาดใหญ่ โดยในการเลือกตั้งครั้ง อบต.กว่า 5,000 แห่ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ กกต.ได้รับรายงานการฉีกบัตรเลือกตั้งจำนวน 6 ราย ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ 2 ราย ที่เหลือจังหวัดละ 1 ราย ได้แก่ บุรีรัมย์, สระแก้ว, อ่างทอง และประจวบคีรีขันธ์
สำหรับการประกาศผลการเลือกตั้งฯ ทางสำนักงาน กกต. จะดำเนินการตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2566 ซึ่งกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ประกาศผลการเลือกตั้งนั้น “ภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง”
แต่ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ไม่ว่าจะมีผู้ร้องเรียนกล่าวโทษหรือไม่ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการ สืบสวนหรือไต่สวนให้แล้วเสร็จ และประกาศผลการเลือกตั้ง หรือจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือดำเนินการอื่นที่จำเป็นแล้วแต่กรณี โดยเร็ว แต่ต้องไม่ช้ากว่า 60 วันนับแต่วันเลือกตั้ง
ทั้งนี้ สำนักงาน กกต.จะดำเนินการตรวจสอบรายงานผลการเลือกตั้งจากทุกหน่วยเลือกตั้งโดยละเอียด เพื่อให้การประกาศผลการเลือกตั้งเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย
เมืองน้ำดำ! ฟาดหัวละ 3 พัน ‘ปากน้ำ’ แจกติ้ว-ขนคนลงคะแนน
เมื่อถามถึงการซื้อเสียงหัวละ 3,000 บาท ที่ จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจาก กกต.กาฬสินธุ์ รายงานเบื้องต้นเข้ามา และได้ส่งชุดสืบสวนไต่สวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว หากมีความปรากฏ ก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังมีกรณีที่น่าสนใจ โดยที่ จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วพบขบวนการวางหัวคะแนนไว้ในหลายหน่วยเลือกตั้ง กระจายไปในพื้นที่ โดยใช้มอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตในการขนคนมาลงคะแนน และมีการแจกติ้วไว้เพื่อให้นำมาขึ้นเงินในภายหลัง โดยพบว่าเน้นไปที่กลุ่มเปราะบาง หรือผู้สูงอายุ
ไต่สวนคืนหมาหอน! ซื้อเสียง ‘นครนนท์’
อย่างไรก็ดี “ในคืนหมาหอน” ช่วงค่ำของวันที่ 10 พ.ค.68 ตำรวจได้จับกุมชายอายุ 25 ปี พร้อมของกลางเป็นเงินสดและรายชื่อบุคคล 92 ชื่อ โดยตั้งข้อกล่าวหา กระทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง และ พ.ร.บ.ศุลกากร โดยจับกุมตัวได้ที่ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า “เป็นหัวคะแนน” ให้กับหนึ่งในผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ทำหน้าที่หารายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทางผู้ว่าจ้างจะให้เงินมาแจกหัวละ 350 บาท แต่จะหักค่าหัวคิว 50 บาท
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเหตุการณ์แจกเงิน 300 บาทที่ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าวว่า จ.นนทบุรีได้รายงานเหตุเรื่องการจับกุมผู้ที่รับว่าแจกเงิน พร้อมโพยรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ขณะนี้ถือว่าคณะกรรมการจังหวัดรับเป็นความปรากฏ เพื่อจะดำเนินการสืบสวนไต่สวนและรายงานให้สำนักงาน กกต.ทราบเพื่อพิจารณาต่อไป ส่วนกรณีที่มีเรื่องร้องเรียน สามารถสอบสวนให้เสร็จภายใน 60 วัน กกต.ก็มีอำนาจพิจารณาตามมาตรา 17 วรรคสอง สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ลงคะแนนใหม่ภายใน 60 วันได้

“พรรคส้ม” พ่ายยับ! วืดทุก ‘เทศบาลนคร’
สำหรับผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการที่ออกมา โดยเฉพาะนายกเทศมนตรีหลายพื้นที่ “แชมป์เก่า” หรือ “บ้านใหญ่” ยังคงพื้นที่ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ที่น่าจับตา คือการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี “เทศบาลนคร” ใน 29 แห่ง พบว่า แชมป์เก่ารักษาเก้าอี้ไว้ได้ 18 แห่ง ส่วนอีก 11 แห่งเป็น “หน้าใหม่” ที่ปาดคว้าชัย
โดยเพจการเลือกตั้งท้องถิ่น ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย โพสต์สรุปผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนคร 29 แห่ง อย่างไม่เป็นทางการ
เทศบาลนครนนทบุรี นายสมนึก ธนเดชากุล อดีตนายกเทศมนตรี 9 สมัย ซึ่งมีสัมพันธ์แนบแน่นกับพรรคเพื่อไทย ชนะนายธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ จากพรรคประชาชน (ปชน.)
เทศบาลนครเชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ บ้านใหญ่จากพรรคเพื่อไทย ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเอง สามารถเอาชนะนายธีรวุฒิ แก้วฟอง (ปชน.)
เทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายวิชัย บรรดาศักดิ์ อดีตแชมป์เก่า คว้าชัยชนะยกทีมเหนือนายภาสกร ธิติธนาวนิช (ปชน.)
เทศบาลนครนครราชสีมา นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล ทีมโคราชชาติพัฒนา เอาชนะนายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัครจาก ปชน. ขาดลอย

เทศบาลนครระยอง นายวิชัย ศรีชลา อดีตนายกเทศมนตรี คว้าชัย ส่วนนายภูษิต ไชยฉ่ำ อดีตรองนายกเล็ก ที่ลงสมัครในนามพรรคประชาชน รั้งที่ 3
เทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง ชนะ นายเดชา กลิ่นกุสุม
เทศบาลนครนครปฐม นายสมโชค พงษ์ขวัญ กลุ่มสันติธรรม แชมป์เก่า เอาชนะนายสัตวแพทย์ ชัชวาล นันทะสาร (ปชน.)
เทศบาลนครเชียงราย นายวันชัย จงสุทธนามณี แชมป์เก่า เอาชนะนายศราวุธ สุตะวงศ์ (ปชน.)
เทศบาลนครนครสวรรค์ นายจิตเกษมณ์ นิโรธธนรัฐ อดีตนายก 5 สมัย ได้ 19,761 คะแนน ชนะขาดลอยเหนือคู่แข่ง นายวรวุฒิ ตันวิสุทธิ์ (ปชน.) ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ที่ 7,071 คะแนน
เทศบาลนครลำปาง นายปุณณสิน มณีนันทน์ กลุ่มลำปางก้าวหน้า ชนะนายณรงค์ พินธิสืบ กลุ่มความสุขลำปาง ขณะที่ นายอำนวย วรญาณกุล จาก ปชน. มีคะแนนมาเป็นอันดับ 4
เทศบาลนครพิษณุโลก นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ จากคณะพัฒนานคร ชนะนางเปรมฤดี ชามพูนุช อดีตนายกเทศมนตรี ส่วนนายธนากร กิ่นผกา จาก ปชน. รั้งที่ 3

เทศบาลนครภูเก็ต นายศุภโชค ละอองเพชร ทีมรักภูเก็ต ชนะฃนายพิสุทธิ์ สุทธิจินดาวงศ์ ทีมคนหนุ่ม
เทศบาลนครนครศรีธรรมราช นายกณพ เกตุชาติ อดีตนายก ยังรักษาแชมป์ ชนะ นายเดชสิทธิ์ ลี่ดำรงวัฒนากุล
เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา นายณรงค์พร ณ พัทลุง ปาดคว้าชัยชนะเหนือ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี อดีตนายกเล็กหาดใหญ่
เทศบาลนครขอนแก่น นายประสิทธิ์ ทองแท่งไทย กลุ่มมหานครขอนแก่น อดีตรองนายก อบจ.ขอนแก่น ชนะ น.ส.เบญจมาภรณ์ ศรีละบุตร คู่แข่งจาก ปชน.
เทศบาลนครอุดรธานี นายกิตติกร ทีฆธนานนท์ กลุ่มนครหมากแข้ง ชนะนายธนดร พุทธรักษ์ กลุ่มรักษ์เมืองอุดร ส่วนนายคณิศร ขุริรัง จาก ปชน. รั้งอันดับ 3
เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ จ.ชลบุรี นายอาคมเจตน์ พันเฉลิมชัยโชค หรือนายกฮุ้น แชมป์เก่าเฉือนเอาชนะนายอภิชัย พิทยานุรักษกุล คู่แข่งจาก ปชน. ไปได้เกือบ 2 พันคะแนน
เทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นางจินดา ถนอมรอด อดีตนายกฯ ก็สามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้ด้วยคะแนนท่วมท้นเช่นกัน
เทศบาลนครบ้านสวน จ.ชลบุรี นายฉัตรชัย อั้งลิ้ม ชนะคู่แข่งสำคัญนายวิชิต ชิตวิเศษ ไปด้วยคะแนนทิ้งห่างเกือบ 8 พันคะแนน
ส่วนการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี “เทศบาลเมือง” และเทศบาลตำบล ที่น่าสนใจ
พบว่าผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น อย่างไม่เป็นทางการ นายไพรัตน์ ทวีวาร อดีตนายกฯ ได้คะแนน 9,876 คะแนน ทิ้งห่างนายจรูญ อ่วยนอก ผู้สมัครจากพรรคประชาชน ซึ่งได้ 4,588 คะแนน ขณะที่นายยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ อดีตนายกฯ หลายสมัย ได้ 3,084 คะแนน
ส่วนการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองมหาสารคาม นายภาคิน ติระพงศ์ไพบูลย์ แชมป์เก่า ฐานเสียงยังแน่น แม้ลงในนามผู้สมัครอิสระ แต่เอาชนะได้สำเร็จ

“คนธัญบุรี” กินหญ้าหวาน! “นายกเบี้ยว” ชู “ลูกพีช” นั่ง สท.
ขณะที่การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และ สท.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังนับคะแนน นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” ออกมาระบุว่า “คนดี คนดีของศรีสังคม พวกพี่คนไม่ดีแต่ชนะ คนดีแพ้ คนดีไม่ซื้อเสียง ไม่ยิง ยิงยิ่งกว่าลูกกระสุนอีก ยิ่งกว่าเอ็ม 16 อีก ยังแพ้เลย” จากนั้นประกาศว่า “สท.ยกทีมครับ คนธัญบุรีกินหญ้าหวาน” ทั้งนี้ การประกาศของนายกเบี้ยวแสดงว่านายสมิทธิพัฒน์ หรือลูกพีช ได้เป็น สท.ด้วย
ที่ จ.กาฬสินธุ์ ผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ปรากฏว่านายกีรฒิการย์ พิมพะนิตย์ ลูกชายนายวิรัช พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ชนะแชมป์เก่า นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม อดีตนายกฯ หลายสมัย